กกต. 23 เม.ย.- “ศรีสุวรรณ” ยื่นหลักฐานเพิ่ม “ธนาธร” ถือครองหุ้นสื่อ ชี้ ข้ออ้าง “ปิยบุตร” ที่ออกมาแก้ต่างแทน “ธนาธร” ไม่สมเหตุผล โชว์ใบเสร็จอีซีพาส อาจเข้าข่ายสร้างหลักฐานเท็จ ขณะที่ ปิดบริษัทไม่เคลียหนี้เน่า เข้าข่ายฟอกเงิน
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมครั้งที่ 3 ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีร้องเรียนให้ไต่สวน ตรวจสอบ และวินิจฉัย เพื่อส่งให้ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จากการถือครองหุ้นสื่อสารมวลชน บริษัท วี-ลัค มีเดีย
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า พบหลักฐานใหม่จากการแถลงข่าวของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่แก้ต่างแทนนายธนาธรว่า ในวันที่ 8 มกราคม นายธนาธรเสร็จภารกิจหาเสียงที่ จ.บุรีรัมย์ ในช่วงบ่าย และขึ้นรถตู้กลับจาก จ.บุรีรัมย์ เพื่อมาเซ็นโอนหุ้นที่ กทม. พร้อมนำหลักฐานใบเสร็จอีซี่พาส เวลา 14.57 น. มาเป็นหลักฐานยืนยัน
“การเดินทางจาก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มายัง กทม. ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ชั่วโมง หลักฐานที่นายปิยบุตรนำมากล่าวอ้าง จึงไม่สมเหตุสมผล และไม่มีตรรกะรองรับ อาจเข้าข่ายการสร้างหลักฐานเท็จ เพื่อแก้ต่างข้อกล่าวหา” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า คำแถลงข่าวของนายปิยบุตร ที่กล่าวถึงการโอนหุ้นไปมา ระหว่างภรรยาของนายธนาธรไปให้กับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร และโอนต่อไปให้หลาน 2 คน โดยอ้างว่าเพื่อให้หลานได้เรียนรู้เรื่องการทวงหนี้ แล้วมีการโอนหุ้นกลับมาให้มารดาของนายธนาธรอีกครั้ง โดยไม่มีการนำเช็ค หรือหลักฐานการจ่ายเงินค่าหุ้นมาเปิดเผย ต่อมาก็อ้างว่า มารดาของนายธนาธรมีอายุมาก จึงต้องการประชุมปิดบริษัท
“บริษัทดังกล่าวมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ 10 ล้านบาท ตามกฎหมายประมวลรัษฎากร การจะแทงหนี้ให้เป็นสูญ ต้องฟ้องคดีต่อศาล และให้ผู้ตรวจสอบบัญชีรับรอง จึงจะสามารถหักกลบลบหนี้ได้ หากไม่ดำเนินการตามขั้นตอน อาจเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินได้ ผมจึงนำหลักฐานข้อพิรุธทั้ง 2 ประเด็นมาเสนอให้ กกต. พิจารณาก่อนลงมติแจ้งข้อกล่าวหานายธนาธร” นายศรีสุรรณ กล่าว