ปัญหานำเข้าแอลเอ็นจี กฟผ.ยังไม่จบ รอ รมว.พลังงานคนใหม่ชี้ขาด

กรุงเทพฯ 27 มี.ค. – กบง.ถกไม่จบปัญหา “เทคออร์เพย์” กรณีนำเข้าแอลเอ็นจี โดย กฟผ.ต้องส่ง รมว.พลังงานคนใหม่ ในฐานะประธานบอร์ด กบง.คนใหม่ ชี้ขาด  


นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งคาดว่าจะเป็นนัดสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้ในวันนี้ (27พ.ค.) ว่า  กบง.ได้รับทราบรายงานแนวทางแก้ไขปัญหาเบื้องต้น กรณีการเตรียมแผนนำเข้าก๊าซธรรมชาติ หรือแอลเอ็นจี ไม่เกิน 1.5 ล้านตัน/ปี โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งประเมินว่าจะเกิดมีปริมาณส่วนเกินความต้องการในปี 2563 จนเกิดผลกระทบต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าที่จะเกิดจากค่าเทคออร์เพย์ หรือไม่ใช้ก็ต้องจ่าย 

โดย กบง.ได้มอบให้ กฟผ.และ บมจ.ปตท.หารือร่วมกัน เพื่อวางแนวทางรองรับ  ซึ่งต้องทำรายละเอียดเพิ่มเติมใน 2 ประเด็นสำคัญ  คือ 1.การนำเข้าก๊าซมาแล้วไม่ได้ใช้ก็ต้องชำระเงิน (Take or Pay) ตามข้อผูกพันซื้อขายก๊าซ และ 2.หากระทบต่อปริมาณก๊าซที่ผู้ขายจะต้องส่งมอบตามสัญญาให้แก่ผู้ซื้อรายวัน Daily Contract Quantity (DCQ) 


ดังนั้น เมื่อเป็นเรื่องรายละเอียดที่ต้องใช้เวลาพิจารณา ประกอบกับจะมีรัฐบาลชุดใหม่ ทางกระทรวงพลังงานก็ต้องมีการนำเสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม กบง.ชุดใหม่ ขณะเดียวกัน กบง.วันนี้ยังได้รับทราบแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงาน ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมไว้ หากเกิดความไม่สงบในตะวันออกกลาง แม้ล่าสุดสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายลง โดยแผนดังกล่าว  มี 3 เรื่อง คือ 1.ปริมาณน้ำมันดิบนำเข้า ต้องไม่ขาดแคลน 2.ปริมาณผลิตและจำหน่ายของโรงกลั่นที่ชัดเจน 3.ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูป ทั้งเบนซิน และดีเซล ต้องเพียงพอ 

ทั้งนี้ กบง.ยังรับทราบการรายงานสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุดวันที่ 26 พฤษภาคม 2562 กองทุนฯ มีเงินสะสม  40,811 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน อยู่ที่ 34,229 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจี ติดลบอยู่ที่ 6,582 ล้านบาท ขณะที่  กบง.ได้เคยเห็นชอบไว้ว่ากรอบวงเงินอุดหนุนแอลพีจีจะไม่เกิน 7,000 ล้านบาท ที่ราคาภาคครัวเรือน ถังขนาด 15 กิโลกรัม ราคา 363 บาท โดยวงเงินนี้คาดจะดูได้ดีอีก 2-3 เดือน   

“แผนต่าง ๆ ทางกระทรวงฯ ได้เตรียมพร้อมเพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และพร้อมส่งต่อให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารจัดการต่อไป” นายศิริ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.เพื่อไทย

“อนุสรณ์” ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.พรรคเพื่อไทย เชื่อมนต์ขลัง “ทักษิณ”-ผลงานรัฐบาลแพทองธาร เป็นปัจจัยความสำเร็จ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม