กกต. 21 พ.ค.- “ศรีสุวรรณ” ยื่น กกต. ตรวจสอบ “ธนาธร” ให้พรรคอนาคตใหม่ยืมเงินกว่า 100 ล้านบาท ขัด กม.พรรคการเมือง ผิดระเบียบ กกต. ใช้เงินเลือกตั้งเกินกว่าที่ กกต.กำหนด
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นเรื่องขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการตรวจสอบนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีที่นายธนาธรบรรยายที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ยอมรับว่า ได้ให้พรรคอนาคตใหม่ยืมเงิน จำนวน 110 ล้านบาท ในการดำเนินกิจกรรมของพรรค อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เคยให้สัมภาษณ์ถึงการกู้ยืมเงินจำนวน 250 ล้านบาทของพรรคจากนายธนาธร ว่า มีสัญญาและคิดดอกเบี้ยชัดเจน
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 66 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ระบุว่า บุคคลหรือนิติบุคคลใดจะบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้พรรคการ โดยมีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาทต่อปีมิได้ กรณีดังกล่าวจึงเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 124 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 66 วรรคหนึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า นอกจากนี้ มาตรา 125 ระบุว่า พรรคการเมืองใดที่รับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด มีมูลค่าเกินที่กำหนดไว้ มาตรา 66 วรรคสอง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค มีกำหนด 5 ปี และให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ส่วนที่เกินมูลค่าที่กำหนดไว้ตามมาตรา 66 ตกเป็นของกองทุนพัฒนาการเมือง
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ยังมีข้อสงสัยอีกว่า การใช้จ่ายเงินของพรรคอนาคตใหม่ ได้ดำเนินการเป็นไปตามมาตรา 87,88,89 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง คือ นำไปใช้จ่ายเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรค โดยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งของพรรคการเมืองและสมาชิก และค่าใช้จ่ายในการบริหารพรรคถูกต้องตามกฎหมายแล้วหรือไม่ โดยเฉพาะประกาศ กกต.เรื่องกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2561 ที่กำหนดไว้ในข้อ 5 ว่าพรรคการเมืองต้องใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่เกิน 35 ล้านบาท ห้ามผู้สมัคร ส.ส.ใช้เงินหาเสียงเกิน 1.5 ล้านบาท จึงสงสัยว่าการใช้จ่ายเงินของพรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ และเหตุใดจึงยืมเงินจากหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กว่า 100 ล้านบาท ..- สำนักข่าวไทย