พบผู้ป่วยไข้หูดับตาย 1 ราย เหตุกินลาบหมูดิบ

สุโขทัย 27 พ.ค.-พบผู้ป่วยไข้หูดับตายแล้ว 1 ราย เหตุกินลาบหมูดิบ รักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 5 ราย ด้านสาธารณสุขเตือนให้กินปรุงสุกเท่านั้น กินดิบมีอันตรายถึงชีวิต


นพ.บริรักษ์ ลัภนะกุล นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย เตือนประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ในเรื่องกินอาหารสุกๆ ดิบๆ หรือปรุงไม่สุก โดยเฉพาะหมู ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่นิยมนำมารับประทาน และเป็นพฤติกรรมการกินที่เสี่ยงทำให้เกิดโรคหูดับ หรือ สเตฟโตคอกคัส ซูอีส โดยในพื้นที่สุโขทัยขณะนี้ ได้พบผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคนี้แล้ว 1 ราย และยังทำการรักษาตัวในห้องไอซียู ของโรงพยาบาล ศรีสังวร 1 ราย อีก 2 รายก็รักษาตัวอยู่ใน รพ.ศรีสังวรเช่นเดียวกัน รวมเป็น 3 ราย ขณะที่มีผู้ป่วยย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลลำปาง 1 ราย และหายจากอาการได้กลับบ้านแล้ว 1 ราย รวมผู้ป่วยทั้งสิ้น 6 ราย โดยทั้งหมดเบื้องต้นได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ก่อนที่จะมีการส่งต่อไปรักษาโรงพยาบาลอื่นที่มีความพร้อม 

ทั้งนี้จากการสอบสวนโรคทราบว่า ทั้งผู้ป่วย 6 ราย นำหมูดิบมาปรุงเป็น ลาบ หรือ ลู่ รับประทานกันทำให้เกิดติดเชื้อดังกล่าว แต่มีอยู่ 1 ราย ที่พบติดเชื้อรุนแรงและเสียชีวิตคือ นายสุชาติ พลหาญ อายุ 47 ปี เข้ารักษาตัวเมื่อวันที่ 17 พ.ค.และเสียชีวิตวันที่ 21 พ.ค. 2562 และจากสถิติกระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงเดือนพ.ค. พบมีผู้ป่วย 115 คน เสียชีวิตแล้ว 15 คน ใน 22 จังหวัด


ทางด้านนายยศ  ศิริใหม่ อายุ 66 ปี หนึ่งในผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากการกินลาบหมูดิบอยู่ใน ต.ไทยชนะศึก อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย และเกิดอาการท้องเสีย เป็นไข้ หมดแรง เพื่อนบ้านต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล และสามารถรักษาตัวจนหายดีกลับมาใช้ชีวิตเลี้ยงวัวตามปกติกล่าวว่า เข็ดแล้ว ไม่นึกว่าเชื้อโรคหูดับจะรุนแรงขนาดนี้ที่สำคัญถึงกับตายได้ จึงขอเตือนผู้ที่ยังกินลาบดิบ ลู่ ซ่า และปรุงอาหารดิบๆ ให้เปลี่ยนพฤติกรรมการกินมากินอาหารปรุงสุก เพื่อสุขอนามัยที่ดีและไม่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต                     

                                                            


นพ.บริรักษ์ ลัภนะกุล ย้ำเตือนถึงความรุนแรงของโรคไข้หูดับ ว่าโรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย สเตร็ปโตค็อกคัส ซูอิส (Streptococcus suis) ซึ่งพบอยู่ในโพรงจมูกและช่องปากของหมู สามารถติดต่อได้ 2 ทาง คือ 1.การสัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อ รวมทั้งเนื้อหมู เครื่องในและเลือดหมูที่เป็นโรค โดยติดต่อสู่คนทางบาดแผล รอยขีดข่วนตามร่างกายหรือทางเยื่อบุตา 2.เกิดจากการบริโภคเนื้อหมู หรือเลือดหมูที่ปรุงดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ ที่มีเชื้ออยู่ โดยผู้ป่วยจะมีอาการหลังรับประทาน 3-5 วัน จะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้ อาเจียน คอแข็ง หูหนวก ท้องเสีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ขอให้รีบพบแพทย์ทันที และบอกประวัติการกินหมูดิบให้ทราบ เพราะหากมาพบแพทย์และวินิจฉัยได้เร็ว จะช่วยลดอัตราการหูหนวกและการเสียชีวิตได้ทั้งนี้ 

กลุ่มที่ติดเชื้อแล้วจะมีอาการป่วยรุนแรง ได้แก่ ผู้ที่ติดสุราเรื้อรัง ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ผู้ที่เคยตัดม้ามออก เป็นต้น สำหรับวิธีการป้องกันโรค คือ 1.กินหมูสุกเท่านั้น โดยปรุงเนื้อหมูให้สุกทั่วถึงจนเนื้อไม่มีสีแดง ไม่เติมหรือใส่เลือดดิบในอาหาร และควรเลือกซื้อเนื้อหมูที่ไม่มีกลิ่นคาว สีคล้ำ ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากโรงฆ่าสัตว์ 2.ผู้ที่สัมผัสกับหมูที่ติดโรค โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู สัตวบาล สัตวแพทย์ ควรสวมรองเท้า บู๊ทยาง สวมถุงมือ รวมถึงสวมเสื้อที่รัดกุมระหว่างทำงาน หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด และล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

“SIAM PARAGON THE MAGICAL COUNTDOWN CELEBRATION 2025”

สยามพารากอนคึกคัก เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติที่กำลังสนุกสนานกับบทเพลงจากเหล่าศิลปินดังที่มาเพิ่มความสุขด้วยบทเพลงและโชว์สุดอลังการ

ประชาชนเนืองแน่น ไหว้พระเขี้ยวแก้ว-สวดมนต์ข้ามปี

ประชาชนยังหลั่งไหลสักการะพระเขี้ยวแก้ว ทำบุญ รอสวดมนต์ข้ามปี ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยปีนี้กรมการศาสนาร่วมกับภาคีเครือข่ายและวัดทั้ง 76 จังหวัด จัดสวดมนต์ข้ามปี

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : การเมืองปี 68 พรรคการเมืองยังต้องรักษาดุลยภาพทางอำนาจ

วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองปี 2568 ทนักวิชาการมองว่าจะมีปัญหารุมเร้า แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะผ่านไปได้

บขส.โคราช คนแน่น รอรถอย่างน้อย 5 ชม.

หลังเดินทางกลับไปฉลองเทศกาลปีใหม่ที่ภูมิลำเนา วันนี้ (1 ม.ค.) ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับเข้า กทม. เพื่อทำงานในวันพรุ่งนี้ ขนส่งหลายจังหวัดคนแน่น เพราะต้องรอรถเปล่าตีจากกรุงเทพฯ ขึ้นไปรับ

ทยอยกลับกรุง

ถ.มิตรภาพ ช่วง อ.ปากช่อง รถหนาแน่นเต็มพื้นที่

วันหยุดเทศกาลปีใหม่วันสุดท้าย ประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ทำให้วันนี้ถนนมิตรภาพ ปริมาณรถช่วง อ.ปากช่อง หนาแน่นเต็มพื้นที่ แต่ยังเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