เมืองทองธานี 16 พ.ค. – แบงก์เผยยอดขอกู้บ้านชะลอลง เหตุลูกค้ากังวลมาตรการ LTV ด้าน ธอส.จะหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อไปเจรจากับ ธปท.ผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวให้กับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เริ่มบังคับใช้มาตรการควบคุมสินเชื่อบ้าน ( LTV) ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา มีผลกระทบทำให้ยอดการขอสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ใหม่เดือนเมษายนลดลงไปร้อยละ 50 ลูกค้าชะลอการตัดสินใจยื่นกู้ ซึ่งขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างพิจารณาปรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อบ้านปีนี้ใหม่ จากปัจจุบันตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ 24,000 ล้านบาท จากปัจจุบันธนาคารปล่อยสินเชื่อใหม่แล้ว 8,000 ล้านบาท
ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มีแนวโน้มชะลอลง โดยปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 2.7-2.8 และคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับดังกล่าวจนถึงสิ้นปีนี้
ด้านนางฉัตร์รวี จิรกุลเมธาพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส). กล่าวว่า การปล่อยสินชื่อบ้านของ ธอส.เดือนเมษายนที่ผ่านมาปรับตัวลดลงเหลือ 9,000 ล้านบาท จากเดือนมีนาคมที่สามารถปล่อยได้ 19,000ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV โดยเพิ่มเงินดาวน์ร้อยละ 20 ส่งผลให้ผู้ขอสินเชื่อชะลอการยื่นกู้ เนื่องจากไม่มีเงินส่วนต่างดังกล่าวเพียงพอในการนำหลักฐานการเงินดังกล่าวมาแสดงกับ ธอส. เพราะผู้ขอสินเชื่อมีภาระที่ต้องชำระอีกจำนวนมาก ดังนั้น ธอส.จึงหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อไปเจรจากับ ธปท.ให้ผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวให้กับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ เนื่องจากธนาคารรัฐมีพันธกิจเฉพาะด้านไม่เหมือนธนาคารพาณิชย์
ทั้งนี้ หาก ธปท.ไม่หาแนวทางช่วยเหลือจะกระทบต่อยอดการปล่อยสินเชื่อของ ธอส.ปีนี้ 60,000 ล้านบาท จากเป้าสินเชื่อที่ตั้งไว้ 230,000 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย