ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สินอดีต 4 รมต. พปชร. หลังพ้นตำแหน่ง

ป.ป.ช. 25 เม.ย.- ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สินอดีต 4 รมต. พปชร. หลังพ้นตำแหน่ง พบ “สนธิรัตน์” รวยขึ้น 31 ล้าน “อุตตม”  เพิ่ม 9 ล้าน ด้าน “สุวิทย์-กอบศักดิ์” จนลง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 เม.ย.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 30 มกราคม 2562จำนวน 4 ราย ได้แก่ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์  อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ , นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 


นายอุตตม สาวนายน และคู่สมรส แจ้งว่า แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 223,700,457 บาท หนี้สินรวม 2,830,290 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 220,870,167 บาท โดยทรัพย์สินในส่วนของนายอุตตม แบ่งเป็นเงินสด 300,000 บาท เงินฝาก 17,093,556 บาท เงินลงทุน 37,000,862 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 20,000,000 บาท ที่ดิน 45,000,000 บาท ยานพาหนะ 10,600,000 บาท ไม่มีทรัพย์สินอื่น รวมทรัพย์สินของนายอุตตมทั้งหมด 129,994,419 บาท 

ส่วนทรัพย์สินของนางอิชยา สาวนายน คู่สมรส แบ่งเป็นเงินสด 300,000 บาท เงินฝาก 6,851,449 บาท เงินลงทุน 62,054,588 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 4,000,000 บาท ที่ดิน 12,200,000 บาท ยานพาหนะ 7,100,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 1,200,000 บาท รวมทรัพย์สินของนางอิชยา 93,706,038 บาท มีหนี้สิน 2,830,290 บาท  เป็นหนี้สินจากเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับครั้งเข้ารับตำแหน่งที่แจ้งว่ามีทรัพย์สิน ทั้งหมด 207,495,698 บาท   เท่ากับว่านายอุตตมและคู่สมรส มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 13,374,469 บาท   


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ไม่มีคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 144,401,978 บาท ไม่มีหนี้สิน มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 144,401,978 บาท แบ่งเป็นเงินสด 300,000 บาท เงินฝาก 1,029,107 บาท เงินลงทุน 80,742,871 บาท สิทธิและสัมปทาน 2,000,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 60,630,000 บาท โดยทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจ อาทิ พระเครื่อง จำนวน  32 รายการ มูลค่ากว่า 30,000,000 บาท เช่น พระสมเด็จเกศไชโย 2 องค์ มูลค่า 2,000,000 บาท พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ 3,000,000 บาท พระนางพญา พิมพ์เข่าโค้ง 2,000, 000  บาท พระปิดตา หลวงพ่อแก้ว วัดเคลือวัลย์ 3,000,000 บาท และพระท่ากระดาน กาญจนบุรี 2,000,000 บาท   นอกจากนั้น ยังมีเครื่องประดับอีกกว่า 34 รายการ มูลค่ากว่า 30,000,000 บาท อาทิ แหวนเพชร 2,200,000 บาท แหวนเพชรตรงกลางด้านล่างเป็นไพลิน  2,100,000 บาท แหวนทับทิมเจีย ล้อมเพชร 1,100,000 บาท  และ ต่างหูเพชรเดี่ยว 3,300,000 บาท  

ทั้งนี้ หากเทียบกับเมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งที่แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 113,227,926 บาท ไม่มีหนี้สิน  จะเท่ากับว่านายสนธิรัตน์มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 31,174,052 บาท

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ไม่มีคู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 25,647,680 บาท หนี้สิน 5,636,236 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 20,009,443 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 5,204,828 บาท เงินลงทุน 4,598,233 บาท ที่ดิน 10,605,150 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 3,000,000 บาท  ส่วนหนี้สินเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 

ทั้งนี้ หากเทียบกับเมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งที่แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 29,320,171 บาท มีหนี้สิน 6,316,092 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 23,005,078 บาท เท่ากับว่านายกอบศักดิ์ มีทรัพย์สินลดลง 2,995,635 บาท

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ และคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 97,070,000 บาท หนี้สินรวม 10,300,000 ล้านบาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 86,770,000 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 1,858,545 บาท เงินลงทุน 2,863,425 บาท ที่ดิน 16,392,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 34,012,816 บาท สิทธิและสัมปทาน 339,000 บาท และทรัพย์สินอื่น 26,525,000 บาท  เป็นเอกสารชุดเดียวกับที่นายสุวิทย์ได้ยื่นกรณีเข้ารับตำแหน่ง  ส่วนใหญ่เป็นวัตถุโบราณ รวม 134 รายการ อาทิ กลองลองซอง มูลค่า 500,000 บาท  คานโบราณ 200,000 บาท  กระเบื้องเขมร 200,000 บาท  ชิ้นส่วนเสลี่ยงโบราณ 200,000 บาท  เทวรูปอินเดีย 4 รายการ 1,000,000 บาท  ตลับใส่ของโบราณ 5 ชิ้น 300,000 บาท  พระพุทธรูป ทวารวดี 400,000 บาท   พระพุทธรูปเขมร 500,000 บาท  หนุมานเขมร 4 รายการ มูลค่ากว่า 1,100,000 ล้านบาท  ศิวลึงค์เขมร มูลค่า 100,000 บาท   รูปปั้นควายสำริด 200,000 บาท และพระพุทธรูปลาว 1,500,000 บาท   นอกจากนี้ ยังมีนาฬิกา(ไม่ระบุยี่ห้อ) 7 เรือน มูลค่า 600,000 บาท ทองคำแท่ง 8 แท่ง 900,000 บาท พระเครื่อง 11 องค์ ส่วนหนี้สินเป็นการกู้ยืมกับน.ส.เจีย เมษินทรีย์ พี่สาว จำนวน 10,000,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 3 มีการทำสัญญา 11 มิ.ย.2560

ขณะที่ นางผกากรอง เมษินทรีย์ คู่สมรส แจ้งว่ามีเงินฝาก 610,006 บาท เงินลงทุน 200,000 บาท ที่ดิน 6,170,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 997,229 บาท ยานพาหนะ 1,500,000 ทรัพย์สินอื่น 5,400,000 บาท  ที่น่าสนใจ อาทิ ชุดเครื่องประดับในกล่อง ประกอบด้วย ตุ้มหู 5 คู่ แหวน 28 วง เข็มกลัด 4 ชิ้น มูลค่า 2,000,000 บาท  และทับทิม อีก 37 เม็ด

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับครั้งเข้ารับตำแหน่งที่แจ้งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 90,836,749 บาท เท่ากับว่า นายสุวิทย์และคู่สมรส มีทรัพย์สินลดลง 4,066,749 บาท       ..- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง