นนทบุรี 30 เม.ย. – พาณิชย์ยอมรับเป้าส่งออกร้อยละ 8 ทำได้ยาก เตรียมประเมินร่วมกับทูตพาณิชย์สิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อทบทวนเป้าหมายใหม่ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง
ในการหารือร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกของปี 2562 นำโดยนายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ย้ำว่าสถานการณ์การส่งออกขณะนี้ยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ซึ่งจากการประเมินกับผู้ส่งออกภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าส่งออกสำคัญของไทย โดยรวมแล้วยังคงขยายตัวแต่อยู่ในระดับต่ำ จากสินค้าข้าวและมันสำปะหลัง ส่วนยางพารา น้ำตาล จะขยายตัวได้เล็กน้อยเนื่องจากปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นแต่ราคาลดลง รวมถึงสินค้ากลุ่มอาหารที่ยังไปได้ดี โดยรวมทั้งปีคาดว่าการส่งออกสินค้าเกษตรจะขยายตัวร้อยละ 1.6 เช่นเดียวกับสินค้าอุตสาหกรรมที่แต่ละรายการจะขยายตัวได้ในระดับต่ำ ทั้งปีน่าจะโตร้อยละ 2.3
ทั้งนี้ จากการประเมินภาพรวมการส่งออกของไทยตลอดปี 2562 น่าจะขยายตัวเพียงร้อยละ 2.1 เท่านั้น มูลค่ารวม 257,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.1 โดยเฉลี่ยต่อเดือน หลังจากนี้จะต้องมีมูลค่าการส่งออกประมาณ 21,560 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ยอมรับว่าเป้าหมายผลักดันการส่งออกที่ร้อยละ 8 ทำได้ยาก เนื่องจากในช่วง 9 เดือนที่เหลือจะต้องมีมูลค่าส่งออกสูงเกิน 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลกช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในการทบทวนตัวเลขการส่งออกให้สอดคล้องกับความเป็นจริง โดยที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถทางการค้าระหว่างประเทศระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อใช้เป็นกลไกรับฟังความคิดเห็น เพื่อจะได้หยิบยกประเด็นปัญหาหากเกี่ยวข้องระดับนโยบายให้สามารถมาแก้ไขได้ทันที
ส่วนสถานการณ์ส่งออกช่วงที่เหลือ มองว่าไทยยังมีปัจจัยบวกทั้งจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น และในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะได้รัฐบาลใหม่และมีความชัดเจนในเรื่องของนโยบายที่จะส่งผลดีต่อตัวเลขเศรษฐกิจอื่น ๆ ให้ปรับตัวดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย