สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงพสกนิกร รับสั่งจัดหาเบาะรองนั่งปูรอบพื้นพระราชพิธี

กรุงเทพฯ 27 เม.ย.- สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยพสกนิกรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ เนื่องจากสภาพอากาศร้อน จึงทรงรับสั่งให้จัดหาเสื่อ-เบาะรองนั่ง หญ้าเทียม พร้อมพระราชทานโรงครัว ในห้วงงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ 2-6 พ.ค.นี้ ขณะที่จิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” รวมพลังบิ๊กคลีนนิ่งเส้นทางเสด็จฯ เลียบพระนคร


เมื่อวานนี้ (26 เม.ย.) สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยพระราชทานร่วมกับประชาชนจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในโครงการ “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ทั้งหน่วยงานในพระองค์ หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชน ร่วมกิจกรรม Big Cleaning บริเวณพื้นที่จัดงานและพื้นที่ใกล้เคียงงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ช่วงเช้า พลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธานเปิดกิจกรรม Big Cleaning ณ บริเวณสนามหลวง มีผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้แทนกระทรวงกลาโหม กองทัพบก กองทัพเรือ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ข้าราชการเจ้าหน้าที่จาก 50 สำนักงานเขต หน่วยงานและประชาชนจิตอาสา รวมประมาณ 5,800 คน ร่วมล้างทำความสะอาดในบริเวณพื้นที่ถนนกลางสนามหลวงและบริเวณโดยรอบ รวมทั้งคูคลอง และเก็บขยะตามถนนในเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ระยะทาง 7.2 กิโลเมตร ให้มีความสะอาด สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย และสมพระเกียรติ รวมทั้งนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ และกรรมการบริหารพรรค ร่วมกิจกรรมจิตอาสา Big Cleaning Day ด้วย


ส่วนที่ห้องประชุมศรีบูรพา ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นประธานแถลงข่าวเปิดศูนย์สื่อมวลชนงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์สื่อมวลชนในครั้งนี้เพื่อให้บริการข่าวสารและอำนวยความสะดวกแก่สื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เน้นย้ำและขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้บันทึกภาพเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างละเอียดชัดเจน และมีความสง่างามในทุกมิติ

ทั้งนี้ เชิญชวนประชาชนเข้ามาสืบค้นข้อมูล และมีส่วนร่วมเนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ โดยประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้ www.phralan.in.th, เฟซบุ๊ก ค้นหาคำว่า “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562” หรือ Line ไอดี ค้นหาเพื่อ “@บรมราชาภิเษก” (มีเครื่องหมาย @ นำหน้า)


ในงานเดียวกัน ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีความห่วงใยประชาชนที่จะมานั่งเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ รับสั่งให้จัดเสื่อ เบาะรองนั่ง และหญ้าเทียม แก่ประชาชน รวมทั้งพระราชทานโรงครัว แบ่งเป็น 18 จุด เพื่อดูแลเรื่องอาหารและน้ำดื่มแก่ประชาชนที่มาร่วมงาน รวมทั้งบริการด้านการแพทย์ 43 จุด (ทุก 250 เมตรโดยรอบ) รถสุขาเคลื่อนที่ 48 คัน และพระราชทานจอ LED ขนาดใหญ่ 25 จุด และโทรทัศน์ 49 นิ้ว 20 จุดถ่ายทอดภาพพระราชพิธีให้ประชาชนได้ชมการถ่ายทอดงานพระราชพิธีตลอดงาน

ส่วนการเตรียมการรองรับประชาชนและการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงงานพระราชพิธีนั้น ประชาชนสามารถเดินทางมาร่วมพระราชพิธีได้หลายเส้นทางทาง ได้แก่ ทางรถยนต์ สามารถขับมาจอดยังจุดจอดรถโดยรอบพื้นที่จำนวน 26 จุด รองรับไม่น้อยกว่า 38,000 คัน ทางรถไฟ-ลงสถานีรถไฟหัวลำโพง หรือนั่งเรือมาทางแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองแสนแสบมาขึ้นยังท่าเรือโดยรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ก่อนนั่งรถชัตเติลบัส หรือเดินเท้าเข้ามายังบริเวณจุดรอบนอกงานพระราชพิธี ผ่านจุดคัดกรอง 21 จุด ซึ่งจะใช้เวลาตรวจสอบไม่เกิน 10 วินาทีต่อคน เพื่อผ่านเข้าไปยังพื้นที่ภายในพระราชพิธี มีจุดพักคอย 7 จุด เช่น ที่บ้านมนังคศิลา บ้านพิษณุโลก สนามม้านางเลิ้ง สะพานพระราม 8 ฝั่งกรุงเทพฯ สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฝั่งกรุงเทพฯ สะพานพระพุทธยอดฟ้าและวัดเทพศิรินทร์

ที่กองอำนวยการร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก หรือ กอร.พระราชพิธีฯ กระทรวงกลาโหม พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ เปิดเผยว่าที่ประชุมเตรียมอำนวยความสะดวกประชาชน ด้วยการจัด “รถธรรมดา” (รถร้อน) เป็นรถชัตเติลบัสที่ไว้บริการตั้งแต่วันที่ 1 – 7 พฤษภาคม ตั้งแต่ 09.00 – 22.00 น. 

ส่วนในวันที่ 5 พฤษภาคม ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครนั้น ขสมก. จะจัดเป็น “รถชัตเติลบัสปรับอากาศ” ให้ประชาชนตามจุดต่างๆ ทั้งหมดเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน ให้บริการ 06.00 ถึงเที่ยงคืน รวมทั้งวันที่ 6 ด้วย

นอกจากนี้ ในวันที่ 5 รถไฟฟ้าสายสีม่วง – สีน้ำเงิน รวมถึงแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดให้บริการฟรีตลอดวันด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย