พม.เปิดลงทะเบียนเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ปี62 สิ้นเดือนนี้

สะพานขาว 8 พ.ค.-พม.เปิดลงทะเบียนโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ปี62 เริ่ม 31พ.ค.–31ก.ค.62 พร้อมขยายวงเงินจาก400 บาทเป็น 600 บาทต่อเดือน และขยายอายุเพิ่ม จากเดิมแรกเกิด 0-3ปี  เป็นแรกเกิด-6 ปี 


นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมด้วย พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข นายปิติภณ โพธิ์ใต้ ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย  และนายโทมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ยูนิเชฟ ร่วมแถลงข่าว “โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด” ภายหลังมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2562 มีมติให้สนับสนุนเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดตั้งแต่ 0 – 6 ปี จากฐานรายได้เดิม 36,000 บาทขยายเป็นไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน ต่อปี โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562 ซึ่งเปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม  – 31 กรกฏาคม 2562  


นายปรเมธี  กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงความสำคัญของการมีพัฒนาการที่สมวัยของเด็กแรกเกิด จึงได้สร้างระบบคุ้มครองทางสังคม ด้วยการจัดสวัสดิการเงินอุดหนุนให้กับเด็กแรกเกิดในครัวเรือนยากจนหรือเสี่ยงต่อความยากจน เพื่อเป็นมาตรการให้บิดามารดา นำเด็กเข้าสู่ระบบบริการของรัฐและได้รับการดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามยุทธศาสตร์การพัฒนาและส่งเสริมสร้างศักยภาพคนของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี  ยุทธศาสตร์การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่12 (พ.ศ. 2560 – 2564)  และแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติฉบับที่1(พ.ศ. 2555 – 2559) และฉบับที่2 (พ.ศ.2560–2564) ที่ได้กำหนดไว้รวมทั้งเป็นหลักประกันให้เด็กได้รับสิทธิด้านการอยู่รอดและการพัฒนาตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม มุ่งให้ประเทศมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และสอดรับกับทิศทางกระแสโลกเรื่องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs)ที่มีนัยสำคัญถึง“การไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”(Leave No One Behind) เน้นว่ารัฐต้องประกันสิทธิแก่เด็กแต่ละคนโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ และยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กทุกคนให้เสมอภาค

 


ทั้งนี้ พม.โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ได้กำหนดแผนการดำเนินโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ดังนี้ ระยะที่ 1 ให้กับเด็กที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 –30 กันยายน 2559 รายละ 400 บาท เป็นระยะเวลา 1 ปี ระยะที่ 2 พ.ศ. 2560 –2561 เพิ่มวงเงินจาก 400 บาท เป็น 600บาทต่อคน และขยายระยะเวลาเพิ่มจาก 1 ปี เป็น 3 ปี ระยะที่ 3 พ.ศ. 2562 สนับสนุนเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดตั้งแต่ 0– 6 ปีและจากฐานรายได้เดิม 36,000 บาท ขยายเป็นไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคนต่อปี โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2562 นั้น มีเด็กได้รับสิทธิแบ่งออกเป็น 3 กรณี ได้แก่ 1. เด็กที่เกิดตั้งแต่วันที่1 ตุลาคม 2558 – 30 กันยายน 2561 และเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิรายเดิมจะได้รับเงินต่อเนื่องจนอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์ 2. เด็กที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558– 30 กันยายน 2561 ที่มีคุณสมบัติครบ แต่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน ให้ไปลงทะเบียนที่ท้องถิ่น 3.เด็กที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 –30 กันยายน 2562 กรณีมาลงทะเบียนในปีงบประมาณ 2562 จะได้รับสิทธินับจากวันที่เด็กเกิดจนถึงอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์ แต่หากลงทะเบียนหลังจากวันที่ 30 กันยายน 2562  ไปแล้ว จะได้รับเงินนับจากวันที่ลงทะเบียนเป็นต้นไป จนถึงอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์

โดย พม. ได้ดำเนินการปรับปรุงระเบียบกรมกิจการเด็กและเยาวชนว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)พ.ศ.2562 ให้สอดรับกับมติคณะรัฐมนตรี พร้อมทั้งพัฒนาระบบฐานข้อมูลโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดให้รองรับกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 ซึ่งปัจจุบันมีผู้มีสิทธิจำนวน 600,000 คน และคาดว่าเมื่อสิ้นปีงบประมาณ  2562จะมีเด็กได้รับสิทธิประมาณ 1,500,000 คน รวมทั้ง พัฒนาให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำเข้าข้อมูลแบบสมบูรณ์เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะสามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ยื่นคำร้องของรับเงินอุดหนุน การตรวจสอบสถานะของผู้มีสิทธิของกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่  ในฐานะเจ้าของข้อมูล เพื่อติดตามความก้าวหน้าของกลุ่มเป้าหมาย และพัฒนาให้ผู้ยื่นคำร้องขอรับสิทธิสามารถตรวจสอบสิทธิได้ด้วยตนเอง 

ทั้งนี้ พม.จะเปิดให้ผู้มีสิทธิได้ยื่นคำร้องขอรับสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.- 31ก.ค.62 โดยผู้มีสิทธิที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร สามารถลงทะเบียนยื่นคำร้องได้ที่สำนักงานเขต กรุงเทพมหานคร และผู้อาศัยในส่วนภูมิภาค ให้ยื่นคำร้องที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เด็กอาศัยอยู่ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โทร 0 2255 5850-7 ต่อ 121,122,123 ,147และ 0 2651 6534 โทรสาร 0 2253 9119 หรือติดตามที่ Facebook โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

เคลื่อนร่าง 2 นายตำรวจ ฮ.ตก ถึงวัดนวลจันทร์แล้ว

25 พ.ค.- เคลื่อนร่าง 2 นายตำรวจ เหตุ ฮ.ตก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถึงวัดนวลจันทร์แล้ว เตรียมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 17.00 น.วันนี้ จากกรณีวันที่ 24 พ.ค. เฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 หมายเลขประจำเครื่อง 2215 ประจำหน่วยบินตำรวจกาญจนบุรี ประสบอุบัติเหตุตกในบริเวณพื้นที่บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเหตุให้ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แก่ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ (ตำแหน่งนักบิน สบ 2) อายุ 33 ปี ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย (ตำแหน่งนักบิน สบ 1) อายุ 34 ปี และ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย (ตำแหน่งช่างอากาศยาน สบ 1) อายุ 55 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทั้งหมด […]

งดเล่นน้ำตกแม่สา หลังฝนตกหนักน้ำขุ่นเชี่ยว

เชียงใหม่ 25 พ.ค.- อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย งดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกแม่สา หลังฝนตกหนักตลอดคืน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก สำนักทรัพยากรน้ำที่ 1 ออกประกาศเตือนภัยเตรียมพร้อม (ระดับสีเหลือง) ที่บ้านหนองหอย ต.โป่งแยง อำเภอแม่ริม ปริมาณฝนสะสม 12 ชั่วโมง 103. มิลลิเมตร ทำให้ทางนายธงชัย นาราษฎร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพปุย ได้มีคำสั่ง งดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกแม่สา หลังเกิดฝนตกหนักสะสม ทำให้น้ำตกแม่สา มีสีขุ่นแดง กระแสน้ำเชี่ยว ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติได้ตามปกติ แต่ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ เช่นเดียวกับที่อุทยานแห่งชาติออบขาน ประกาศปิดการท่องเที่ยว และพักแรมชั่วคราว สถานการณ์แม่น้ำขาน วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติออบขาน ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางอุทยานจะรีบอัปเดตสถานการณ์ให้ทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนลุ่มน้ำขานเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะตั้งแต่บ้านห้วยโท้ง ตำบลน้ำบ่อหลวง อำเภอสันป่าตองลงไป เฝ้าระวัง เนื่องจากระดับน้ำที่ผ่านหน้าอุทยานฯ ลงไป มีมวลน้ำจากอำเภอสะเมิง ไหลลงมาเติมต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

