ผู้ตรวจฯ ขีดเส้นตาย 60 วันให้ กก.วัตถุอันตรายทบทวนใช้สารพาราควอต

สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน 25 เม.ย.-ผู้ตรวจการแผ่นดิน ขีดเส้นตาย  60 วัน ให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายทบทวนใช้สารพาราควอต พร้อมประกาศยกเลิกให้ชัดเจนตั้งแต่ 1 ม.ค.63  หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการ เตรียมรายงานนายกฯ พร้อมส่ง ป.ป.ช.เอาผิด


นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน  แถลงภายหลังผู้ตรวจการแผ่นดิน ประชุมร่วมกับคณะกรรมการวัตถุอันตรายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีพบว่าคณะกรรมการวัตถุอันตรายยังไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจฯ  ที่ให้เดินหน้ายกเลิกสารเคมีพาราควอตตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ว่า เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 ผู้ตรวจฯ ได้เสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวม 3 ประเด็น  คือ 1.ให้มีการประกาศยกเลิกการใช้สารพาราควอตตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 2.สร้างความรู้ความเข้าใจและควบคุมการใช้สารพาราควอต  และ 3.พิจารณาใช้สารอื่นทดแทน  ซึ่งพบว่าจนถึงปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเน้นในเรื่องของการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้สารพาราควอต แต่ประเด็นสำคัญที่ยังไม่มีการพูดถึงคือการยกเลิกสารอันตรายดังกล่าว

นายรักษเกชา กล่าวว่า ทางผู้ตรวจฯ จึงเห็นว่ายังไม่มีความชัดเจนในการปฏิบัติ จึงได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสอบถามปัญหาในการดำเนินการ และยืนยันมติของผู้ตรวจฯ ว่าอย่างไรก็ตาม คณะกรรมการวัตถุอันตรายต้องยกเลิกการใช้สารพาราควอต ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 โดยผู้แทนที่เข้าร่วมประชุมได้ชี้แจงเหตุผล ที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายยังไม่มีการประกาศยกเลิก เป็นเหตุผลทางด้านเศรษฐกิจ ประชาชนยังคุ้นเคยกับการใช้สารดังกล่าว และยังไม่มีสารอื่นทดแทน รวมทั้งคิดว่าสามารถควบคุมไม่ให้เกิดอันตรายได้


“ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขก็ยังคงยืนยันข้อมูลว่าสารดังกล่าวเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และผู้แทนของคณะกรรมการวัตถุอันตรายก็อ้างว่าตนเองไม่มีอำนาจ จึงขอนำความเห็น และข้อห่วงใยของผู้ตรวจฯ ครั้งนี้ไปเสนอให้กับคณะกรรมการวัตถุอันตรายได้พิจารณา” นายรักษเกชา กล่าว

นายรักษเกชา กล่าวอีกว่า ทางผู้ตรวจฯ จึงให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายไปพิจารณาทบทวนเรื่องดังกล่าวภายใน 60 วัน โดยมีเป้าหมาย คือ ต้องประกาศยกเลิกการใช้สารพาราควอต ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 แต่ถ้ามีเหตุขัดข้องก็พร้อมรับฟัง แต่ต้องเป็นเหตุผลอันสมควรว่าเพราะเหตุใดยังคงต้องใช้สารดังกล่าวในการเกษตร

“ถ้าเหตุผลที่ชี้แจงมา ทางผู้ตรวจฯ เห็นว่าไม่เพียงพอ ก็จะเสนอให้นายกรัฐมนตรีนำเข้าพิจารณาในคณะรัฐมนตรีต่อไป  ตามมาตรา 33 ของ พ.ร.บ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือหากเพิกเฉยไม่ดำเนินการใด ๆ ทางประธานผู้ตรวจการแผ่นดินก็ได้แจ้งในที่ประชุมร่วมแล้วว่าเข้าข่ายหัวหน้าหน่วยงานเพิกเฉย ไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจฯ  โดยไม่มีเหตุสมควร  ทางผู้ตรวจฯ ไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะต้องเสนอเรื่องดังกล่าวไปให้คณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณา โดยถือว่าจงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลร้ายแรง ซึ่งทาง ป.ป.ช.ก็จะใช้สำนวนของผู้ตรวจการฯ เป็นหลักในการพิจารณาไต่สวนชี้มูล” นายรักษเกชา กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน