กรุงเทพฯ 21 พ.ค. – ตั้งคณะกรรมการสอบเหตุไฟไหม้ห้องเช่า มั่นใจสาเหตุจากหม้อแปลงระเบิด จ่อแจ้งข้อหาให้การเท็จหากสอบแล้วไม่พบมีการลอบวางเพลิง
พันตำรวจเอก เกียรติ กาบบัว ผู้กำกับการ สน.สำราญราษฎร์ เปิดเผยความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 4 ชั้นบนถนนบุญศิริใกล้ศาลเจ้าพ่อเสือ เมื่อคืนที่ผ่านมาจนกระทั่งพบศพผู้เสียชีวิต 2 คน ล่าสุดได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคดีดังกล่าวแล้ว ขณะนี้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 10 ปาก อาทิ เจ้าของบ้าน ญาติผู้ตาย พยานที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งให้การเป็นประโยชน์ และเตรียมเรียกเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐเข้าให้ข้อมูล เช่น เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า เจ้าหน้าที่โยธา
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้น พบหม้อแปลงไฟที่ชั้น 3 คล้ายระเบิดมีลักษณะไหม้ละลาย และตรงกับการให้การของพยานระบุว่า มีคนนำทองแดงมาต่อเข้ากับหม้อแปลงทำเป็นฉนวน แทนฟิวส์ และเคยเกิดประกายไฟแลบ มีเสียงคล้ายระเบิด หลายครั้งก่อนหน้านี้ มั่นใจไม่ใช่การลอบวางเพลิง ตามกระแสข่าวลือเรื่องการค้างค่าเช่าจนเกิดการทะเลาะวิาทและลอบวางเพลิง เนื่องจากห้องเช่าดังกล่าว เก็บค่าเช่ารายวันวันละร้อยบาท จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการค้างค่าเช่า ส่วนบุคคลที่กล่าวอ้างว่าเห็นบุคคลตัองสงสัยอาจวางเพลิง ทางเจ้าหน้าที่พยายามติดต่อมาให้ปากคำ หากพบให้การไม่ตรงความจริง อาจพิจารณาแจ้งข้อหาให้การเท็จ
สำหรับการสอบสวน ขณะนี้ตั้งไว้ 2 ประเด็น 1 เรื่องหม้อแปลงระเบิด และเรื่องสายไฟเก่า 20-30 ปี ชำรุด ไม่เคยมีการเปลี่ยนใหม่ รวมถึงสภาพอากาศร้อน อาจมีการใช้ไฟเกินปริมาณ และเตรียมตรวจสอบเรื่องการขอใบอนุญาตต่อเติมอาคาร การจัดตั้งห้องเช่า ว่าดำเนินการถูกต้องหรือไม่
ทั้งนี้ต้องรอผลตรวจสอบอย่างเป็นทางการจากพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งจะส่งมาให้ภายใน 15 วัน เพื่อมาประกอบสำนวนต่อไป ขอให้มั่นใจทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริง .-สำนักข่าวไทย