จนท.ลงพื้นที่เก็บชิ้นส่วน ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 25 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จุดเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก บริเวณ ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เก็บชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายตามบ้านเรือนและไร่สวนของชาวบ้าน พร้อมกั้นโดยรอบ ป้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้อง บรรยากาศจุดเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก พื้นที่หมู่ 1 บ้านหนองกก ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตั้งแต่เกิดเหตุ พร้อมนำโปลิศไลน์มากั้นโดยรอบพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาอย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สารวัตรเวร เจ้าของคดี ลงพื้นที่เก็บรายละเอียดในที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมนำทีมชุดพนักงานสอบสวน นำโดรนบินถ่ายภาพมุมสูง เพื่อตรวจสอบว่าชิ้นส่วนของเครื่องบินที่แตกกระจัดกระจายอยู่บริเวณจุดไหนบ้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ทยอยเก็บชิ้นส่วนที่ตกกระจัดกระจายตามบ้านเรือนและไร่สวนของชาวบ้าน มารวบรวมไว้บริเวณเต็นท์อำนวยการจุดที่ตัวเครื่องบินตก และรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ ส่วนเศษชิ้นส่วนเครื่องบินบางส่วนที่รวบรวมได้ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายแต่อย่างใด ต้องรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา หรือต้องรอเจ้าหน้าที่บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินมาตรวจอย่างละเอียดก่อน ในส่วนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่หลังคาเสียหายเป็นรู ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บชิ้นส่วนออกไปแล้ว ส่วนชิ้นส่วนหางขนาดใหญ่ที่ตกเฉียดบ้านของชาวบ้านที่อยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร นางใย ชาวบ้านที่ถูกชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่หลังคาเป็นรู เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะเกิดเหตุเครื่องบินตกตนเองพร้อมด้วยหลานอีก 2 คน ไปนั่งอยู่หลังบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์บินผ่านหลังคาบ้านมา และได้ยินเสียงปะทุ ดังติดต่อกัน 3 ครั้ง ซึ่งเห็นหางเครื่องบินตกลงมาก่อน ก่อนตัวเครื่องบินจะตกลง นอกจากนี้ได้ยินวัตถุชนิดหนึ่งตกลงบนหลังคาบ้าน จึงเข้ามาดูในบ้านพบว่าหลังคาเป็นรู และมีวัสดุตกลงมาอยู่ที่พื้น […]

นึกว่าสงคราม! โจ๋ยกพวกไล่ถล่มปาระเบิด

สมุทรปราการ 25 พ.ค.- แพรกษาเดือด! วัยรุ่นหลายสิบคนยกพวกปาระเบิดกลางถนน กว่า 10 ลูก ถล่มกันจนชาวบ้านผวาต้องหาที่กำบังหนีตาย กล้องวงจรปิดริมถนน ซอยมังกรขันดี ใกล้ตลาดแสงทอง ตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จับภาพกลุ่มวัยรุ่น พากันขี่รถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง ท่อเสียงดัง ขับวนไปมาภายในซอยดังกล่าว ก่อนเปิดฉากปาระเบิดปิงปองไม่ต่ำกว่า 15 ลูก ใส่กันกลางถนน จนเกิดเสียงดังสนั่น ชาวบ้านหลายคนต้องวิ่งหาที่หลบภัย ขณะที่รถบางคัน ไม่กล้าขับผ่านต้องรีบวนรถกลับ หวั่นโดนลูกหลง กลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคน นอกจากจะมีระเบิดปิงปองที่เตรียมมาปาถล่มใส่กันแล้ว ยังมีอาวุธมีดตะขอ ติดมือมาไล่ห้ำหั่นกันอย่างกับสงครามกลางเมือง หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเศษชิ้นส่วนระเบิดปิงปองแตกกระจายเกลื่อนถนน ส่วนวัยรุ่นที่ยกพวกตีกัน แยกย้ายกันไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง ตำรวจกระจายกำลังหาข้อมูล จนทราบว่า มีวัยรุ่นกว่า 20 คน ยกพวกไล่ทำร้ายกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง 2 ราย เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะกำลังซื้อข้าวอยู่ตรงตลาดบ่อทอง ได้ยินเสียงระเบิด 3 […]