โคราช 15 พ.ค. – ผู้การโคราช ขอโทษทีมแข่งเรือเยาวชนนนทบุรี หลังตำรวจออกใบสั่งรถลากจูงเรือพายยาว 12 เมตร โดยไม่ยอมฟังเหตุผล
กรณี ตำรวจ สภ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ออกใบสั่งให้ทีมนักกีฬาเรือพาย จ.นนทบุรี ในข้อหา “ใช้รถลากจูงโดยไม่ได้รับอนุญาต” หลังใช้รถกระบะลากจูงเรือพาย ความยาว 12.5 เมตร จำนวน 2 ลำ เพื่อเดินทางไปแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 35 ที่ จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 10-20 พ.ค. แม้ตัวแทนได้อธิบายว่าจะนำเรือไปแข่งกีฬา แต่ตำรวจไม่ฟัง อ้างว่าผิดกฎหมาย พร้อมปรับเป็นเงิน 200 บาท
ต่อมากลุ่มนักกีฬาได้นำหนังสือใบส่งตัวนักกีฬา ที่ลงนามโดย นายอําพล อังคภากรณ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ให้ตำรวจดูว่า ไม่ได้โกหก จะไปแข่งกีฬาจริง แต่ตำรวจกลับไม่พอใจพร้อมบอกว่า “จะเอาหนังสืออะไรมาแสดงก็ไม่สน เนื่องจากผิดกฎหมาย” พร้อมปรับเพิ่มเป็นเงิน 500 บาท ทั้งที่ ก่อนหน้านี้ไปแข่งมาทั่วประเทศ ไม่เคยโดนตำรวจจับ
ความคืบหน้าล่าสุดสำหรับเหตุการณ์นี้ พลตำรวจตรีวัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า สอบถามข้อเท็จจริงจากทางผู้กำกับ สภ.หนองบุญมาก ทราบว่าเป็นการออกใบสั่งไปจริง แต่ยังไม่มีการเสียค่าปรับ ส่วนเอกสารที่ทีมแข่งนำมาให้ดู ไม่ได้ระบุเจาะจงชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ได้กำชับผู้กำกับให้ย้ำผู้ใต้บังคับบัญชาอีกครั้งว่า การปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมาเป็นเรื่องดี แต่บางครั้งต้องใช้วิจารณญาณ เพราะบางข้อกล่าวหา หากไม่เป็นอันตราย สามารถว่ากล่าวตักเตือนได้ พร้อมฝากขอโทษทีมแข่งเรือสำหรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวบุรีรัมย์ ได้เดินทางไปที่สนามแข่งเรือพาย บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อพูดคุยทีมเรือเยาวชนคู่กรณี นายสยุมภู ป้อมเสมา ครูผู้ฝึกสอนทีมเรือ ได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า วันที่ 11 พฤษภาคม ผู้ช่วยโค้ชและทีมนักกีฬาบางส่วนได้เดินทางจากนนทบุรี ไปแข่งขันเรือพายที่บุรีรัมย์ แต่ในขบวนได้บรรทุกเรือพายความยาว 12.5 เมตร มา 2 ลำ โดยบรรทุกเรือใส่ตัวพ่วงใช้รถกระบะในการลากจูง ทำให้ตำรวจที่ตั้งด่าน เรียกตรวจและออกใบสั่ง “ใช้รถลากจูงโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระบุค่าปรับ 500 บาท
ทั้งนี้ ขอชี้แจงว่า ตำรวจยังไม่ได้เปรียบเทียบปรับตามที่ออกใบสั่ง และไม่ได้ยึดใบขับขี่ของคนขับรถกระบะชักลากเรือ โดยหลังเขียนใบสั่งก็ปล่อยให้ไปต่อ และเมื่อถึง จ.บุรีรัมย์ ก็ได้พูดคุยกับตำรวจในพื้นที่ ก่อนประสานไปยัง สภ.หนองบุญมาก ท้องที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้ได้ทำเข้าความเข้าใจกันแล้ว ล่าสุด สภ.หนองบุญมาก ได้แก้ไขใบสั่งเป็นแค่การตักเตือนเท่านั้น
ส่วนที่กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอาจจะเกิดจากการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน และเป็นเรื่องของความรู้สึกของทีมนักกีฬา ที่อาจคิดว่าที่ผ่านมาใช้ตัวพ่วงชักลากเรือพายไปร่วมแข่งหลายพื้นที่ แต่ไม่เคยถูกจับ ซึ่งขณะนี้เข้าใจกันดีแล้ว ทีมนักกีฬาเมืองนนท์ ไม่ติดใจอะไร และเข้าใจว่าการทำหน้าที่ของตำรวจ และถือเป็นบทเรียนที่ต้องนำไปดำเนินการให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก .- สำนักข่าวไทย



