อาลัย พล.อ.เปรม ผู้วางรากฐานเศรษฐกิจไทย

กทม. 27 พ.ค.- เอกชนหลายหน่วยงานอาลัย “พล.อ.เปรม” จากคำขวัญ โชติช่วงชัชวาลพัฒนา อิสเทิร์นซีบอร์ดแข็งแกร่ง คาดหวังรัฐบาลใหม่สานต่ออีอีซี   


วันนี้มีการประชุมหลายหน่วยงานของภาครัฐที่เตรียมพร้อม ส่งมอบไม้ต่อแก่รัฐบาลชุดใหม่ เพื่อให้เดินหน้า ไม่สะดุด ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการ นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน และทั้ง 2 เรื่องนี้ ล้วนถูกวางรากฐานต่อเนื่องมาจากรัฐบาล ของท่าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ทั้งสิ้น โดยท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2523 – 4 สิงหาคม 2531 คนในวงการพลังงาน แวดวงเศรษฐกิจต่างกล่าวขานถึงท่าน และเอกชน หลายหน่วยงาน ต่างแสดงความอาลัย และเพื่อผลักดันนโยบายให้เดินหน้า ท่านพล.อ.เปรม ซึ่งอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ได้เป็นประธานคณะกรรมการการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย หรือ ปตท. ในช่วงปี 2524-2526 และท่านก็เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทบางจากอีกด้วย


นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พล.อ.เปรม มีคุณอเนกอนันต์ต่อการพัฒนาความมั่นคง และเศราฐกิจของประเทศ และอมตะ ซึ่งขณะนี้มี นิคมฯ 3 พื้นที่ในภาคตะวันออกก็เกิดจากอานิสงส์ ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ ที่ พล.อ.เปรม ท่านผลักดันและวางรากฐานไว้ โดยเฉพาะ วลี คำขวัญที่ท่านให้ไว้ คือ “โชติช่วงชัชวาล”  ที่เป็นคำขวัญหลักของ การริเริ่มมีนโยบายพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก หรือ Eastern Sea Board (ESB) จนเกิดการพัฒนามากมาย และรัฐบาลชุดปัจจุบันก็สานต่อด้วยการโครงการอีอีซี

ก็หวังว่ารัฐบาลชุดใหม่ จะเดินหน้าพัฒนาอีอีซี และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ไทยแข็งแกร่งต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของกลุ่มอมตะก็คาดว่าปีนี้จะมียอดขายที่ดินในไทย ไม่ต่ำกว่า 800 ไร่ ซึ่งเป็นอานิสงส์จากอีอีซี และปัญหาสงครามการค้าสหรัฐและจีน รวมไปถึงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น 


ทั้งนี้ ยุคโชติช่วงชัชวาล จุดเริ่มต้นจากที่ประเทศไทย เจอก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย พล.อ.เปรม ผลักดันการพัฒนา อย่างต่อเนื่องจากปี 2524 มีการตั้งโรงแยกก๊าซธรรมชาติ แยกก๊าซมาผลิตไฟฟ้า และปิโตรเคมี เกิดโครงการปิโตรเคมีแห่งชาติ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งทอ พลาสติก ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์และอื่น มีนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เป็นแหล่งรองรับสำคัญ และเปิดประเทศโดยการสร้างท่าเรือนํ้าลึก 2 แห่ง คือ “แหลมฉบัง” 

เพื่ออุตสาหกรรมทั่วไปและอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก และที่ “มาบตาพุด” เพื่อเป็นท่าเรือสินค้าประเภทอุตสาหกรรมหนัก โดยเฉพาะปิโตรเคมิคัล  

ในวารสารสภาพัฒน์วารสารสภาพัฒน์กับการพัฒนาประเทศสู่ปัจจุบันและอนาคต ดร.เสนาะ อูนากูล อดีตเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในยุค พล.อ.เปรม กล่าวว่า พล.อ.เปรม ให้คำขวัญว่า “โชติช่วง ชัชวาล” สำหรับโครงการอิสเทิร์นซีบอร์ด เพื่อยกฐานะเศรษฐกิจของไทยจากร้านชำที่อยู่ในตรอกมาเป็นห้างที่อยู่บนถนนใหญ่ ถือเป็นนโยบายที่เปลี่ยนประเทศไทยจากสังคมกึ่งเกษตรมาเป็นสังคมเกษตรอุตสาหกรรมเต็มตัว ทุกฝ่ายยอมเหนื่อยยาก เพื่อเริ่มงานสำหรับอนาคตของประเทศด้วยโชคดีที่ขณะนั้นท่านนายกฯเปรม เป็นหัวหน้ารัฐบาลที่มีความเข้มแข็ง คณะรัฐมนตรีเกรงใจและท่านให้การสนับสนุน สภาพัฒน์ฯ ซึ่งถือหลักว่าต้องทำงานทุกอย่าง เพื่อส่วนรวมไม่ใช่ส่วนตัว ทำงานทุกอย่างบนโต๊ะ ไม่มีใต้โต๊ะ เป็นหลักใหญ่ที่ใช้กันมาตลอดช่วง 8 ปีของรัฐบาล พล.อ.เปรม 

สอดคล้องกับ คุณปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตเลขาสำนักงานนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ สพช. กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เกิดขึ้นในสมัย พล.อ.เปรม ที่มีทีมงาน รัฐมนตรีที่ร่วมกันทำงานโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นสำคัญ และวางรากฐานเรื่องการลอยตัวราคาน้ำมัน จนเกิดการแข่งขันเป็นประโยชน์ต่อประเทศ รวมถึงการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ซึ่งในสมัยนั้น ข้าราชการต่างสบายใจที่ทำงานกับพล.อ.เปรม เพราะท่านซื่อสัตย์ไม่มี เบื้องหน้าเบื้องหลัง แต่อย่างใด  

สำหรับช่วงที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในปี 2523 ช่วงนั้นเกิดวิกฤตการณ์นํ้ามันโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจตกตํ่าทั่วโลก ไทยได้รับผลกระทบขาดเสถียรภาพทางการเงินและการคลัง ขาดดุลการค้า ขาดดุลงบประมาณ    รัฐบาล พล.อ.เปรม จึงดำเนินนโยบายกำหนดวินัยการเงินการคลังอย่างเข้มงวด มีการประกาศลดค่าเงินบาทในปี 2527 ปรับระบบอัตราแลกเปลี่ยนจาก “อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ “ระหว่างเงินบาทกับเงินดอลลาร์สหรัฐ มาเป็น “ระบบตะกร้าเงิน” ซึ่งทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้ว่าช่วงนั้นคนไทยต้องทนทุกข์ยาก ธุรกิจจำนวนมากต้องล้มละลาย แต่นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการล้มละลายในระยะนั้น  ซึ่งผลงานที่ พล.อ.เปรม สร้างให้กับประเทศนั้น นับว่าใช่เรื่องง่ายๆ หากไม่มีความตั้งใจจริง ซื่อสัตย์สุจริต กล้าหาญกล้าตัดสินใจ มุ่งมั่นอย่างมีเป้าหมาย

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่ทุกคนจับตามองคือการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำ โดยในส่วนของกระทรวงเศรษฐกิจจะมีใครมาทำงาน โดยในส่วนของกระทรวงพลังงานก็มีกระแสข่าวว่าจะมาจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยงานที่รออยู่คือ รัฐมนตรีพลังงานคนใหม่ จะต้องมาตัดสินใจเรื่องการนำเข้าแอลเอ็นจีของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยที่มีปัญหาว่าหากนำเข้ามาในอัตราสูง ในปี 2563 อาจเกิดปัญหาต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