ประจวบคีรีขันธ์ 19 พ.ค.-กองทัพเรือดำเนินการสร้างเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง หรือเรือหลวงลำที่ 2 ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว เรือลำนี้ พัฒนาดัดแปลงแบบเรือจากเรือหลวงกระบี่ ให้มีสมรรถนะและขีดความสามารถสูงสุดตอบสนองภารกิจของกองทัพ
จากกระแสพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีวางกระดูกงูเรือ ต. 91 เมื่อปี 2510 ที่ว่า เรือรบขนาดใหญ่มีราคาแพง กองทัพเรือควรมีเรือที่มีขนาดเหมาะสมและสร้างได้เอง เป็นจุดเริ่มต้นของกองทัพเรือ ที่จะสร้างเรือไว้ใช้งานในประเทศ เป็นที่มาของเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งลำแรก หรือเรือหลวงกระบี่ ซึ่งขึ้นประจำการเมื่อปี 2556 นำไปสู่เรือหลวงลำที่ 2 หรือเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ โดยพัฒนาดัดแปลงจากเรือหลวงกระบี่ ให้มีสมรรถนะและขีดความสามารถมากขึ้น มีระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี วงเงิน 5,500 ล้านบาท
เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ สามารถปฏิบัติการต่อเนื่อง ได้อย่างน้อย 14 วัน โดยไม่ต้องส่งกำลังบำรุง ตรวจและพิสูจน์ทราบเป้าผิวน้ำและเป้าอากาศยานทั้งกลางวันและกลางคืน โจมตีเป้าพื้นน้ำในระยะพ้นขอบฟ้าด้วยอาวุธปล่อยนำวิถี ป้องกันภัยทางอากาศในระยะประชิด รวมถึงทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์
เรือมีความยาว 90.50 เมตร กว้าง 13.5 เมตร รองรับเฮลิคอปเตอร์ขนาด 11.5 ตันได้จำนวน 1 ลำ ที่ผ่านมาเรือรบของกองทัพเรือไทย สั่งจากต่างประเทศ การต่อเรือยนต์รักษาฝั่งขึ้นใช้ในราชการได้ จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีและนับเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งของกองทัพเรือ
ภารกิจของกองทัพเรือ คือการปกป้องน่านน้ำไทย ไม่ให้รุกล้ำอธิปไตย เรือหลวงตรวจการณ์ไกลฝั่งที่ลอยลำโต้เกลียวคลื่น ต้องพร้อมป้องกันการรุกรานของศัตรู และเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจที่กองทัพเรือสามารถต่อเรือที่มีมาตรฐานและศักยภาพทัดเทียมนานาประเทศ.-สำนักข่าวไทย