กทม. 1 พ.ค.- ผู้เสียหายรวมตัวแจ้งกองปราบ เอาผิดอดีตพรีเซ็นเตอร์ รพ.เสริมความงาม ฉ้อโกงเงินจากลงทุนเล่นเกมออนไลน์”ข้าวโพด”
ผู้เสียหายกว่า 30 คนเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับอดีตพรีเซนเตอร์โรงพยาบาลเสริมความงามรายหนึ่ง ที่ชักชวนผู้เสียหาย รวมกลุ่มกันกว่า 300 คน เล่นเกมออนไลน์ ที่ใช้ชื่อว่า”ข้าวโพด”เป็นเกมที่มีเงินปันผลจากการลงทุนซื้อของในเกม และสามารถทำยอดในเกมได้ตามเป้า ก่อนจะเปลี่ยนไปชักชวนให้ถือหุ้นลงทุนในเกมนี้้แทน แล้วเชิดเงินของกลุ่มผู้เสียหายที่คาดว่า มีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทแล้วหนีไป
นางสาวนินทร์รตา มุสิกทองสิริโชติ หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า เริ่มเล่นเกมนี้เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว หลังรู้จักกับผู้เสียหายที่งานสัมนางานหนึ่ง เกี่ยวกับการเสริมความงาม ก่อนจะพยายามเข้ามาตีสนิทประมาณ 2 ปี และชักชวนเล่นเกมออนไลน์ โดยบอกว่าเป็นเกมที่ได้รับเงินปันผลจริง ครั้งแรกที่เล่นก็ได้รับเงินปันผลตามที่ผู้ก่อเหตุอ้างกระทั่งไม่กี่เดือนก่อน ผู้ก่อเหตุเสนอให้ร่วมลงทุนเพื่อแลกกับผลตอบแทนที่สูงขึ้น เช่น ลงทุน 10,000 บาท ได้เงินปันผลวันละ 100 บาท ทั้งยังมีแพ็กเกจจูงใจ ทำให้หลายคนตัดสินใจร่วมทุน ซึ่งมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสนบาท ระยะแรกยังคงได้เงินตอบแทน แต่จากนั้นไม่นาน ผู้ก่อเหตุอ้างว่ามีการเปลี่ยนผู้ลงทุนเป็นชาวสิงคโปร์และในเดือนมีนาคม ก็ประกาศยกเลิกเกมดังกล่าวและยุติการให้เงินปันผล เมื่อทวงถามเงินที่ลงทุน ก็บ่ายเบี่ยงว่าจะนำเงินมาคืนให้หลังการเลือกตั้ง แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้เงินคืน กระทั่งขาดการติดต่อไป จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุมีความพยายามสร้างข้อมูลปลอม เช่น การเช็คอินสถานที่ว่าอยู่ต่างประเทศ โดยมีภาพถ่ายยืนยัน แต่เมื่อตรวจสอบกลับพบว่าเป็นร้านอาหารที่อยู่ในประเทศไทย อีกทั้งยังเคยรับสารภาพกับหนึ่งในกลุ่มผู้เสียหายว่าเรื่องทั้งหมดนั้นแต่งขึ้น และเงินที่ได้มาก็ถูกนำไปใช้จ่ายจนหมดแล้ว
ด้านนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ระบุว่า คดีนี้มีผู้เสียหายทั่วประเทศมากกว่า 300 คน นอกจากผู้ที่มาแจ้งความทราบว่าคนอื่นๆได้ทยอยไปแจ้งความตามโรงพักต่างๆ ส่วนพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ มีทั้งหลักฐานการโอนเงิน ข้อความสนทนาผ่านโซเชียลมีเดีย รวมถึงการโฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุน เล่นเกม ซึ่่งปัจจุบันผู้ก่อเหตุได้ลบข้อมูลเหล่านี้ออกจากเฟซบุ๊คไปหมดแล้ว ส่วนข้อหาที่แจ้งดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ มี 4 ข้อหาคือ ฉ้อโกงประชาชน, ความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินประชาชน ,ความผิดฐานฟอกเงิน และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์.-สำนักข่าวไทย
