กรุงเทพฯ 30 เม.ย. – ทอท.ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับผลประโยชน์ซื้อขายบัตร Fast Track “วีเอฟเอส” เป็นผู้ดำเนินการกับกลุ่มสายการบิน
น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ทอท.ในฐานะเป็นผู้ดำเนินกิจการสนามบินสาธารณะได้มีการจัดช่องทางและสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารผู้ใช้บริการที่เป็นบุคคลต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษตามกฎหมาย เช่น เจ้าหน้าที่ทูต ลูกเรือ ผู้ที่ต้องการการช่วยเหลือเป็นพิเศษ ผู้พิการ เป็นต้น โดยได้จัดช่องทาง Priority Lane ไว้ให้เป็นการเฉพาะ 2 ช่องทาง บริเวณช่องตรวจหนังสือเดินทางโซน 2 และ 3 ชั้น 4 อาคารผู้โดยสาร โดยได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยคอยตรวจสอบการผ่านเข้าช่อง Priority Lane ซึ่งผู้โดยสารที่สามารถผ่านช่องทางนี้ได้จะต้องมีหนังสือเดินทาง บัตรโดยสารชั้นหนึ่งหรือชั้นธุรกิจ และบัตร Premium Lane ที่ต้องมีเที่ยวบิน และชื่อผู้โดยสารในบัตรที่นั่งตรงกับหนังสือเดินทาง
น.ท.สุธีรวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังคงให้บริการช่องทาง Priority Lane สำหรับผู้โดยสารกรณีพิเศษและบริการ Premium lane หรือ Fast Track ตามที่เคยชี้แจงไว้ก่อนหน้าแต่ด้วยข้อเท็จจริงปัจจุบันสุวรรณภูมิในฐานะผู้ให้บริการท่าอากาศยาน ซึ่งต้องจัดเตรียมพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารรวมถึงหน่วยงานราชการที่ปฏิบัติงานที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในการปรับปรุงรูปแบบการให้บริการ Premium lane หรือ Fast Track รูปแบบใหม่ให้มีความสวยงาม สะดวกรวดเร็ว เพิ่มขึ้น โดยบริษัท วีเอฟเอส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ดำเนินการกับกลุ่มสายการบิน โดยขอให้พื้นที่ Priority Lane ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ซึ่ง ทอท. และ สตม.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเรียกเก็บค่าบริการหรือผลประโยชน์แอบแฝงตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ในฐานะผู้ให้บริการท่าอากาศยานมีแนวทางปฏิบัติงานที่เป็นไปตามมาตรฐานและจะเข้มงวดตรวจสอบผู้ที่เข้าใช้ช่องทาง (Priority Lane) รวมถึงผู้ถือบัตร Premium Lane หรือ Fast Track โดยจะหาแนวทางดำเนินการร่วมกับ AOC และ สตม. ต่อไป.-สำนักข่าวไทย
