พรรคเพื่อไทย 15 พ.ค.-“ร.ต.อ.เฉลิม” ชี้รัฐบาลก้าวก่ายบีบอัยการยกฟ้องคดี บริษัท ฟิลลิป มอร์ริสฯ ทำไทยเสียหาย ลั่นไม่มีอำนาจแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจฝ่ายบริหาร ระงับข้อพิพาทระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์กรณีสินค้าบุหรี่นำเข้าของบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ประเทศไทย) จำกัด โดยขอให้หยุดกระบวนการดำเนินคดีในศาลไทย ก่อนที่ศาลอาญาจะมีคำพิพากษาคดีดังกล่าว ว่า นายดอนอาจจะไม่มีความรู้ด้านกฎหมายและยังขาดความเข้าใจ ขอบอกนายดอนว่าคดีนี้อัยการสั่งฟ้องไปแล้ว และอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล หากนายกรัฐมนตรีจะใช้อำนาจฝ่ายบริหารยุติฟ้องร้องคดีดังกล่าว จะเป็นการก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจในการระงับข้อพิพาทนี้ เพราะเป็นอำนาจของอัยการในการสั่งฟ้องคดี และขณะนี้อยู่ในขั้นการพิจารณาของศาล อย่างไรก็ตาม หากนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 44 เร่งรัดเรื่องดังกล่าว เชื่อว่าจะเกิดหายนะต่อประเทศในเร็ววัน
“ผมเชื่อว่านายกรัฐมนตรีไม่กล้าใช้มาตรา 44 เพราะจะติดคุกแน่นอน และผมจะอภิปรายเรื่องนี้นอกสภาฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อทวงถามความยุติธรรมให้คนไทย และเปิดโปงผู้ที่รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้ ซึ่งต้องขอชื่นชมอัยการที่ยังหนักแน่นเดินหน้าฟ้องร้องในคดีดังกล่าวเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
สำหรับข้อพิพาทกรณีสินค้าบุหรี่นำเข้า เป็นคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2549 หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินคดีกับบริษัทฟิลลิป มอร์ริส (ประเทศไทย) จำกัด กรณีหลบเลี่ยงภาษีบุหรี่มากกว่า 68,000 ล้านบาท เมื่อปี 2546-2550 และต่อมาอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องเจ้าหน้าที่บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 12 คนในปี 2559 ขณะที่บริษัท ฟิลลิป มอร์ริสฯ มีความพยายามที่จะให้ไทยถอนฟ้องในคดีนี้ และไปสนับสนุนประเทศฟิลิปปินส์ให้ฟ้องบังคับคดีกับไทยต่อองค์การการค้าโลก (WTO) กล่าวหาว่าการดำเนินคดีอาญาของไทยขัดต่อหลัก WTO.-สำนักข่าวไทย
