กทม. 22 พ.ย.-เพลิงไหม้ห้องประนอมข้อพิพาท ชั้น 7 ศาลอาญา เจ้าหน้าที่เร่งระบายควัน ด้านเลขานุการศาลอาญายันไม่มีสำนวนคดีเสียหาย ดับเพลิงชื่นชมเจ้าหน้าที่ศาล-รปภ. มีทักษะระงับเหตุเบื้องต้น
วานนี้ (22 พ.ค.) เมื่อเวลา 19.09 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณชั้น 7 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นส่วนของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท โดยขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงร้องตะโกนจากเจ้าหน้าที่ที่กำลังทำงานอยู่ ขณะเดียวกันมีกลุ่มควันและกลิ่นคละคลุ้งมาจากชั้น 7 ลงมาถึงบริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นทางเข้าออกของตัวอาคารศาลอาญา
ด้านนายชนุดม ปิติฤกษ์ เลขานุการศาลอาญา เมื่อได้รับแจ้งเหตุก็เร่งเดินทางมายังอาคารศาล เพื่อตรวจดูสภาพที่เกิดเหตุทันที ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งสายด่วน 199 เพื่อประสานดับเพลิงเข้าระงับเหตุทันที โดยมี พ.ต.ท.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ รอง ผกก.ป.สน.พหลโยธิน และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความปลอดภัยและเรียบร้อยบริเวณศาล จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.30 น. เพลิงสงบ หลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าระงับเหตุและเคลียร์พื้นที่ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนำเครื่องระบายควันขึ้นไปบริเวณชั้น 7 ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเพลิงไหม้
เบื้องต้นสันนิษฐานว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรจากเครื่องปรับอากาศภายในห้องประชุมใหญ่ ชั้น 7 ศาลอาญา หลังเคาน์เตอร์ศูนย์ประนอมข้อพิพาทและไกล่เกลี่ย
ต่อมาเมื่อเวลา 20.40 น. เลขานุการศาลอาญา กล่าวว่า เบื้องต้นสาเหตุไฟไหม้มาจากคอยล์เย็นของเครื่องปรับอากาศเเยกส่วนที่ติดบริเวณฝ้าเพดานเกิดช็อต จึงเกิดกลุ่มควันฟุ้งกระจายทั่วห้องเป็นคราบเขม่า เนื่องจากอุปกรณ์ไฟฟ้าดังกล่าวมีการใช้งานหนักเเละอากาศร้อนจัด ขณะนี้ควบคุมกลุ่มควันไฟไว้ได้เรียบร้อย ยืนยันว่าไม่มีเอกสารสำนวนได้รับความเสียหาย ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าแอร์กับฝ้าผนังได้รับความเสียหายเล็กน้อย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยห้องดังกล่าวเป็นห้องประนอมข้อพิพาท ตั้งอยู่ชั้น 7 ศาลอาญา ส่วนของคู่ความที่มีนัดไว้ยังสามารถเดินทางมาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทได้ตามปกติ โดยได้จัดห้องสำรองไว้ ขอให้ประชาชนวางใจได้
อย่างไรก็ดี ภายหลังกลุ่มควันสงบ เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสุทธิสาร เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งเหตุก็รีบเดินทางมายังอาคารสถานที่บริเวณชั้น 7 ทันที เมื่อมาถึงก็พบควันเหลือจากการเผาไหม้ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ศาลและ รปภ. ได้ใช้ถังดับเพลิงชนิดผงเคมีเข้าดับเพลิงเบื้องต้นแล้ว คงเหลือแต่กลุ่มควันไหม้หนาแน่เล็กน้อย โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยได้ใช้เครื่องระบายควันไล่กลุ่มดังกล่าว ใช้เวลา 30 นาที แต่จากเหตุดังกล่าวไม่มีผู้บาดเจ็บและไม่มีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด ขณะที่จากเหตุครั้งนี้ต้องชมเชยเจ้าหน้าที่ศาลและเจ้าหน้าที่ รปภ. ของศาล ซึ่งได้ใช้ทักษะจากการฝึกภาคปฏิบัติดับเพลิงที่ฝึกประจำทุกปีมาช่วยระงับเหตุในเบื้องต้น ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย