เอ็กซิมแบงก์ระบุส่งออกไทยปีนี้มีโอกาสโตร้อยละ 3.5

กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – เอ็กซิมแบงก์ระบุส่งออกไทยปีนี้มีโอกาสโตร้อยละ 3.5 หากการเจรจาการค้าจีนและสหรัฐคืบหน้าเร็ว อีกปัจจัย คือ การตั้งรัฐบาลใหม่เสร็จออกนโยบายบริหารประเทศช่วยเกิดการลงทุนไตรมาส 4 ปีนี้ 


นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือเอ็กซิมแบงก์ คาดการส่งออกปี 2562  ว่า การส่งออกในภาพรวมปีนี้ยังคงเติบโต แต่โตในอัตราที่ชะลอตัวลงจากปีที่ผ่านมา โดยปีที่ผ่านมาส่งออกขยายตัวร้อยละ 6.7 มูลค่ารวมกว่า 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนปีนี้ การส่งออกของไทยอาจขยายตัวได้เพียงร้อยละ 3-4 โดยมีโอกาสโตร้อยละ 3.5 หากการเจรจาทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐคืบหน้าเร็ว อีกปัจจัย คือ การตั้งรัฐบาลใหม่เสร็จออกนโยบายบริหารประเทศช่วยเกิดการลงทุนไตรมาส 4 ปีนี้  

สำหรับภาพรวมการส่งออก แม้ไตรมาสแรกปีนี้ลดลงไปบ้าง แต่ยังเชื่อว่าหลังจากนี้การส่งออกมีแนวโน้มจะกลับมาดีขึ้นได้ ปัจจัยที่เข้ามากระทบ ได้แก่ เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง โดยปีนี้เศรษฐกิจโลกโตต่ำในรอบ 3 ปี อัตราการขยายตัวลดลงมาอยู่ในช่วงประมาณร้อยละ 2.7-3.3  อย่างไรก็ตาม โอกาสการขยายตลาดการค้ากลุ่มตลาดใหม่ของไทย เช่น กลุ่มประเทศ CLMV หรือประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม อินเดียและแอฟริกา ยังมีโอกาสมาก เพราะมูลค่าการส่งออกยังไม่มาก หากผู้ประกอบการไทยกล้าออกไปตลาดเหล่านี้มากขึ้น  


นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า แม้การส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีแรกจะหดตัว แต่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นจะพบว่า การส่งออกไทยหดตัวลงน้อยกว่าประเทศเกาหลีใต้ ไต้หวัน และมาเลเซีย โดยขณะนี้ประเทศไทยพึ่งการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 60 และน้อยกว่าประเทศดังกล่าว ปัจจุบันภาพรวมการส่งออกของไทยเริ่มกระจายไปตลาดใหม่มากขึ้น เช่น เริ่มมีการส่งออกไปประเทศอินเดีย แอฟริกา ที่จะเป็นตลาดที่มีศักยภาพต่อไป โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มผลไม้สดแช่แข็ง อาหารแช่งแข็ง อาหารทะเลกระป๋อง ส่งผลให้โอกาสการค้าของไทยยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยปีที่ผ่านมาตลาดส่งออกไปกลุ่มประเทศ CLMV  โตตัวเลข 2 และต่อเนื่องในปีนี้ เพราะกลุ่มประเทศ CLMV มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงระดับต้น มีประชากรวัยทำงานต้องการซื้อสินค้ามาก มีทรัพยากรอุดมสมบรูณ์ และได้รับผลกระทบจากความผันผวนทางเศรษฐกิจไม่มากเมื่อเทียบประเทศอื่น ๆ ขณะที่ผู้ส่งออกไทยมีความได้เปรียบประเทศคู่แข่งทั้งภาษาวัฒนธรรม ทำเลที่ตั้ง และสำคัญคือ สินค้าไทยเป็นที่นิยม โดยกลุ่มประเทศ CLMV มองว่าเป็นสินค้าพรีเมี่ยม นอกจากนี้ สินค้าทุน เช่น  เครื่องจักรกลการเกษตรผลิตขายจำนวนมาก ไทยยังมีความชำนาญและมีต้นทุนถูก ยังเป็นสินค้ามีโอกาสขยายส่งออกไปประเทศเหล่านี้ได้ และประเทศเหล่านี้มีการพัฒนาประเทศส่งผลให้มีความต้องการสินค้าต่าง ๆ มากขึ้น จนมีผู้ประกอบการไทยออกไปลงทุนอุตสาหกรรมผลิตซีเมนต์ก่อสร้าง รวมถึงยังมีความต้องการสินค้ากลุ่มเคมีภัณฑ์ และสินค้าอุปโภคบริโภค 

นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า จากการศึกษาผู้ประกอบการกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) พบว่าต้องการขยายการทำธุรกิจไปยังตลาดกลุ่มประเทศ CLMV เอ็กซิมแบงก์จึงออกสินเชื่อเอ็กซิมเชื่อม SMEs ไทยสู่ CLMV หรือบริการ EXIM CLMV SMEs Credit เป็นสินเชื่อหมุนเวียนก่อนและหลังการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV วงเงินสูงสุด 2 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย Prime Rate –ร้อยละ 1.75 ต่อปี หรือร้อยละ 4.50 ต่อปี  และลดอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.5 ต่อปี สำหรับลูกค้าประกันการส่งออกของเอ็มซิมแบงก์ อีกบริการ คือ ประกันการส่งออก SMEs Easy บริการคุ้มครองความเสี่ยง 140 ประเทศทั่วโลก  


สำหรับผลการดำเนินงานของธนาคารในช่วง 3 เดือนแรกปี 2562 มีเงินให้สินเชื่อคงค้าง 106,342 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,653 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.57 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 334 ล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นมีนาคม 2562 ร้อยละ 4.26 มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ 4,534 ล้านบาท และเงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญ 9,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้น. 1,285 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร