จุรินทร์นั่งหัวหน้าปชป.คนใหม่

กรุงเทพฯ 15 พ.ค.- “จุรินทร์” คว้าชัยนั่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 8 ตอนเลือกวุ่นเล็กน้อย ต้องลงคะแนนสองรอบ หลังเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ กกต.มีปัญหา พบโหวตเตอร์บางราย ทำผิดกติกา ถ่ายรูปสลิปลงคะแนนเป็นหลักฐาน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยเริ่มต้นจากคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งของพรรคที่มีนายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ เป็นประธาน ได้เริ่มอธิบายถึงขั้นตอนการเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค จากนั้นเปิดให้มีการเสนอชื่อผู้เสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรค

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตส.ส.ประจวบคีรีขันธ์  เสนอชื่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  เป็นหัวหน้าพรรค นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก เสนอชื่อ นายกรณ์ จาติกวณิช น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีตส.ส.กทม.เสนอชื่อนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เสนอชื่อ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค จากนั้นที่ประชุมได้ให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 4 คน จับสลากหมายเลขเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ โดยผู้ที่ได้หมายเลขที่ 1 คือ นายอภิรักษ์ หมายเลข 2 นายจุรินทร์ หมายเลข 3 นายพีระพันธ์ และหมายเลข 4 นายกรณ์ ซึ่งทั้งหมดจะมีเวลา 15 นาทีในการแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุม และมีการถ่ายทอดสดผ่านเฟสบุ๊กไลฟ์ของพรรคด้วย


นายอภิรักษ์ กล่าวว่า  วันนี้หลายคนถามทำไมลงสมัครหัวหน้าพรรค อาจมีคำถามว่าตนไม่ได้สมัครส.ส.แต่อาสาเป็นหัวหน้าพรรคจะทำงานได้หรือ ตนเห็นว่าถ้ามองวิกฤตเป็นโอกาสวว่าการที่พรรคได้รับการสนับสนุนส.ส.น้อยลงจำนวนมาก เป็นเหตุผลที่ตนตัดสินใจว่าวิกฤตเป็นโอกาสที่จะรวมพลัง ตั้งใจทำงานร่วมกับทุกคนฟื้นฟูพรรค จะใช้เวลาทั้งหมดทำงานร่วมกับอดีตส.ส. สาขา ต่อยอดอุดมการณ์พรรค ปรับปรุงให้พรรคร่วมสมัยเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลก  โดยการดึงพลังของทุกคนมาร่วมกันทำงานโดยไม่แบ่งแยก มีเป้าหมายร่วมกันในการทำงานให้พรรคประชาธิปัตย์ และการเปลี่ยนแปลงยังต้องยึดมั่นอุดมการณ์ของพรรค ซึ่งต้องทำให้เข้าถึงประชาชนมากขึ้นผ่านการสื่อสารสมัยใหม่

“วันนี้เราได้รับเลือกตั้งน้อยลงกว่าคราวที่แล้วเยอะมาก จะชนะเลือกตั้งได้อย่างไร ผมลงสมัครผู้ว่ากทม.สองครั้งชนะทั้งสองครั้ง และเป็นรองหัวหน้าพรรคกทม.ได้ส.ส.กทม. 28 ที่นั่ง ทำให้ประชาธิปัตย์เป็นพรรคของคนไทยทั้งประเทศ ผลักดันให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า การเลือกตั้งครั้งนื้มีความสำคัญมากเพราะเป็นการกำหนดอนาคตประชาธิปัตย์ว่าจะเปลี่ยนจนชนะการเลือกตั้งกลับมาครองใจประชาชนอีกครั้งหนึ่งได้หรือไม่ ผมขอเสนอตัวให้เลือกอภิรักษ์พรรคเปลี่ยน” นายอภิรักษ์ กล่าว

ด้านนายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนร่วมอุดมการณ์กับพรรคมาอย่างน้อย 33 ปี ถ้านับจากวันที่เป็นส.ส.ปี 2529 เป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวงโดยมีโอกาสได้เป็นรองหัวหน้าพรรคตั้งแต่ปี 2546  ที่บอกสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพราะเก่งหรือดี แต่มีวันนี้เพราะมีโอกาส และนี่คือสิ่งที่ตนตระหนักว่าโอกาสคือสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับทุกคน สิ่งที่อยากบอกคือถ้าตนได้รับโอกาสเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะหยิบยื่นสิ่งเหล่านี้ให้ทุกคนที่ตั้งใจทำงานทุ่มเทเสียสละให้พรรคโดยไม่จำเป็นว่าต้องอยู่ฝ่ายไหน หรือเป็นเด็กของใคร นี่เป็นคำสัญญาที่ขอให้ไว้ มีหลายคนถามว่าถ้าเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะมีอะไรเปลี่ยนหรือไม่ ขอเรียนว่าประชาธิปัตย์ถึงเวลาต้องเปลี่ยน และต้องเปลี่ยนอย่างมีวุฒิภาวะ อะไรดีต้องรักษาไว้ อะไรสมควรเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน แต่สิ่งที่ต้องไม่เปลี่ยนคืออุดมการณ์ระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต้องไม่เปลี่ยน


“หมดยุคซุปเปอร์แมน ยุคต่อไปต้องเป็นยุคของอะเวนเจอร์ ซุปเปอร์ฮีโร่ของพรรคต้องจับมือเป็นทีมอะเวนเจอร์ประชาธิปัตย์ นำทัพเดินไปข้างหน้า นายกรณ์ นายอภิรักษ์ และนายพีระพันธ์ จะเป็นหนึ่งในทีมอะเวนเจอร์ของพรรค แต่แค่นี้ไม่พอเพราะวันนี้ประชาธิปัตย์เหลือแค่ 52 คน หัวหน้าพรรคต้องคิดทำอย่างไรให้เพิ่มจนมากกว่า 200 ในอนาคต ซึ่งมีคำตอบอยู่แล้วคือ ประชาธิปัตย์ต้องมีความเป็นเอกภาพ ภายใต้ความร่วมมือร่วมใจของทุกคนมั่นใจว่าประชาธิปัตย์สามารถก้าวเดินไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นได้  ผมมายืนตรงนี้เพื่อขอโอกาสกับทุกคน และยืนยันมั่นใจกับทุกคนว่าการให้โอกาสตนคือการให้โอกาสประชาธิปัตย์ ตนพร้อมจับมือร่วมแรงร่วมใจกับทุกคนที่มุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อพรรค พาพรรคก้าวสู่ความเป็นหนึ่ง และพาพรรคประชาธิปัตย์ไปเป็นที่หนึ่งในหัวใจประชาชนในอนาคต ผมหวังว่าจะได้รับโอกาสจากทุกคน” นายจุรินทร์ กล่าว

นายพีระพันธ์ กล่าวว่า แม้ทุกคนจะมีความชื่นชอบในตัวผู้สมัครหัวหน้าพรรคแต่ละคนแตกต่างกัน แต่ตนเชื่อแม้จะมีความคิดที่แตกต่างกันแต่สิ่งที่อยู่ในใจเหมือนกันคือ เรามีหัวใจดวงเดียวกัน รักพรรค ห่วงใยพรรคและรักชาติรักแผ่นดินไม่แตกต่างกัน ตนเชื่อมั่นด้วยว่าทุกคนล้วนปรารถนาทำให้พรรคกลับมาเป็นที่หนึ่งในหัวใจประชาชนอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าพวกเราไม่รวมกันเป็นหนึ่ง ไม่มีความรัก สามัคคีปรองดอง ไม่มีการรวมพลังก็จะไม่มีวันเข้มแข็งพอที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นที่หนึ่งในหัวใจของประชาชนได้ 

นายพีระพันธ์ กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตนเหมือนผู้สมัครอีกสามท่านที่ห่วงใยพรรค มองเห็นการบริหารจัดการพรรคเปลี่ยนแปลงไปในหลายเรื่อง และตกใจกับผลเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่อย่าท้อถอยหรือหมดกำลังใจ ต้องเอาสิ่งนี้มาเป็นบทเรียนก้าวไปข้างหน้า เพื่อนำพาพรรคให้เป็นพรรคหลักของประเทศให้ได้ โดยผู้บริหารต้องเปิดกว้างอย่าจำกัดอำนาจไว้กับตัวเอง เพราะตำแหน่งเป็นแค่หัวโขน ต้องเปิดกว้างให้ทุกคนมาทำงานด้วยกันเพื่อให้ประชาธิปัตย์มีความกลมเกลียวเป็นหนึ่งได้ และเปิดโอกาสให้ทุกคนเป็นเจ้าของพรรคอย่างแท้จริง เชื่อว่าแนวทางนี้จะทำให้ประชาชนสนับสนุนให้ประชาธิปัตย์กลับมาเป็นพรรคหลักของประเทศอีกครั้ง 

