ปมดราม่าแพทย์หญิงโพสต์ชวนคลอดลูกที่สหรัฐ

กรุงเทพฯ 17 พ.ค. – การโพสต์ภาพและข้อความของแพทย์หญิงชักชวนไปคลอดบุตรที่สหรัฐ เพื่อให้ทารกที่เกิดมาได้สัญชาติอเมริกัน เกิดคำถามมากมายถึงความเหมาะสมในประเด็นต่างๆ ล่าสุดต้นสังกัดสั่งให้เจ้าตัวรายงานข้อเท็จจริงแล้ว ขณะที่สำนักข่าวไทยตรวจสอบเว็บไซต์การคลอดบุตรดังกล่าว พบลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวละตินอเมริกัน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านอเมริกันศึกษา ระบุเพราะพื้นที่ติดกับกลุ่มประเทศดังกล่าว จึงน่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก



หลังเกิดประเด็นดราม่า เมื่อแพทย์หญิงซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจคนหนึ่งโพสต์ภาพขณะตั้งครรภ์ และเขียนข้อความบนท้องว่า “แม่ครับผมเกิดที่ไมอามีได้ไหมครับ” พร้อมแคปชันเชิญชวนให้ไปคลอดบุตรที่สหรัฐอเมริกา เพื่ออนาคตและโอกาสที่ดีของลูก รับปรึกษาฟรี หลังจากที่ตัวเธอเพิ่งไปคลอดที่ไมอามี และทำให้บุตรชายได้รับสัญชาติอเมริกัน



หลายคนเข้ามาคอมเมนต์ พร้อมกับตั้งคำถามว่า การตั้งใจไปคลอดบุตรที่สหรัฐ เป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่ หรือเป็นการอาศัยช่องโหว่กฎหมายหรือไม่ ล่าสุดแพทย์หญิงคนดังกล่าวลบแคปชันไปแล้ว แต่ยังคงรูปไว้


ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ตรวจสอบไปยังเว็บไซต์โครงการที่แพทย์หญิงคนดังกล่าวเข้าร่วม มีชื่อว่า Have my baby in Miami อำนวยความสะดวกให้คนจากทั่วโลกสามารถมาคลอดที่สหรัฐได้ โดยเด็กที่เกิดจะได้รับสัญชาติอเมริกันโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าพ่อแม่จะเป็นคนสัญชาติใดก็ตาม ซึ่งจากการสังเกตพบว่า ส่วนใหญ่เป็นแม่ชาวละตินอเมริกาที่มาคลอดบุตร โดยทางโครงการจะให้บริการครบวงจร เช่น การให้คำปรึกษาทางกฎหมาย การยื่นขอเอกสาร การซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการคลอดบุตร และบ้านที่จะให้แม่และเด็กพักฟื้น ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงอาจถึงหลักล้านบาท แต่เมื่อสอบถามถึงการเดินทางเข้าประเทศของมารดาที่จะเข้ามาคลอดบุตร กลับไม่มีคำตอบที่ชัดเจน

ผู้เชี่ยวชาญด้านอเมริกันศึกษา ให้ข้อมูลว่า ตามกฎหมายสหรัฐ บุคคลจะได้สัญชาติอเมริกันมี 2 กรณี คือ แต่งงานกับคนอเมริกันครบ 5 ปี แต่ก็ต้องผ่านการพิสูจน์อีกหลายขั้นตอน อีกกรณีคือ หญิงตั้งครรภ์ที่ไปคลอดบุตรในสหรัฐ โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ รวมทั้งคลอดบนเครื่องบินหรืออากาศยานสัญชาติอเมริกัน ทารกที่เกิดจะได้รับสัญชาติอเมริกันโดยอัตโนมัติ และได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับพลเมืองอเมริกันหลายอย่าง สามารถถือ 2 สัญชาติ จนอายุครบ 18 ปี ตามกฎหมายสหรัฐจะให้เลือกเพียงสัญชาติเดียว ขณะที่กฎหมายประเทศสัญชาติของแม่เด็กอาจกำหนดแตกต่างกันไป

