กรมการค้าภายใน 30 พ.ค.-ประกาศกกร. กำหนดมาตรการควบคุมราคาและเงื่อนไขยา
เวชภัณฑ์ ค่ารักษาพยาบาล มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้ กำหนด 3 หลักการสำคัญ คือ
ราคาโปร่งใส เป็นธรรม ผู้บริโภคต้องมีทางเลือกและการรักษาที่สมเหตุสมผล
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29
พฤษภาคม 2562 น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการหรือกกร.
ฉบับที่ 52 พ.ศ. 2562 เรื่อง การแจ้งราคา การกำหนดหลักเกณฑ์
เงื่อนไขเกี่ยวกับการจำหน่ายยารักษาโรค เวชภัณฑ์ ค่าบริการรักษาพยาบาล
บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถานพยาบาล
โดยให้มีผลใช้บังคับนับแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวประกอบด้วย 3 หลักการสำคัญ คือ 1)
ราคาโปร่งใส-เป็นธรรม (Fair Price) ให้โรงพยาบาลเอกชน ผู้ผลิต ผู้นำเข้า
ผู้จำหน่ายส่ง ต้องแจ้งราคาซื้อ-ราคาจำหน่ายยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการฯ
ตามรายการที่อยู่ในบัญชีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ (UCEP) และในอนาคตจะขยายผลให้ครอบคลุมรายการยาตามรหัสบัญชีข้อมูลยาและรหัสยามาตรฐานไทย
(TMT) กรณีที่โรงพยาบาลจะมีการเปลี่ยนแปลงราคายาต้องแจ้งให้กรมการค้าภายในทราบก่อนปรับราคา
หากไม่แจ้งราคาซื้อ-ราคาจำหน่ายตามที่ประกาศกำหนดจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี
/ปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน
หรือจนกว่าจะแจ้ง
2) ผู้บริโภคต้องมีทางเลือก (Consumers’ Choices) ดังนี้ ให้โรงพยาบาลเอกชนแสดง QR Code (ข้อมูลเปรียบเทียบราคาจำหน่ายยาที่กรมการค้าภายในจัดทำไว้อย่างเปิดเผยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้โดยสะดวก
โรงพยาบาลเอกชนประเมินค่ารักษาเบื้องต้นให้ผู้ป่วยทราบ และต้องแจ้งราคายา เวชภัณฑ์
และค่าบริการทางการแพทย์ให้ผู้ป่วยทราบ ก่อนจำหน่ายหรือให้บริการ
เมื่อผู้ป่วยร้องขอในการจำหน่ายยาสำหรับผู้ป่วยนอก
ให้โรงพยาบาลต้องออกใบสั่งยาตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพเวชกรรม และใบแจ้งราคายา
ให้ผู้ป่วยทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ ใบสั่งยาอย่างน้อย ต้องประกอบด้วยชื่อสามัญทางยา
ชื่อทางการค้า รูปแบบยา ขนาดหรือปริมาณ จำนวน วิธีใช้ ระยะเวลาในการใช้
ส่วนใบแจ้งราคายาต้องประกอบด้วยชื่อยาตามใบสั่งยาและราคาต่อหน่วยหากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษจำคุกไม่เกิน
5 ปี /ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3) การรักษาที่สมเหตุสมผล (Reasonable Treatment) ให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการในส่วนกลางและส่วนจังหวัดเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัย
กรณีมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการให้บริการรักษาพยาบาลที่เกินความจำเป็นและ/หรือการคิดค่าบริการรักษาพยาบาลสูงเกินสมควร
โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542
ซึ่งหากเห็นว่ามีการคิดราคาสูงเกินสมควรจริงจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี /ปรับไม่เกิน
140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ–สำนักข่าวไทย