“ผมลงสมัครหัวหน้าพรรคเพราะคิดว่าถึงเวลาที่จะขอโอกาสนำแนวทางของตนมาบริหารพรรค เปิดโอกาสให้ทุกคนเดินร่วมกัน ซึ่งตนตั้งใจทำงานจริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจมีอำนาจในพรรค อยากกอบกู้ ฟื้นฟูพรรคให้เดินไปข้างหน้า มีคนถามว่าหากได้รับโอกาสเป็นหัวหน้าพรรคแล้วต่อไปมีการร่วมรัฐบาล ตนก็ยังเป็นหัวหน้าพรรคแต่จะไม่รับตำแหน่งบริหารในรัฐบาลเด็ดขาด เพราะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่านักการเมืองของประชาธิปัตย์ไม่เคยวิ่งเต้น วิ่งหาตำแหน่ง พรรคประชาธิปัตย์มีคนดี คนเก่งทำงานให้ชาติ ให้แผ่นดินได้ ไม่ใช่เฉพาะผู้บริหารพรรค ผมจะอยู่ดูแลพรรค อดีตส.ส.ต้องหาทางให้ทุกคนกลับมาเป็นส.ส.ให้ได้” นายพีระพันธ์ กล่าว

นายพีระพันธ์ กล่าวว่า  แม้วันนี้ยังไม่ได้เป็นส.ส.ตนเข้าใจความรู้สึก เพราะท่านยังคงเป็นส.ส.ของพรรคในหัวใจของตน ท่านยังทำหน้าที่เหมือนที่เป็นส.ส.เหมือนเดิม และจะช่วยให่ทุกคนได้ทำงานในตำแหน่งที่ท่านอยากทำ ที่สำคัญคือในส่วนที่เกี่ยวกับประชาชนพรรคต้องเปลี่ยนเป็นพรรคที่ทำให้ประชาชนรู้สึกได้ว่าเป็นพรรคของประชาชน กลับมาคิดแบบชาวบ้าน พูดแบบชาวบ้าน ทำแบบชาวบ้าน นี่คือพรรคที่ผมจะทำให้เป็น และสิ่งที่ตนจะทำคือทำให้ประชาธิปัตย์มีการบริหารจัดการที่เป็นธรรมกับสมาชิกทุกคน เปิดกว้างให้ทุกคนร่วมทำงานแบบเสมอภาค ไม่ใช่หัวหน้าใหญ่กว่าลูกพรรค เลขาธิการพรรคใหญ่กว่าทุกคน แต่ทุกคนจะใหญ่เท่าเทียม เสมอหน้าทุกคน จะทำให้ประชาธิปัตย์กลับมาอยู่ในใจของประชาชนให้ได้”นายพีรพันธ์ กล่าว

ขณะที่นายกรณ์ กล่าวว่า หนึ่งเดือนที่ผ่านมามีความเข้มข้นในชีวิตของตนมากที่สุด มีโอกาสได้พบปะพูดคุย เปิดใจกับเพื่อนสมาชิกหลายวงการสนทนา ที่สำคัญคือเป็นหนึ่งเดือนที่มีโอกาสได้รับฟังความในใจของสมาชิกและสัมผัสถึงความรักที่ทุกคนมีต่อพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงความตั้งใจในการทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชน ตนได้สัมผัสถึงความรักที่เรามีให้กัน และมีโอกาสได้นั่งคุยกับส.ส.ที่เพิ่งผ่านสนามเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคมนั่งหลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจแทนเพื่อนหลายคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งที่ผ่านมา รวมถึงความกังวลต่ออนาคตของพรรค ซึ่งตนมั่นใจว่าความแตกต่างในพรรค ต้องยอมรับหากวันหนึ่งอุดมการณ์เปลี่ยนแปลงไปจนอยู่ร่วมกันไม่ได้  เป็นปัญหาที่เป็นความตั้งใจของตนและนายชัยวุฒิคือ ต้องทำทุกอย่างอย่างสร้างสรรค์ เตรียมพื้นที่ให้ทุกคนมีที่ยืนอย่างมีศักดิ์ศรีในการทำงานร่วมกัน ในส่วนเป้าหมายของตนในการทำงานให้พรรคมีความชัดเจนว่าต้องทำให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นทางเลือกหลักให้ประชาชนและทำให้พรรคชนะการเลือกตั้ง 

นายกรณ์ กล่าวว่า ในวันนี้เรามีแชร์โหวตประมาณ 10% ต้องทำให้เพิ่มอย่างน้อย 20 % และขยายต่อไป ซึ่งจะถึงจุดนั้นได้ต้องทำงานหนักกันทุกคน มีความจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน แม้เป็นงานหนักแต่เราไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์เพราะเราทำงานมานานกว่า 70 ปี เป็นทุนสำคัญ เพราะพรรคได้กอบกู้วิกฤตการเมืองและเศรษฐกิจหลายครั้ง รวมถึงสร้างนโยบายหลายอย่างที่ประชาชนได้ประโยชน์ ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งทุกพรรคก็ยังสานต่อนโยบายที่พรรคเริ่มต้นไว้ นี่คือทุนเดิมที่เราสามารถสร้างความเข้มแข็งโดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ แต่การเลือกตั้งที่ผ่านมาเราไม่สามารถอาศัยทุนเก่าหรือบุญเก่าได้ ต้องมีความกล้าเดินหน้าด้วยความชัดเจน 

นายกรณ์ กล่าวว่า จากนี้ไปนอกจากการทำงานหนักในทุกความคิด ทุกคำพูด ทุกการกระทำต้องมีความชัดเจนบนเป้าหมายที่ตั้งไว้ และประชาชนสัมผัสได้ว่า เลือกประชาธิปัตย์แล้วได้อะไร สำหรับตนอันดับแรกทุกอย่างที่คิดและทำต้องทำให้ประชาชนอยู่ดี กินดี ทำให้ประชาชนมีโอกาสที่จะมีความก้าวหน้าในชีวิต เป้าหมายที่สองคือประเทศต้องพัฒนา ทันสมัย สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ และเป้าหมายที่สาม ทุกคำพูด ทุกการกระทำของพรรคต้องชัดเจนว่ามุ่งเป้าไปที่การสร้างให้สังคมไทยมีความสงบ สถาบันหลักมีความมั่นคง เราต้องปรับมุมมองของประชาชนที่มีต่อพรรคให้เป็นพรรคที่ยึดหลักปฏิบัตินิยม คือให้ความสำคัญกับการทำ กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน มีจุดยืนที่มั่นคงแต่มีความยืดหยุ่นเพื่อให้เดินไปตามแนวทางที่กำหนดไว้ และถ้ามีความเสมอต้นเสมอปลายอธิบายได้ทุกการตัดสินใจ ก็จะทำให้ประชาชนกลับมาศรัทธาประชาธิปัตย์ได้ 

“หลังจากวันนี้ประชาธิปัตย์จะมีการตัดสินใจที่สำคัญในการกำหนดอนาคตประเทศ เราหลีกเลี่ยงประเด็นไม่ได้ เพราะต้องพิจารณาร่วม หรือไม่ร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะตัดสินใจทางไหน ตราบใดที่ยึดหลักสามประเด็นเป้าหมายที่ผมพูดว่า ประชาชนอยู่ดีกินดี ประเทศชาติพัฒนา สังคมมีความสงบ สถาบันหลักมีความมั่นคง ผมมั่นใจไม่ว่าเลือกไปทางไหนถ้าชัดว่ายึดสามหลักการนี้ ไม่ใช้ประโยชน์ส่วนตนส่วนพรรค ประชาชนจะสนับสนุนการตัดสินใจของพรรค” นายกรณ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการแสดงวิสัยทัศน์ของ 4 ผู้สมัคร ที่ประชุมได้เปิดให้มีการลงคะแนน โดยองค์ประชุมครั้งนี้มีทั้งหมด 309 คน แต่มาประชุม 291คน ไม่ได้มาร่วมประชุม 18 คน สำหรับการแบ่งสัดส่วนลงคะแนนจะมีสองส่วนคือ ส่วนแรก 70 % เป็นคะแนนของสส. 52 คน และอีก 30 % เป็นคะแนนของอดีตส.ส. อดีตกรรมการบริหารพรรค ประธานสาขา เป็นต้น ซึ่งในการลงคะแนนมีการใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ของ กกต.มาประมวลผล 

ในรอบแรกที่ลงคะแนนปรากฏว่าเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ของ กกต.มีปัญหาทำให้ต้องลงคะแนนใหม่อีกรอบ แต่ก็ยังมีปัญหาว่ามีผู้ลงคะแนนบางรายถ่ายสลิปลงคะแนนเป็นหลักฐาน ทำให้นาวาอากาศตรี สุธรรม ระหงษ์ รักษาการผู้อำนวยการพรรค ประกาศห้ามไม่ให้มีการดำเนินการดังกล่าวอีก ก่อนที่จะเปิดให้ลงคะแนนต่อ ปรากฏว่าผลการลงคะแนนเสียงจาก ส.ส. 52 คนในสัดส่วน 70 %  นายจุรินทร์ ได้รับเลือกมาเป็นอันดับหนึ่งคือ 25 คน ตามด้วยนายพีระพันธ์ 20 คน นายกรณ์ 5 คน และนายอภิรักษ์ 2 คน ส่วนคะแนนจากสัดส่วน 30 % นายจุรินทร์ ก็ยังคงได้อันดับหนึ่งด้วยคะแนน 135 นายพีระพันธ์ได้ 82 นายกรณ์ได้ 14 และนายอภิรักษ์ได้ 8 รวมคะแนนอย่างเป็นทางการนายจุรินทร์ ได้รับชัยชนะ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 8 ด้วยคะแนน 50.5995 % ตามด้วยนายพีระพันธ์ 37.2160 % นายกรณ์ 8.4881 % และนายอภิรักษ์ ได้ 3.6965%.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

กทม. 13 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 6 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568) ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้ ในวันที่ 13 กรกฎาคม […]

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]