พรรคเพื่อไทย 3 ส.ค.- “เพื่อไทย” สดุดีทหารกล้า-อาลัยพลเรือน ย้ำ ชีวิตคนไม่อาจประเมินค่าได้ ยัน ไม่ละทิ้งประชาชน พร้อมผลักดันความขัดแย้งสู่โต๊ะเจรจา
น.ส. ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า จากสถานการณ์ความตึงเครียด และการปะทะบริเวณพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์จะคลี่คลายลง จากความพยายามในการเจรจาเพื่อยุติการปะทะของรัฐบาลไทย
จากการปะทะที่เกิดขึ้น ได้นำไปสู่ความสูญเสีย ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 มีพลเรือน เสียชีวิต 17 ราย บาดเจ็บสาหัส 12 ราย บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย รวมทั้งสิ้น 55 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 15 นาย บาดเจ็บ 196 นาย รวมทั้งสิ้น 211 นาย
“พรรคเพื่อไทยขอสดุดีดวงวิญญาณของทหารกล้าทุกนายที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญเพื่อปกป้องอธิปไตยไทย จากการรุกรานของประเทศกัมพูชา และขอแสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งต่อพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ความรุนแรงในครั้งนี้ ทุกชีวิตคือความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น และเป็นสิ่งเตือนใจให้ทุกภาคส่วนร่วมกันหยุดยั้งการปะทะโดยเร็วที่สุด” น.ส.ขัตติยา กล่าว
น.ส. ขัตติยา กล่าวว่า ในนามตัวแทนพรรคเพื่อไทย ขอเชิญชวนประชาชน ร่วมไว้อาลัยผู้เสียชีวิตที่เป็นพลเรือน ซึ่งจะได้รับการพระราชทานเพลิงศพ อีก 6 ราย ประกอบด้วย นางสาวจุฬารักษ์ ประขัน, เด็กหญิงพิทักษพร ประขัน, เด็กชายพงศ์ภัค ประขัน, เด็กชายศักดิ์สิทธิ์ คำวัง, นางอรุณรัตน์ วันศรี และนางสาวสารศรี อ่อนหรง กลุ่มผู้เสียชีวิตจากการโจมตีข้ามแดนของกัมพูชา ที่เกิดขึ้นบริเวณสถานีบริการน้ำมัน ในจังหวัดศรีสะเกษ โดยพิธีจะจัดขึ้นในวันนี้ ที่วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง จังหวัดศรีสะเกษ
“ชีวิตของประชาชนคือสิ่งที่ไม่อาจประเมินค่าได้ พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า เราจะไม่ละทิ้งประชาชน และจะทำทุกทางเพื่อนำความขัดแย้งครั้งนี้กลับสู่โต๊ะเจรจา ไม่ให้ความสูญเสียเหล่านี้เกิดขึ้นอีก และจะไม่ละเลยต่ออธิปไตยของชาติ บูรณภาพแห่งดินแดน และศักดิ์ศรีของชาติไทย” รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว
น.ส.ขัตติยา ยังกล่าวว่า อยากขอความร่วมมือสื่อมวลชน เพจ อินฟูลเอนเซอร์ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนที่จะนำเสนอ เนื่องจากขณะนี้มีผู้ไม่หวังดีพยายามทำลายความสามัคคีของคนในชาติและขอความร่วมมือจากประชาชนให้คอยติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานของรัฐเป็นหลัก และช่วยกันตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก่อนที่จะส่งต่อ พร้อมขอให้มั่นใจว่าเราไม่เพียงแต่จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่ยังสร้างโครงสร้างใหม่ ให้ประเทศแข็งแรงในระยะยาว .-316 -สำนักข่าวไทย