ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สินอดีต 4 รมต. พปชร. หลังพ้นตำแหน่ง

ป.ป.ช. 25 เม.ย.- ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สินอดีต 4 รมต. พปชร. หลังพ้นตำแหน่ง พบ “สนธิรัตน์” รวยขึ้น 31 ล้าน “อุตตม”  เพิ่ม 9 ล้าน ด้าน “สุวิทย์-กอบศักดิ์” จนลง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 เม.ย.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 30 มกราคม 2562จำนวน 4 ราย ได้แก่ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์  อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ , นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 


นายอุตตม สาวนายน และคู่สมรส แจ้งว่า แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 223,700,457 บาท หนี้สินรวม 2,830,290 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 220,870,167 บาท โดยทรัพย์สินในส่วนของนายอุตตม แบ่งเป็นเงินสด 300,000 บาท เงินฝาก 17,093,556 บาท เงินลงทุน 37,000,862 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 20,000,000 บาท ที่ดิน 45,000,000 บาท ยานพาหนะ 10,600,000 บาท ไม่มีทรัพย์สินอื่น รวมทรัพย์สินของนายอุตตมทั้งหมด 129,994,419 บาท 

ส่วนทรัพย์สินของนางอิชยา สาวนายน คู่สมรส แบ่งเป็นเงินสด 300,000 บาท เงินฝาก 6,851,449 บาท เงินลงทุน 62,054,588 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 4,000,000 บาท ที่ดิน 12,200,000 บาท ยานพาหนะ 7,100,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 1,200,000 บาท รวมทรัพย์สินของนางอิชยา 93,706,038 บาท มีหนี้สิน 2,830,290 บาท  เป็นหนี้สินจากเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับครั้งเข้ารับตำแหน่งที่แจ้งว่ามีทรัพย์สิน ทั้งหมด 207,495,698 บาท   เท่ากับว่านายอุตตมและคู่สมรส มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 13,374,469 บาท   


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ไม่มีคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 144,401,978 บาท ไม่มีหนี้สิน มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 144,401,978 บาท แบ่งเป็นเงินสด 300,000 บาท เงินฝาก 1,029,107 บาท เงินลงทุน 80,742,871 บาท สิทธิและสัมปทาน 2,000,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 60,630,000 บาท โดยทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจ อาทิ พระเครื่อง จำนวน  32 รายการ มูลค่ากว่า 30,000,000 บาท เช่น พระสมเด็จเกศไชโย 2 องค์ มูลค่า 2,000,000 บาท พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ 3,000,000 บาท พระนางพญา พิมพ์เข่าโค้ง 2,000, 000  บาท พระปิดตา หลวงพ่อแก้ว วัดเคลือวัลย์ 3,000,000 บาท และพระท่ากระดาน กาญจนบุรี 2,000,000 บาท   นอกจากนั้น ยังมีเครื่องประดับอีกกว่า 34 รายการ มูลค่ากว่า 30,000,000 บาท อาทิ แหวนเพชร 2,200,000 บาท แหวนเพชรตรงกลางด้านล่างเป็นไพลิน  2,100,000 บาท แหวนทับทิมเจีย ล้อมเพชร 1,100,000 บาท  และ ต่างหูเพชรเดี่ยว 3,300,000 บาท  

ทั้งนี้ หากเทียบกับเมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งที่แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 113,227,926 บาท ไม่มีหนี้สิน  จะเท่ากับว่านายสนธิรัตน์มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 31,174,052 บาท

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ไม่มีคู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 25,647,680 บาท หนี้สิน 5,636,236 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 20,009,443 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 5,204,828 บาท เงินลงทุน 4,598,233 บาท ที่ดิน 10,605,150 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 3,000,000 บาท  ส่วนหนี้สินเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 

ทั้งนี้ หากเทียบกับเมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งที่แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 29,320,171 บาท มีหนี้สิน 6,316,092 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 23,005,078 บาท เท่ากับว่านายกอบศักดิ์ มีทรัพย์สินลดลง 2,995,635 บาท

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ และคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 97,070,000 บาท หนี้สินรวม 10,300,000 ล้านบาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 86,770,000 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 1,858,545 บาท เงินลงทุน 2,863,425 บาท ที่ดิน 16,392,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 34,012,816 บาท สิทธิและสัมปทาน 339,000 บาท และทรัพย์สินอื่น 26,525,000 บาท  เป็นเอกสารชุดเดียวกับที่นายสุวิทย์ได้ยื่นกรณีเข้ารับตำแหน่ง  ส่วนใหญ่เป็นวัตถุโบราณ รวม 134 รายการ อาทิ กลองลองซอง มูลค่า 500,000 บาท  คานโบราณ 200,000 บาท  กระเบื้องเขมร 200,000 บาท  ชิ้นส่วนเสลี่ยงโบราณ 200,000 บาท  เทวรูปอินเดีย 4 รายการ 1,000,000 บาท  ตลับใส่ของโบราณ 5 ชิ้น 300,000 บาท  พระพุทธรูป ทวารวดี 400,000 บาท   พระพุทธรูปเขมร 500,000 บาท  หนุมานเขมร 4 รายการ มูลค่ากว่า 1,100,000 ล้านบาท  ศิวลึงค์เขมร มูลค่า 100,000 บาท   รูปปั้นควายสำริด 200,000 บาท และพระพุทธรูปลาว 1,500,000 บาท   นอกจากนี้ ยังมีนาฬิกา(ไม่ระบุยี่ห้อ) 7 เรือน มูลค่า 600,000 บาท ทองคำแท่ง 8 แท่ง 900,000 บาท พระเครื่อง 11 องค์ ส่วนหนี้สินเป็นการกู้ยืมกับน.ส.เจีย เมษินทรีย์ พี่สาว จำนวน 10,000,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 3 มีการทำสัญญา 11 มิ.ย.2560

ขณะที่ นางผกากรอง เมษินทรีย์ คู่สมรส แจ้งว่ามีเงินฝาก 610,006 บาท เงินลงทุน 200,000 บาท ที่ดิน 6,170,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 997,229 บาท ยานพาหนะ 1,500,000 ทรัพย์สินอื่น 5,400,000 บาท  ที่น่าสนใจ อาทิ ชุดเครื่องประดับในกล่อง ประกอบด้วย ตุ้มหู 5 คู่ แหวน 28 วง เข็มกลัด 4 ชิ้น มูลค่า 2,000,000 บาท  และทับทิม อีก 37 เม็ด

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับครั้งเข้ารับตำแหน่งที่แจ้งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 90,836,749 บาท เท่ากับว่า นายสุวิทย์และคู่สมรส มีทรัพย์สินลดลง 4,066,749 บาท       ..- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย