21 พ.ค. – สภาพัฒน์ชี้ท่องเที่ยว 3 เดือนแรกพลาดเป้า แต่หวังช่วงที่เหลือของปี ยอดนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 2.2 ล้านล้านบาท
มีข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่แถลงจีดีพีออกวันนี้ ถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ชะลอตัวทั้งจำนวนและรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ โดย 3 เดือนแรกมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 10.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ชะลอตัวลงจากการขยายตัวร้อยละ 4.3 ในไตรมาสก่อนหน้า เมื่อรวมกับการขยายตัวของนักท่องเที่ยวชาวไทย ส่งผลให้ในไตรมาสแรกมีรายรับรวมจากการท่องเที่ยว 850,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 เป็นรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 573,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 โดยรายรับจากนักท่องเที่ยวจากประเทศสำคัญที่ยังขยายตัวสูง ประกอบด้วย อินเดีย มาเลเซีย ญี่ปุ่น สหรัฐ และเกาหลีใต้ ส่วนรายรับจากนักท่องเที่ยวจีนและยุโรปลดลง รายรับจากนักท่องเที่ยวชาวไทย 276,500 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 6.3 อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 77.16 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 76.79 ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตามตัวเลขของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 3 เดือนแรกแม้นักท่องเที่ยวจีนจะลดลง แต่ก็ยังถือว่ามากที่สุดของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ด้วยยอด 3.11 ล้านคน ตามมาด้วยมาเลเซีย 915,000 คน และรัสเซีย 615,000 คน ส่วนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ใช้จ่ายมากที่สุดในไทย อันดับหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจีน 172,000 ล้านบาท รองลงมาเป็นนักท่องเที่ยวรัสเซีย 44,600 ล้านบาทและนักท่องเที่ยวมาเลเซีย 26,200 ล้านบาท
สภาพัฒน์ได้ปรับลดสมมติฐานจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2562 จากจำนวน 41 ล้านคนและรายรับจากนักท่องเที่ยว 2.24 ล้านล้านบาท ในการประมาณการครั้งก่อน เป็น 40.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ร้อยละ 5.8 และรายรับจากนักท่องเที่ยว 2.21 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2.03 ล้านล้านบาทในปี 2561 ร้อยละ 8.6 ซึ่งเป็นการปรับลดจากสมมติฐาน 2.24 ล้านล้านบาทตามข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวในไตรมาสแรกของปี 2562 ที่เกิดขึ้นจริงส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) และความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางการค้าซึ่งส่งผลให้การขยายตัวของนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางออกนอกประเทศชะลอลงและส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยในไตรมาสแรกปรับตัวลดลงร้อยละ 1.7
โดยคาดหวังว่า ในช่วงที่เหลือของปี จำนวนนักท่องเที่ยวจะเริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ตามการสิ้นสุดลงของปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนมาเดินทางระยะใกล้มากขึ้น รวมทั้งการขยายระยะเวลามาตรการยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa On Arrival) รวมทั้งการขยายตัวในเกณฑ์ดีของนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และมาเลเซีย สอดคล้องกับข้อมูลจำนวนผู้ที่เดินทางผ่าน 5 ท่าอากาศยานหลัก ในเดือนเมษายน 2562 ที่ขยายตัวร้อยละ 3.8 ปรับตัวดีขึ้นแสดงถึงการเริ่มปรับตัวดีขึ้นของภาคการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2562
ส่วนมาตรการสนับสนุนการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว มีข้อเสนอว่า ให้ใช้ประโยชน์จากแนวโน้มการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนมาเดินทางในระยะใกล้มากขึ้น ให้ความส าคัญกับการรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทั้งในด้านชีวิตและทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง การฟื้นฟูภาพลักษณ์และแก้ไขปัญหามลภาวะทางอากาศ การส่งเสริมการขายในตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลและกลุ่มนักท่องเที่ยวรายได้สูงในภูมิภาค และขยายฐานนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่การอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวและการลดความแออัดของนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ การกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวลงสู่เมืองรองและชุมชน การสร้างความเชื่อมโยงการท่องเที่ยวของไทยกับประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ในภูมิภาค การรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวชาวไทยกลับมานิยมท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้นเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศ
ขณะที่มติ ครม.ในเรื่องให้คนไทยนำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรองมาลดหย่อนภาษีได้ ทั้งที่พักโรงแรม โฮมสเตย์ และธุรกิจนำเที่ยวเมืองหลัก ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท เมืองรอง ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 20,000 บาท จนถึง 30 มิถุนายน 2562 น่าจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวช่วง 2 เดือนนี้ให้คึกคักขึ้นและต้องรอดูมาตรการนี้จะขยายเวลาออกไปหรือไม่ เมื่อมีรัฐบาลใหม่ชัดเจนแล้ว ก็น่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของคนไทยเที่ยวไทยได้ไม่มากก็น้อย .- สำนักข่าวไทย