ส่วนกรณีการเสนอแพ็จเกจคลอดบุตรในไมอามี เพื่อให้ได้สัญชาติอเมริกันนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านอเมริกันศึกษา ระบุว่า ไมอามี เป็นเมืองในรัฐฟลอริดา ซึ่งอยู่ทางใต้ของสหรัฐ มีชายแดนติดกลุ่มประเทศอเมริกาใต้ จึงมีประชาชนจากกลุ่มประเทศนี้หลายสัญชาติ เดินทางข้ามแดนไปมาตลอด จึงน่าจะมุ่งกลุ่มเป้าหมายหญิงตั้งครรภ์ในกลุ่มประเทศเหล่านี้ 

มีข้อมูลว่า การทำธุรกิจที่เรียกว่า Birth tourism หรือ “ทัวร์คุณแม่” มีกันแพร่หลาย ลูกค้าเป็นสตรีต่างชาติหลายประเทศ ตัวเว็บเองก็มีบริการหลายภาษา แต่ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกมาระบุว่า ต้องการยกเครื่องระบบการเปิดรับคนเข้าเมือง เพื่อส่งเสริมให้คนหนุ่มสาวที่มีการศึกษาดี พูดภาษาอังกฤษได้ เข้ามาทำงานในสหรัฐ แทนนโยบายเดิมที่ใช้ความผูกพันกับครอบครัวชาวอเมริกันเป็นหลัก ซึ่งหากทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีต่อในการเลือกตั้งปีหน้า และพรรครีพับลิกันได้ครองเสียงข้างมากทั้ง 2 สภา กฎหมายฉบับนี้อาจคลอดออกมาจริง และนั่นก็จะปิดโอกาสต่างชาติที่หวังจะเข้าไปขุดทองในสหรัฐ

ส่วนกรณีแพทย์หญิงข้าราชการตำรวจ ต้นสังกัดสั่งให้รายงานข้อเท็จจริงแล้วใน 2 ประเด็น คือ การลาราชการทำตามระเบียบหรือไม่ และความเหมาะสมในการโพสต์

ขณะที่เลขาธิการแพทยสภา ระบุว่า เรื่องดังกล่าวแม้จะเป็นการแนะนำส่วนตัว แต่ต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าเข้าข่ายจริยธรรมทางการแพทย์หรือไม่. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]

ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา

พังงา 26 มิ.ย.- ตำรวจพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา ตำรวจพังงา พร้อมด้วยตำรวจชุด EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซุกอยู่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดดังกล่าว โดยการตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจพังงาจับกุม 2 คนร้ายชาวปัตตานี พร้อมกับรถยนต์ที่ซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ภายในรถ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ข้อมูลเบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนระบุว่า ตำรวจแกะรอยจากการไล่กล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุที่กระบี่ มาก่อเหตุที่พังงา.-สำนักข่าวไทย

ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ จัดทัพเริ่มนิ่ง

อสมท 26 มิ.ย. – ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 ด้าน กล้าธรรม “นฤมล” คุมนั่ง รมว.ศึกษาฯ ขณะที่ “สุชาติ ตันเจริญ” ชื่อติดนั่ง รมว.แรงงาน ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี แพทองธาร ½ สำหรับโผการจัด ครม. ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย 2 ตำแหน่ง คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร นายชูศักดิ์ ศิรินิล […]

นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอบคุณที่เสียสละ ขออดทนอดกลั้น

สระแก้ว 26 มิ.ย.- นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอให้อดทนอดกลั้น ขอบคุณที่เสียสละ พร้อมพบปะนักเรียนแนวชายแดน มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ก่อนไปตรวจหลุมหลบภัย เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยไปดูบังเกอร์ของหน่วยดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าต้องมาประจำที่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องขอขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทหารคือรั้วของชาติ การมาประจำการอยู่ใกล้ชิดชายแดนขนาดนี้ ต้องอดทน อดกลั้น เพราะมีสิ่งยั่วยุอยู่มากมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อดทนอดกลั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่น พร้อมย้ำว่าอะไรที่ต้องการ รัฐบาลสนับสนุน ขอให้บอกมาเลย ยืนยันไม่ลืมเรื่องการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่โรงเรียนตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายนักเรียนในห้องเรียนต่างๆ โดยนักเรียนแต่ละห้องได้โชว์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนที่แตกต่างกันไปให้นายกรัฐมนตรีชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบอุปกรณ์การเรียน นม ขนม […]