เขตทุ่งครุ 16 พ.ค.-ผู้ว่าฯ กทม.ตรวจการจราจรเปิดเรียนวันแรกเรียบร้อยดี พร้อมขอให้นักเรียนและครู ดูแลการใช้โทรศัพท์มือถือ ตามข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ที่โรงเรียนนาหลวง เขตทุ่งครุ โดยบรรยากาศสภาพการจราจรในพื้นที่ชะลอตัวอยู่บ้างเพียงบางจังหวะในช่วงเวลา 07.30-08.00 น.ซึ่งเป็นช่วงที่ใกล้เข้าแถวเคารพธงชาติ โดยวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก ผู้ปกครองทยอยพาบุตรหลาน ทั้งขับรถยนต์และขี่รถจักรยานยนต์มาส่งถึงหน้าประตูโรงเรียน โดยมีเจ้าหน้าที่เทศกิจจากโครงการ School care คอยอำนวยความสะดวกให้
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กทม.กำหนดให้วันที่ 16 พ.ค.เป็นวันเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2562 ของโรงเรียนในสังกัด กทม.ทั้ง 437 โรงเรียน และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักเรียนและผู้ปกครองที่มารับส่งบุตรหลานในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ติดถนนสายหลัก โรงเรียนในเขตพื้นที่ชั้นใน โรงเรียนที่อยู่ใกล้กับแนวการก่อสร้างรถไฟฟ้า จัดส่งเจ้าหน้าที่จากโครงการ Scool care ที่ประกอบไปด้วยเทศกิจ ครู ผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่อาสากว่า 800 คน กระจายกำลังคอยอำนวยความสะดวก ทั้งการพานักเรียนข้ามถนน โบกรถในบริเวณหน้าโรงเรียน ที่มีการจราจรแออัดทั่ว กทม.
ทั้งนี้ ในภาพรวมการแก้ปัญหาจราจรวันเปิดภาคเรียน ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี มั่นใจว่าสามารถระบายรถในช่วงเวลาเร่งด่วน เช้าตั้งแต่ 06.30-08.30 น. และช่วงเย็น 15.00-17.00 น. ให้ไม่ติดขัดได้
ส่วนการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่โดยรอบโรงเรียนใน กทม. มอบหมายสำนักการจราจรและขนส่งตรวจสอบสัญญาณไฟกระพริบทางม้าลายและกล้องวงจรปิดบริเวณด้านหน้าโรงเรียนให้พร้อมใช้งาน ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างไม่ให้มีมุมอับสายตา และประสานกรมเจ้าท่าตรวจสอบท่าเทียบเรือให้มีความมั่นคง แข็งแรง รวมทั้งมอบหมายสำนักเทศกิจและสำนักงานเขต จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจอำนวยความสะดวกและจัดการจราจรบริเวณหน้าโรงเรียน และให้สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งสถานีดับเพลิงทุกแห่งเตรียมความพร้อมในการเข้าระงับเหตุที่อาจเกิดขึ้น เช่น เพลิงไหม้ หรือสาธารณภัยอื่นๆ บริเวณโรงเรียนหรือชุมชนรอบโรงเรียน
รวมถึงให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาขอความร่วมมือผู้ปกครองที่รับส่งนักเรียนด้วยรถจักรยานยนต์ให้จัดหาหมวกกันน็อคให้นักเรียนสวมใส่ทุกครั้ง สำหรับการส่งนักเรียน ให้ส่งที่หน้าประตูโรงเรียน โดยให้ครูเวรยืนรอรับและมอบหมายผู้อำนวยการสถานศึกษากำชับผู้ปกครองหรือผู้ประกอบ การรถผู้รับส่งนักเรียน ให้ตรวจสอบรถตู้ทุกครั้งเมื่อส่งนักเรียนที่โรงเรียนแล้ว
ส่วนข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรีที่ห่วงเรื่องเด็กติดการเล่นโทรศัพท์มาก จนอาจส่งผลกระทบต่อการเรียนนั้น ผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าปัจจุบันโทรศัพท์มือถือเป็นปัจจัยที่ 5 ของคนแทบทุกคนแล้ว เด็กๆก็มีกันเกือบทุกคน แต่การเล่นควรต้องแบ่งเวลาไม่ให้กระทบกับการใช้ชีวิต โดยเฉพาะช่วงเวลาเรียนหนังสือ จึงขอฝากถึงนักเรียนทุกๆ คน ขอห้ามนำโทรศัพท์มือถือ ขึ้นมาใช้ในเวลาเรียน โดยขอให้ปิดเครื่องหรือปิดเสียงทุกครั้ง เพื่อเป็นการไม่ทำลายสมาธิของผู้เรียนคนอื่น รวมถึงฝากย้ำไปยังครูช่วยสอดส่องดูแลพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือของนักเรียนไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเรียนของเด็กๆด้วย.-สำนักข่าวไทย