รพ.ดังชี้แจงปมผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ยืนยันเลือดมีมาตรการคัดกรองระดับสากล

กทม. 10 พ.ค.-โรงพยาบาลดังออกหนังสือแสดงความเสียใจ พร้อมชี้แจงปมผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ยืนยันเลือดมีมาตรการคัดกรองระดับสากล โอกาสติดเชื้อน้อยมาก และพร้อมรักษาผู้ป่วยรายนี้อย่างดีที่สุด ตามหลักคุณธรรมและมนุษยธรรม


โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ออกเอกสารชี้แจงหนุ่มวัย 24 ปี ที่ปรากฏเป็นข่าวได้รับเชื้อเอชไอวี เข้ารักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่โรงพยาบาลเมื่อปี 2547 หรือ 15 ปีก่อน แต่โรงพยาบาลเปิดเผยข้อมูลประวัติการรักษาไม่ได้ แต่เพื่อแสดงจุดยืนการรักษาและเยียวยาผู้ป่วยที่ปฏิบัติมาตลอด ขอชี้แจงว่า 1.ข้อปฏิบัติในการให้เลือด โรงพยาบาลมีข้อปฏิบัติในการรับเลือดจากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพราะเป็นสถาบันที่คัดเลือก คัดกรอง และตรวจเลือดผู้บริจาคตามมาตรฐานระดับประเทศและสากล รวมถึงตรวจคัดกรองเชื้อเอชไอวีด้วยเทคโนโลยีทันสมัยใช้มาถึงปัจจุบัน แต่การตรวจคัดกรองมีข้อจํากัดกรณีผู้บริจาคเพิ่งได้รับเชื้อ อาจทําให้ผู้ป่วยได้รับเชื้อ ซึ่งโอกาสเกิดขึ้นมีน้อยมาก

2.เรื่องการดูแลรักษาตามหลักมนุษยธรรม โรงพยาบาลเสียใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ได้ดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักมนุษยธรรมมากว่า 10 ปี ทั้งค่ารักษาเอชไอวี และอาการข้างเคียง รวม 266 ครั้ง เป็นเงินกว่า 7 หลัก และยืนยันจะดูแลรักษา รวมถึงพิจารณาให้ความช่วยเหลือเพิ่มในด้านอื่นที่เกี่ยวข้องกับการรักษาอย่างดีที่สุดต่อไป


ด้านแพทย์หญิงจารุพร พรหมวงศ์ รองผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวถึงการพบการติดเชื้อเอชไอวีจากการรับบริจาคโลหิตว่า ขั้นตอนการรับบริการโลหิตมีการตรวจคัดกรองจากแบบสอบถาม และตรวจด้วยเครื่องและน้ำยาทางการแพทย์ ที่ครอบคลุมทั้งเชื้อเอชไอวี ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี และซิฟิลิส แต่คาดว่าที่เชื้อหลุดรอดจากเลือดผู้บริจาคไปถึงผู้รับโลหิต มาจากระยะฟักตัวของโรค ที่แม้แต่เทคโนโลยีก็ตรวจไม่ได้ หรือที่เรียกว่า window period ซึ่งเป็นไปได้ว่าผู้บริจาคเพิ่งผ่านความเสี่ยงของการรับเชื้อไม่นาน และมาบริจาคเลือดทันที ทั้งนี้ ยอมรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีจากการรับบริจาคโลหิตรายนี้นับเป็นรายที่ 2 นับตั้งแต่รายแรกที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2523 โดยโอกาสเกิดได้ 1 ต่อ 1.6 ล้านคนเท่านั้น

สำหรับขั้นตอนการตรวจคัดกรองโลหิต ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ให้ข้อมูลว่า จะนำมาตรวจคัดกรอง ตรวจหาเชื้อ ซึ่งทุกขั้นตอนจะทำให้แล้วเสร็จใน 24 ชั่วโมง ก่อนส่งต่อโลหิตให้ผู้ป่วย ส่วนโลหิตที่รับบริจาคและพบว่าเป็นเลือดที่มีความเสี่ยงจะถูกนำไปตรวจซ้ำ หากให้ผลยืนยันติดเชื้อโรคจะถูกนำไปทำลายทันที ซึ่งปริมาณเลือดที่ไม่สามารถส่งต่อให้ผู้ป่วยได้คิดเป็นร้อยละ 1 เท่านั้น แนะผู้บริจาคโลหิตให้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง เพื่อการตรวจคัดกรองตั้งแต่ต้นทาง หากรู้ตัวว่าเสี่ยงหรือเพิ่งผ่านพ้นการมีเพศสัมพันธ์ที่สุ่มเสี่ยง ไม่ควรบริจาคโลหิต แต่ควรเว้นช่วงอย่างน้อย 3 เดือน โดยมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนเดียวแล้วค่อยกลับมาบริจาค.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว