บอร์ด กพอ.ชุดใหม่ เคาะแผนอีอีซี ทำทันที 99 วัน 8 ด้าน

กรุงเทพ 17 ต.ค. – คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ชุดใหม่ พิจารณาร่างแผนในระยะเวลา 1 ปี (ต.ค.66-ก.ย.67) และเป้าหมายเร่งด่วนภายใน 99 วัน 8 ด้าน เพื่อดึงดูดอุตสาหกรรมเป้าหมาย 5 คลัสเตอร์หลัก โดย “ภูมิธรรม” ย้ำโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ถึงแม้จะไม่เสร็จสมบูรณ์ในรัฐบาลชุดนี้แต่ก็เกือบเสร็จและจะได้เห็นความคืบหน้าของโครงการแน่นอน


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ กพอ. ครั้งแรกภายใต้รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่า กพอ.ได้พิจารณาร่างแผนทำงานในระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึง เดือนกันยายน 2567 และเป้าหมายเร่งด่วนภายใน 99 วัน เพื่อดึงดูดเงินลงทุนจากทั่วโลกผ่านอุตสาหกรรมเป้าหมายใน 5 คลัสเตอร์หลัก คือ การแพทย์ ดิจิทัล ยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) บีซีจี และบริการ ทั้งนี้เป้าหมายเร่งด่วนใน 99 วัน ของ อีอีซี แบ่งออกเป็น 8 ด้านคือ

1.ด้านนโยบาย ในเดือนธันวาคม 2566 จะจัดทำแผนภาพรวมเพื่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(2566-2570) ซึ่งจะเป็นกรอบงานหลักของอีอีซี ประกอบด้วย 5 ด้าน คือ 1.ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต 2.เพิ่มประสิทธิภาพและการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค 3.ยกระดับทักษะแรงงานให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและนวัตกรรม 4.พัฒนาเมืองให้ทันสมัย น่าอยู่อาศัยเหมาะสมกับการประกอบอาชีพ และ 5.เชื่อมโยงประโยชน์จากการลงทุนสู่ความยั่งยืน
2.ด้านการพัฒนาสิทธิประโยชน์เพื่อดึงดูดการลงทุน ในเดือนธันวาคม 2566 อีอีซี จะออกประกาศ กพอ.เรื่องสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ครอบคลุมด้านภาษีและมิใช่ภาษี
3.ด้านการสร้างระบบนิเวศสำหรับการลงทุน ในเดือนมกราคม 2567 จะพัฒนาแหล่งระดมทุนอีอีซี รองรับการระดมทุนที่ใช้เงินตราต่างประเทศเป็นหลัก โดยเริ่มจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
4.ด้านการขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน จะได้ข้อยุติการเจรจาและแนวทางที่ชัดเจนระหว่าง รฟท.กับ เอกชนคู่ร่วมสัญญาร่วมลงทุน คือ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด โดยนายภูมิธรรม เน้นย้ำในประเด็นนี้ว่า คาดหวังว่าจะทำโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินให้เร็วที่สุด แต่ถึงแม้จะไม่เสร็จสมบูรณ์ในรัฐบาลชุดนี้ภายใน 4 ปีแต่จะได้เห็นความคืบหน้าของโครงการแน่นอน โดยย้ำว่า ถ้าไม่เสร็จก็เกือบเสร็จ ส่วนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ภายในเดือนมกราคม 2567 เอกชนคู่สัญญาจะเริ่มก่อสร้างอย่างเป็นทางการ โดยในเดือนพฤศจิกายนนี้ กองทัพเรือจะจัดการประกวดราคาการก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งเอกชนจะก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร ส่วนกองทัพเรือ จะทำรันเวย์ ทางขึ้นและทางลงเครื่องบิน
5.ด้านการจัดให้มีบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร เดือนธันวาคม 2566 จะยกระดับการให้บริการอนุมัติ อนุญาต จำนวน 44 รายการ ครอบคลุม 8 กฎหมาย ตาม พรบ.อีอีซี
6.ด้านการพัฒนาพื้นที่เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ เดือนตุลาคม 2566 จัดตั้งศูนย์ธุรกิจอีอีซีและเมืองน่าอยู่อัจฉริยะเป็นเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกิจการพิเศษ มีพื้นที่พัฒนาระยะที่ 1 ระมาณ 5,795 ไร่ จากพื้นที่รวมทั้งโครงการประมาณ 14,619 ไร่ การจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษนิคมอุตสาหกรรมเอเพ็กซ์กรีนอินดัสเตรียล เอสเตท พื้นที่ 22,191.49 ไร่ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อให้เกิดการลงทุนใน 12 อุตสาหกรรมพิเศษ และเดือนมกราคม 2567 ลงทุนโรงพยาบาลปลวกแดง 2 ในรูปแบบการร่วมทุน ระหว่างรัฐและเอกชน ซึ่งรัฐจะเป็นผู้ลงทุนสร้างโรงพยาบาลและให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการ
7.ด้านการเริ่มต้นการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ เดือนธันวาคม 2566 จะมีการลงนามเช่าพื้นที่ในเขตอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล EECd ได้แก่ บริษัท CtrlS Datacenter จากอินเดีย เช่าพื้นที่ 25 ไร่ 50 ปี เพื่อลงทุนศูนย์ธุรกิจข้อมูล มูลค่า 4,500 ล้านบาท กฟผ.เช่าพื้นที่ 5 ไร่ 20 ปี ลงทุนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและบริษัท ALBA จากเยอรมนี มีความประสงค์จะเช่าพื้นที่ เพื่อทำโครงการต้นแบบดิจิทัลแพล็ตฟอร์มและศูนย์ควบคุมการรีไซเคิล มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท


8.ด้านการสร้างความเข้มแข็งของพื้นที่และชุมชน เดือนธันวาคม 2566 จะต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยชุมชน วิสาหกิจชุมชนและกิจการเพื่อสังคมในพื้นที่อีอีซี ให้ได้รับการรับรองเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนต้นแบบ เดือนมกราคม 2567 จะจัดตั้งศูนย์เครือข่ายพลังสตรี อีอีซี ระดับจังหวัดและระดับอำเภอ เพื่อเป็นศูนย์กลางความเข้าใจและประโยชน์อีอีซีและขยายผลโครงการเยาวชน อีอีซี สแควร์เพื่อสร้างโอกาสให้เยาวชนได้ต่อยอดแนวคิดยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน

นอกจากนี้ที่ประชุม กพอ.ยังได้พิจารณาการพัฒนาเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd)โดยเห็นชอบกรอบอัตราค่าเช่าและค่าธรรมเนียม รวมทั้งสิทธิประโยชน์ของผู้ประกอบการในโครงการ EECd พร้อมแผนปฏิบัติการอีกด้วย. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

“ไมเคิล” ตอบรับคำเชิญ “จิรายุ” จ่อข้ามมาไทยพิสูจน์ข้อเท็จจริง

17 ส.ค.- “ไมเคิล อัลฟาโร” ล็อบบี้ยิสต์อเมริกัน โพสต์ตอบรับคำเชิญ “จิรายุ” เตรียมข้ามฝั่งมาไทย อ้างค้นหาความจริงปมขัดแย้งชายแดน จ่อทำรายงานส่งถึง “ทรัมป์” ช่วงเช้าที่ผ่านมา เพจ “ไทยคู่ฟ้า” โพสต์สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “เที่ยงคืนถึงเช้านี้ พื้นที่ 7 จังหวัดประเทศไทย สถานการณ์ปกติ ไทยยังตรึงกำลังเพื่อรักษาอธิปไตยอย่างต่อเนื่อง” โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด เหตุการณ์ปกติ กองทัพไทยยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นทั้ง 11 พื้นที่ และวางรั้วลวดหนามอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอธิปไตยของไทยไม่ให้ใครล่วงล้ำเข้ามา แม้ในขณะนี้ กัมพูชายังคงมีความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง ในรูปแบบต่างๆ เช่น การสร้างข่าวปลอม จ้างอินฟูลฯ การจัดฉาก สร้างสถานการณ์ใส่ร้ายประเทศไทย การจ้างวานบุคคลสมมติ จึงขอฝากความห่วงใยไปถึงประชาชนและสื่อมวลชนที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลจากส่วนราชการ ก่อนเชื่อหรือแชร์ต่อไป นายจิรายุ ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีนายไมเคิล อัลฟาโร ล็อบบี้ยิสต์อเมริกัน […]

