จุรินทร์นั่งหัวหน้าปชป.คนใหม่

กรุงเทพฯ 15 พ.ค.- “จุรินทร์” คว้าชัยนั่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 8 ตอนเลือกวุ่นเล็กน้อย ต้องลงคะแนนสองรอบ หลังเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ กกต.มีปัญหา พบโหวตเตอร์บางราย ทำผิดกติกา ถ่ายรูปสลิปลงคะแนนเป็นหลักฐาน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยเริ่มต้นจากคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งของพรรคที่มีนายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ เป็นประธาน ได้เริ่มอธิบายถึงขั้นตอนการเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค จากนั้นเปิดให้มีการเสนอชื่อผู้เสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรค

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตส.ส.ประจวบคีรีขันธ์  เสนอชื่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  เป็นหัวหน้าพรรค นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก เสนอชื่อ นายกรณ์ จาติกวณิช น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีตส.ส.กทม.เสนอชื่อนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เสนอชื่อ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค จากนั้นที่ประชุมได้ให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 4 คน จับสลากหมายเลขเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ โดยผู้ที่ได้หมายเลขที่ 1 คือ นายอภิรักษ์ หมายเลข 2 นายจุรินทร์ หมายเลข 3 นายพีระพันธ์ และหมายเลข 4 นายกรณ์ ซึ่งทั้งหมดจะมีเวลา 15 นาทีในการแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุม และมีการถ่ายทอดสดผ่านเฟสบุ๊กไลฟ์ของพรรคด้วย


นายอภิรักษ์ กล่าวว่า  วันนี้หลายคนถามทำไมลงสมัครหัวหน้าพรรค อาจมีคำถามว่าตนไม่ได้สมัครส.ส.แต่อาสาเป็นหัวหน้าพรรคจะทำงานได้หรือ ตนเห็นว่าถ้ามองวิกฤตเป็นโอกาสวว่าการที่พรรคได้รับการสนับสนุนส.ส.น้อยลงจำนวนมาก เป็นเหตุผลที่ตนตัดสินใจว่าวิกฤตเป็นโอกาสที่จะรวมพลัง ตั้งใจทำงานร่วมกับทุกคนฟื้นฟูพรรค จะใช้เวลาทั้งหมดทำงานร่วมกับอดีตส.ส. สาขา ต่อยอดอุดมการณ์พรรค ปรับปรุงให้พรรคร่วมสมัยเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลก  โดยการดึงพลังของทุกคนมาร่วมกันทำงานโดยไม่แบ่งแยก มีเป้าหมายร่วมกันในการทำงานให้พรรคประชาธิปัตย์ และการเปลี่ยนแปลงยังต้องยึดมั่นอุดมการณ์ของพรรค ซึ่งต้องทำให้เข้าถึงประชาชนมากขึ้นผ่านการสื่อสารสมัยใหม่

“วันนี้เราได้รับเลือกตั้งน้อยลงกว่าคราวที่แล้วเยอะมาก จะชนะเลือกตั้งได้อย่างไร ผมลงสมัครผู้ว่ากทม.สองครั้งชนะทั้งสองครั้ง และเป็นรองหัวหน้าพรรคกทม.ได้ส.ส.กทม. 28 ที่นั่ง ทำให้ประชาธิปัตย์เป็นพรรคของคนไทยทั้งประเทศ ผลักดันให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า การเลือกตั้งครั้งนื้มีความสำคัญมากเพราะเป็นการกำหนดอนาคตประชาธิปัตย์ว่าจะเปลี่ยนจนชนะการเลือกตั้งกลับมาครองใจประชาชนอีกครั้งหนึ่งได้หรือไม่ ผมขอเสนอตัวให้เลือกอภิรักษ์พรรคเปลี่ยน” นายอภิรักษ์ กล่าว

ด้านนายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนร่วมอุดมการณ์กับพรรคมาอย่างน้อย 33 ปี ถ้านับจากวันที่เป็นส.ส.ปี 2529 เป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวงโดยมีโอกาสได้เป็นรองหัวหน้าพรรคตั้งแต่ปี 2546  ที่บอกสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพราะเก่งหรือดี แต่มีวันนี้เพราะมีโอกาส และนี่คือสิ่งที่ตนตระหนักว่าโอกาสคือสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับทุกคน สิ่งที่อยากบอกคือถ้าตนได้รับโอกาสเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะหยิบยื่นสิ่งเหล่านี้ให้ทุกคนที่ตั้งใจทำงานทุ่มเทเสียสละให้พรรคโดยไม่จำเป็นว่าต้องอยู่ฝ่ายไหน หรือเป็นเด็กของใคร นี่เป็นคำสัญญาที่ขอให้ไว้ มีหลายคนถามว่าถ้าเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะมีอะไรเปลี่ยนหรือไม่ ขอเรียนว่าประชาธิปัตย์ถึงเวลาต้องเปลี่ยน และต้องเปลี่ยนอย่างมีวุฒิภาวะ อะไรดีต้องรักษาไว้ อะไรสมควรเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน แต่สิ่งที่ต้องไม่เปลี่ยนคืออุดมการณ์ระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต้องไม่เปลี่ยน


“หมดยุคซุปเปอร์แมน ยุคต่อไปต้องเป็นยุคของอะเวนเจอร์ ซุปเปอร์ฮีโร่ของพรรคต้องจับมือเป็นทีมอะเวนเจอร์ประชาธิปัตย์ นำทัพเดินไปข้างหน้า นายกรณ์ นายอภิรักษ์ และนายพีระพันธ์ จะเป็นหนึ่งในทีมอะเวนเจอร์ของพรรค แต่แค่นี้ไม่พอเพราะวันนี้ประชาธิปัตย์เหลือแค่ 52 คน หัวหน้าพรรคต้องคิดทำอย่างไรให้เพิ่มจนมากกว่า 200 ในอนาคต ซึ่งมีคำตอบอยู่แล้วคือ ประชาธิปัตย์ต้องมีความเป็นเอกภาพ ภายใต้ความร่วมมือร่วมใจของทุกคนมั่นใจว่าประชาธิปัตย์สามารถก้าวเดินไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นได้  ผมมายืนตรงนี้เพื่อขอโอกาสกับทุกคน และยืนยันมั่นใจกับทุกคนว่าการให้โอกาสตนคือการให้โอกาสประชาธิปัตย์ ตนพร้อมจับมือร่วมแรงร่วมใจกับทุกคนที่มุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อพรรค พาพรรคก้าวสู่ความเป็นหนึ่ง และพาพรรคประชาธิปัตย์ไปเป็นที่หนึ่งในหัวใจประชาชนในอนาคต ผมหวังว่าจะได้รับโอกาสจากทุกคน” นายจุรินทร์ กล่าว

นายพีระพันธ์ กล่าวว่า แม้ทุกคนจะมีความชื่นชอบในตัวผู้สมัครหัวหน้าพรรคแต่ละคนแตกต่างกัน แต่ตนเชื่อแม้จะมีความคิดที่แตกต่างกันแต่สิ่งที่อยู่ในใจเหมือนกันคือ เรามีหัวใจดวงเดียวกัน รักพรรค ห่วงใยพรรคและรักชาติรักแผ่นดินไม่แตกต่างกัน ตนเชื่อมั่นด้วยว่าทุกคนล้วนปรารถนาทำให้พรรคกลับมาเป็นที่หนึ่งในหัวใจประชาชนอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าพวกเราไม่รวมกันเป็นหนึ่ง ไม่มีความรัก สามัคคีปรองดอง ไม่มีการรวมพลังก็จะไม่มีวันเข้มแข็งพอที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นที่หนึ่งในหัวใจของประชาชนได้ 

นายพีระพันธ์ กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตนเหมือนผู้สมัครอีกสามท่านที่ห่วงใยพรรค มองเห็นการบริหารจัดการพรรคเปลี่ยนแปลงไปในหลายเรื่อง และตกใจกับผลเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่อย่าท้อถอยหรือหมดกำลังใจ ต้องเอาสิ่งนี้มาเป็นบทเรียนก้าวไปข้างหน้า เพื่อนำพาพรรคให้เป็นพรรคหลักของประเทศให้ได้ โดยผู้บริหารต้องเปิดกว้างอย่าจำกัดอำนาจไว้กับตัวเอง เพราะตำแหน่งเป็นแค่หัวโขน ต้องเปิดกว้างให้ทุกคนมาทำงานด้วยกันเพื่อให้ประชาธิปัตย์มีความกลมเกลียวเป็นหนึ่งได้ และเปิดโอกาสให้ทุกคนเป็นเจ้าของพรรคอย่างแท้จริง เชื่อว่าแนวทางนี้จะทำให้ประชาชนสนับสนุนให้ประชาธิปัตย์กลับมาเป็นพรรคหลักของประเทศอีกครั้ง 

“ผมลงสมัครหัวหน้าพรรคเพราะคิดว่าถึงเวลาที่จะขอโอกาสนำแนวทางของตนมาบริหารพรรค เปิดโอกาสให้ทุกคนเดินร่วมกัน ซึ่งตนตั้งใจทำงานจริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจมีอำนาจในพรรค อยากกอบกู้ ฟื้นฟูพรรคให้เดินไปข้างหน้า มีคนถามว่าหากได้รับโอกาสเป็นหัวหน้าพรรคแล้วต่อไปมีการร่วมรัฐบาล ตนก็ยังเป็นหัวหน้าพรรคแต่จะไม่รับตำแหน่งบริหารในรัฐบาลเด็ดขาด เพราะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่านักการเมืองของประชาธิปัตย์ไม่เคยวิ่งเต้น วิ่งหาตำแหน่ง พรรคประชาธิปัตย์มีคนดี คนเก่งทำงานให้ชาติ ให้แผ่นดินได้ ไม่ใช่เฉพาะผู้บริหารพรรค ผมจะอยู่ดูแลพรรค อดีตส.ส.ต้องหาทางให้ทุกคนกลับมาเป็นส.ส.ให้ได้” นายพีระพันธ์ กล่าว

นายพีระพันธ์ กล่าวว่า  แม้วันนี้ยังไม่ได้เป็นส.ส.ตนเข้าใจความรู้สึก เพราะท่านยังคงเป็นส.ส.ของพรรคในหัวใจของตน ท่านยังทำหน้าที่เหมือนที่เป็นส.ส.เหมือนเดิม และจะช่วยให่ทุกคนได้ทำงานในตำแหน่งที่ท่านอยากทำ ที่สำคัญคือในส่วนที่เกี่ยวกับประชาชนพรรคต้องเปลี่ยนเป็นพรรคที่ทำให้ประชาชนรู้สึกได้ว่าเป็นพรรคของประชาชน กลับมาคิดแบบชาวบ้าน พูดแบบชาวบ้าน ทำแบบชาวบ้าน นี่คือพรรคที่ผมจะทำให้เป็น และสิ่งที่ตนจะทำคือทำให้ประชาธิปัตย์มีการบริหารจัดการที่เป็นธรรมกับสมาชิกทุกคน เปิดกว้างให้ทุกคนร่วมทำงานแบบเสมอภาค ไม่ใช่หัวหน้าใหญ่กว่าลูกพรรค เลขาธิการพรรคใหญ่กว่าทุกคน แต่ทุกคนจะใหญ่เท่าเทียม เสมอหน้าทุกคน จะทำให้ประชาธิปัตย์กลับมาอยู่ในใจของประชาชนให้ได้”นายพีรพันธ์ กล่าว

ขณะที่นายกรณ์ กล่าวว่า หนึ่งเดือนที่ผ่านมามีความเข้มข้นในชีวิตของตนมากที่สุด มีโอกาสได้พบปะพูดคุย เปิดใจกับเพื่อนสมาชิกหลายวงการสนทนา ที่สำคัญคือเป็นหนึ่งเดือนที่มีโอกาสได้รับฟังความในใจของสมาชิกและสัมผัสถึงความรักที่ทุกคนมีต่อพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงความตั้งใจในการทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชน ตนได้สัมผัสถึงความรักที่เรามีให้กัน และมีโอกาสได้นั่งคุยกับส.ส.ที่เพิ่งผ่านสนามเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคมนั่งหลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจแทนเพื่อนหลายคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งที่ผ่านมา รวมถึงความกังวลต่ออนาคตของพรรค ซึ่งตนมั่นใจว่าความแตกต่างในพรรค ต้องยอมรับหากวันหนึ่งอุดมการณ์เปลี่ยนแปลงไปจนอยู่ร่วมกันไม่ได้  เป็นปัญหาที่เป็นความตั้งใจของตนและนายชัยวุฒิคือ ต้องทำทุกอย่างอย่างสร้างสรรค์ เตรียมพื้นที่ให้ทุกคนมีที่ยืนอย่างมีศักดิ์ศรีในการทำงานร่วมกัน ในส่วนเป้าหมายของตนในการทำงานให้พรรคมีความชัดเจนว่าต้องทำให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นทางเลือกหลักให้ประชาชนและทำให้พรรคชนะการเลือกตั้ง 

นายกรณ์ กล่าวว่า ในวันนี้เรามีแชร์โหวตประมาณ 10% ต้องทำให้เพิ่มอย่างน้อย 20 % และขยายต่อไป ซึ่งจะถึงจุดนั้นได้ต้องทำงานหนักกันทุกคน มีความจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน แม้เป็นงานหนักแต่เราไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์เพราะเราทำงานมานานกว่า 70 ปี เป็นทุนสำคัญ เพราะพรรคได้กอบกู้วิกฤตการเมืองและเศรษฐกิจหลายครั้ง รวมถึงสร้างนโยบายหลายอย่างที่ประชาชนได้ประโยชน์ ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งทุกพรรคก็ยังสานต่อนโยบายที่พรรคเริ่มต้นไว้ นี่คือทุนเดิมที่เราสามารถสร้างความเข้มแข็งโดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ แต่การเลือกตั้งที่ผ่านมาเราไม่สามารถอาศัยทุนเก่าหรือบุญเก่าได้ ต้องมีความกล้าเดินหน้าด้วยความชัดเจน 

นายกรณ์ กล่าวว่า จากนี้ไปนอกจากการทำงานหนักในทุกความคิด ทุกคำพูด ทุกการกระทำต้องมีความชัดเจนบนเป้าหมายที่ตั้งไว้ และประชาชนสัมผัสได้ว่า เลือกประชาธิปัตย์แล้วได้อะไร สำหรับตนอันดับแรกทุกอย่างที่คิดและทำต้องทำให้ประชาชนอยู่ดี กินดี ทำให้ประชาชนมีโอกาสที่จะมีความก้าวหน้าในชีวิต เป้าหมายที่สองคือประเทศต้องพัฒนา ทันสมัย สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ และเป้าหมายที่สาม ทุกคำพูด ทุกการกระทำของพรรคต้องชัดเจนว่ามุ่งเป้าไปที่การสร้างให้สังคมไทยมีความสงบ สถาบันหลักมีความมั่นคง เราต้องปรับมุมมองของประชาชนที่มีต่อพรรคให้เป็นพรรคที่ยึดหลักปฏิบัตินิยม คือให้ความสำคัญกับการทำ กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน มีจุดยืนที่มั่นคงแต่มีความยืดหยุ่นเพื่อให้เดินไปตามแนวทางที่กำหนดไว้ และถ้ามีความเสมอต้นเสมอปลายอธิบายได้ทุกการตัดสินใจ ก็จะทำให้ประชาชนกลับมาศรัทธาประชาธิปัตย์ได้ 

“หลังจากวันนี้ประชาธิปัตย์จะมีการตัดสินใจที่สำคัญในการกำหนดอนาคตประเทศ เราหลีกเลี่ยงประเด็นไม่ได้ เพราะต้องพิจารณาร่วม หรือไม่ร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะตัดสินใจทางไหน ตราบใดที่ยึดหลักสามประเด็นเป้าหมายที่ผมพูดว่า ประชาชนอยู่ดีกินดี ประเทศชาติพัฒนา สังคมมีความสงบ สถาบันหลักมีความมั่นคง ผมมั่นใจไม่ว่าเลือกไปทางไหนถ้าชัดว่ายึดสามหลักการนี้ ไม่ใช้ประโยชน์ส่วนตนส่วนพรรค ประชาชนจะสนับสนุนการตัดสินใจของพรรค” นายกรณ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการแสดงวิสัยทัศน์ของ 4 ผู้สมัคร ที่ประชุมได้เปิดให้มีการลงคะแนน โดยองค์ประชุมครั้งนี้มีทั้งหมด 309 คน แต่มาประชุม 291คน ไม่ได้มาร่วมประชุม 18 คน สำหรับการแบ่งสัดส่วนลงคะแนนจะมีสองส่วนคือ ส่วนแรก 70 % เป็นคะแนนของสส. 52 คน และอีก 30 % เป็นคะแนนของอดีตส.ส. อดีตกรรมการบริหารพรรค ประธานสาขา เป็นต้น ซึ่งในการลงคะแนนมีการใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ของ กกต.มาประมวลผล 

ในรอบแรกที่ลงคะแนนปรากฏว่าเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ของ กกต.มีปัญหาทำให้ต้องลงคะแนนใหม่อีกรอบ แต่ก็ยังมีปัญหาว่ามีผู้ลงคะแนนบางรายถ่ายสลิปลงคะแนนเป็นหลักฐาน ทำให้นาวาอากาศตรี สุธรรม ระหงษ์ รักษาการผู้อำนวยการพรรค ประกาศห้ามไม่ให้มีการดำเนินการดังกล่าวอีก ก่อนที่จะเปิดให้ลงคะแนนต่อ ปรากฏว่าผลการลงคะแนนเสียงจาก ส.ส. 52 คนในสัดส่วน 70 %  นายจุรินทร์ ได้รับเลือกมาเป็นอันดับหนึ่งคือ 25 คน ตามด้วยนายพีระพันธ์ 20 คน นายกรณ์ 5 คน และนายอภิรักษ์ 2 คน ส่วนคะแนนจากสัดส่วน 30 % นายจุรินทร์ ก็ยังคงได้อันดับหนึ่งด้วยคะแนน 135 นายพีระพันธ์ได้ 82 นายกรณ์ได้ 14 และนายอภิรักษ์ได้ 8 รวมคะแนนอย่างเป็นทางการนายจุรินทร์ ได้รับชัยชนะ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 8 ด้วยคะแนน 50.5995 % ตามด้วยนายพีระพันธ์ 37.2160 % นายกรณ์ 8.4881 % และนายอภิรักษ์ ได้ 3.6965%.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

ระทึกไล่ยิงเหมือนในหนัง รัว 17 นัด กลางถนน

ชลบุรี 21 พ.ค. – จยย.ไล่รัวกระสุนสกัดเก๋งอย่างกับหนังบู๊ ทำชาวบ้านแตกตื่น แท้จริง เป็นตำรวจเมืองชลบุรี ล่อซื้อยาบ้า พ่อค้าไหวตัว ก่อนจนมุม ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีกลุ่มชายฉกรรจ์บุกไปที่รถยนต์สีขาว พยายามเคาะกระจกรถให้คนขับลงมา แต่เมื่อไม่เป็นผล จึงชักปืนขึ้นมารัวยิงหลายครั้ง กระทั่งรถยนต์ถอยรถขับออกจากที่เกิดเหตุ โดยมีรถจักรยานยนต์ไล่ตามไปติดๆ พร้อมกับยิงปืนใส่ รวมทั้งหมด 17 นัด เมื่อช่วง 03.30 น. ที่ผ่านมา ภายในซอยเส้นทางหนองซ้ำซาก-สำนักบก ตำบลหนองซ้ำซาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ตำรวจลงพื้นที่เกิดเหตุ พบกันชนหน้ารถยนต์คันสีขาวตกอยู่พร้อมป้ายทะเบียน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และปลอกกระสุนไม่ทราบขนาด 17 ปลอก พร้อมหัวกระสุนอีก 1 หัว สอบถาม นายปรานอม ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนแรกตนเห็นรถยนต์สีดำ ขับมาปาดหน้ารถยนต์สีขาว จากนั้นก็มีรถจักรยานยนต์ใส่ชุดคล้ายไรเดอร์ ขี่ตามหลังรถคันสีขาว ครั้งแรกเห็นยิงใส่รถยนต์สีขาว 5 นัด แต่เป็นการยิงผ่านกระบอกเก็บเสียง จากนั้นรถคันที่ถูกยิงพยายามหลบหนี แต่รถคันสีดำขับมาบล็อกข้างหน้าไม่ให้หนี แล้วก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด […]

ปิดเกาะล่า ฆ่าเปลือย-รัดคอพยาบาลหมกศพในหอพัก

สุราษฏร์ธานี 21 พ.ค. – พบศพพยาบาลสาว ถูกคนร้ายฆ่ารัดคอทิ้งศพเปลือยบนเตียงนอน แถมขโมยรถยนต์ผู้ตายไปด้วย ตำรวจปิดเกาะสมุยไล่ล่า ที่เกิดเหตุเป็นหอพักสองชั้น ของโรงบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุยจ.สุราษฎร์ธานี โดยในห้องพักชั้นสอง พบศพ นางสาวอัญชุลี อายุ 36 ปี ชาวกรุงเทพ เสียชีวิตสภาพนอนหงายบนที่นอน ไม่สวมเสื้อผ้า ใส่แต่กางเกงในสีดำ ที่ลำคอมีเสื้อยืดสีขาวรัดไว้แน่น สิ่งของบนพื้นข้างเตียงกระจัดกระจาย ยังพบกล่องถุงยางอนามัยหนึ่งกล่อง ไม่พบร่องรอยบาดแผล มีเพียงรอยเขียวคล้ำที่ลำคอ จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายทำงานเป็นซูเปอร์ไวเซอร์พยาบาลวิชาชีพ โรงบาลเอกชนแห่งหนึ่งในตำบลบ่อผุด คืนเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนเห็นผู้ตายที่เพิ่งเลิกงานกลับมาที่ห้องพัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับที่ทำงาน จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าและขับรถยนต์นิสสันสีเทา ทะเบียน กทม. ออกไป และขับกลับเข้ามาเวลาประมาณตี 2 เศษ จากนั้นได้ยินเสียงคนทะเลาะกันแล้วเงียบหายไป จนตอนเช้า เพื่อนไปหา พบว่าห้องถูกปิดและติดต่อผู้ตายไม่ได้ กระทั่งมารู้ว่าเสียชีวิตภายหลัง เบื้องต้นบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด และพบว่ารถยนต์ของผู้ตายหายไป คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี ตำรวจระดมกำลังมกำลังปิดเส้นทางการหลบหนี บริเวณท่าเรือทั้งสองท่า พร้อมนำพยานกลุ่มเพื่อน ผู้ตายไปสอบปากคำ โดยให้การว่า […]

ผู้เชี่ยวชาญคาดบ่ายพรุ่งนี้ นำร่างคนงานขึ้นจากหลุมสำเร็จ

กทม. 21 พ.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. เผยผู้เชี่ยวชาญ คาดพรุ่งนี้ช่วงบ่าย นำร่างคนงานผู้สูญหายขึ้นจากหลุมลึก 19 เมตรได้ ย้ำการทำงานทุกขั้นตอนคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก ภารกิจค้นหาคนงานผู้สูญหายที่ตกหลุมลึก 19 เมตรในโครงการขุดเจาะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณถนนหลานหลวง ใกล้ปากซอยหลานหลวง 8 หลังเหตุการณ์ผ่านพ้นมา 48 ชั่วโมงแล้ว วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครนขุดเจาะเพื่อขุดหลุมค้นหาร่างผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาร่วมประชุมกับทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและทีมกู้ภัย ระบุว่า อุปสรรคในการปฏิบัติงานในขณะนี้คือความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากอุปกรณ์ชีทไพล์หรือแผ่นเหล็กกั้นดินสไลด์ ที่ติดตั้งลึกถึงสามชั้น ประมาณรวม 16 เมตร ซึ่งด้านล่างมีแรงดันของดินและน้ำมหาศาล ทำให้ระหว่างการขุดดินจะต้องทำโครงสร้างค้ำยัน ชีทไพล์เป็นระยะๆ ในแต่ละชั้น ซึ่งตอนนี้สามารถทำโครงสร้างค้ำยันในชั้นที่สามแล้วถือเป็นชั้นลึกสุด นายชัชชาติ เผยว่าเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ คาดการณ์ว่าหากไม่มีอุปสรรคอย่างอื่นเพิ่มเติม ภายในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) ช่วงบ่ายจะสามารถนำร่างผู้สูญหายขึ้นมาได้ ประเมินว่าร่างของผู้สูญหายน่าจะอยู่ในระดับความลึกจากพื้นผิวถนนประมาณ 12 เมตร ไม่ใช่ 16 เมตร อย่างที่เคยคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ส่วนประเด็นญาติของผู้สูญหายซึ่งเป็นพี่ชายและน้องชาย ทำงานด้วยกันขณะเกิดเหตุด้วย […]

นายกฯ นำทีมไทยแลนด์ถึงลอนดอนแล้ว จ่อพบเจ้าของค่ายมวยไทย

สหราชอาณาจักร 21 พ.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ นำทีมไทยแลนด์เดินทางถึงลอนดอนแล้ว เตรียมพบเจ้าของค่ายมวยไทยยักษ์ใหญ่ในอังกฤษ พร้อมร่วมกันผลักดันศิลปะมวยไทยให้เป็นสินค้า “เมดอินไทยแลนด์” พร้อมพบผู้บริหารซูเปอร์สโตร์ หารือเปิดตลาดขยายโอกาสสินค้าและซอฟต์พาวเวอร์ไทย ให้กระจายทั่วยุโรป เวลา 10.00 น. กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (ซึ่งตรงกับเวลา 16.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ที่ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้เดินทางถึง ท่าอากาศยาน Heathrow กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เพื่อร่วมประชุมหารือทีมไทยแลนด์ ส่งเสริม สินค้าและบริการไทย ผลักดัน Soft Power กีฬาไทย ขยายตลาดเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการของไทย ในสหราชอาณาจักรและยุโรป ช่วงบ่ายวันนี้ เวลา 14.45 น. ตรงกับเวลา 20.45 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) นายกรัฐมนตรี และคณะ จะเข้าพบกับเจ้าของและผู้บริหาร ร่วมทั้งครูผู้ฝึกสอนค่ายมวยไทย […]