ศูนย์ทุ่นระเบิดจบภารกิจหนุนชายแดน เก็บกู้สรรพาวุธตกค้างกว่า 800 ลูก

17 ส.ค. – ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดฯ สิ้นสุดภารกิจวันนี้ (17 ส.ค. 68) หลังสนับสนุนการเก็บกู้ระเบิดจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเก็บกู้สรรพาวุธตกค้างกว่า 800 ลูก ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ หรือ TMAC สิ้นสุดภารกิจวันนี้ (17 ส.ค. 68) หลังสนับสนุนการเก็บกู้ระเบิดจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 1-16 สิงหาคมที่ผ่านมา TMAC ได้เก็บกู้สรรพาวุธที่ตกค้างกว่า 800 ลูก ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ประกอบด้วย กระสุน BM-21 ลูกปืนใหญ่ ปืน ค จรวด ก่อนหน้าสถานการณ์ตึงเครียด กัมพูชาขัดขวางการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ไม่จริงใจแก้ปัญหา ทั้งที่เป็นประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา ที่ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล สำหรับอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะ 81 หลังคาเรือน […]

ตรวจสอบ รร.ประถม “พระอลงกต” ไม่ปรากฏชื่อ

ขอนแก่น 17 ส.ค.- กองปราบจ่อประชุมคณะทำงานคดี “หมอบี” เชื่อเจ้าตัวไม่หนี ขณะที่ทนายวัดพระบาทน้ำพุเลื่อนแถลงข่าว อ้างเอกสารชี้แจงยังไม่เรียบร้อย ตรวจสอบโรงเรียนประถม “พระอลงกต” ไม่ปรากฏชื่อ กรณีเพจดังตั้งข้อสงสัยวุฒิการศึกษาพระอลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ อ้างว่าปี 2518 ยังเรียน มศ.2 จะจบวิศวฯ ปี 2519 ได้อย่างไร ผู้สื่อข่าวสอบถามแหล่งข่าวในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ให้ข้อมูลว่ากรณีพระอลงกต ระบุว่าจบการศึกษาที่โรงเรียนระดับประถม(นันทวิทยาลัย) ปรากฏว่าไม่มีชื่อโรงเรียนนี้อยู่ในสังกัดสำนักงานเขตของพื้นที่ทั้ง 26 อำเภอ ใน จ.ขอนแก่น หรือถ้ามี ก็อาจจะปิดตัวไปแล้ว   ส่วนระดับมัธยมศึกษานั้น ข้อมูลยืนยันว่า พระอลงกต ศึกษาจบระดับชั้น มศ.2 ที่โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จังหวัดขอนแก่นจริง มีศิษย์เก่าทั้งระดับชั้นเดียวกัน และรุ่นพี่รุ่นน้องต่างยืนยันว่า พระอลงกต จบจากโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัยจริง ในปี 2518 แต่ยังสงสัยในระดับปริญญาตรีว่าจะจบจริงหรือไม่   เชื่อ “หมอบี” ยังไม่หลบหนี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ […]

รวบแล้ว “ลุงคลั่ง” ใช้ไม้หน้าสามตีหลานสาวดับ

ตรัง 17 ส.ค.- ตำรวจ สภ.ห้วยยอด รวบลุงคลั่งใช้ไม้หน้าสามฟาดหลานสาวแท้ๆ เสียชีวิตคาบ้านพัก สารภาพอ้างแค้นใจสะสมมานาน มีปากเสียงบ่อยครั้ง ตำรวจ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง คุมตัวนายสุริยัณห์ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้ไม้หน้าสาม กระหน่ำตี น.ส.ปาริชาติ หรือน้องเชียร์ อายุ 21 ปี นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆ ของตัวเองจนเสียชีวิตภายในบ้านพัก จากนั้นหลบหนีขึ้นไปบนเขา คลองมวน  ต.หนองปรือ อ.รัษฎา เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าปิดล้อมภูเขา ก่อนจับกุมตัวได้พร้อมของกลางไม้หน้าสามเปื้อนเลือด ความยาวประมาณ 60 เซนติเมตร  สอบสวนนายสุริยัณห์ รับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง โดยอ้างว่ามีปัญหากับหลานสาวมานาน มักมีปากเสียงบ่อยครั้ง วันเกิดเหตุได้บุกเข้าไปในห้อง ใช้ไม้หน้าสามฟาดเข้าที่ท้ายทอยของหลานสาว 6–7 ครั้งจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีออกจากบ้าน ผู้ต้องหาระบุว่า เคยทำงานเป็นช่างสักตามเกาะท่องเที่ยว เช่น เกาะพะงัน และเกาะพีพี แต่มีปัญหาจึงกลับมาอยู่บ้าน มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเคยถูกส่งตัวเข้าบำบัดหลายครั้ง ขณะถูกสอบสวนยังสามารถโต้ตอบคำถามได้ปกติ แต่ไม่มีท่าทีสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป สำหรับศพของ “น้องเชียร์” ล่าสุด […]