“ปิยบุตร” แจงไทม์ไลน์โอนหุ้น “ธนาธร”

พรรคอนาคตใหม่ 22 เม.ย.-“ปิยบุตร” แจงรายละเอียดไทม์ไลน์การโอนหุ้น บ.วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของ “ธนาธร” และภรรยา ย้ำมีผลตามกฎหมายตั้งแต่ 8 ม.ค.62 ระบุมีบางสื่อฯ พยายามสร้างความสับสน


นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวชี้แจงกรณีการถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ว่า ขณะนี้ยังมีสื่อบางสำนักพาดหัวข่าวในลักษณะเป็นการทุจริตคอร์รัปชั่นและเป็นการซุกหุ้น เหมือนต้องการลดความน่าเชื่อถือของพรรคหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพรรคอนาคตใหม่ได้คะแนนจากการเลือกตั้ง 6.3 ล้านเสียง และนายธนาธร ประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี  ดังนั้นจึงขอว่า สื่อไม่ควรสับสนว่าการถือหุ้นเป็นการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะเรื่องนี้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98 กำหนดไม่ให้ผู้สมัคร ส.ส.ถือครองหุ้นในกิจการสื่อมวลชน รวมถึงเมื่อเป็น ส.ส.แล้ว ต่างจากรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ห้ามถือครองหุ้นเฉพาะตอนที่ได้รับตำแหน่ง ส.ส.แล้ว ซึ่งตนมองว่าข้อห้ามควรมีตอนที่มีอำนาจแล้ว เพราะตอนเป็นผู้สมัครไม่มีใครทราบว่าจะได้รับการเลือกตั้งหรือไม่ แต่เมื่อกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนด ก็ต้องปฏิบัติตาม และเข้าใจว่าเป็นการป้องกันไม่ให้นักการเมืองเข้าไปครอบงำสื่อ ซึ่งนายธนาธร ก็เตรียมตัวในเรื่องนี้มาเป็นอย่างดี และที่ผ่านมา นายธนาธรได้เตรียมหลักฐานเพื่อจะเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่ก็ไม่เคยได้รับการติดต่อมา จนมาทราบจากการรายงานของสื่อบางสำนักว่า สำนักงาน กกต.อยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องนี้ และสื่อบางสำนักได้เขียนข่าวลักษณะกดดันการทำงานของ กกต. ให้มีมติเรื่องนี้ให้ทันในวันที่ 9 พฤษภาคม พร้อมยังอ้างแหล่งข่าว กกต.ว่า วันนี้จะมีการประชุมของ กกต. และจะมีมติในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้

“พรรคกังวลใจว่าการพิจารณาของ กกต. อาจขัดกฎหมายที่การพิจารณาจะต้องรับฟังทุกฝ่าย ไม่ใช่การพิจารณาเพียงเอกสารคำร้องที่สื่อรายงานเพียงอย่างเดียว คงจะไม่เกิดความเป็นธรรม นอกจากนี้ก่อนที่นายธนาธร จะเดินทางไปยุโรป ได้เตรียมเอกสารและได้มอบอำนาจให้ตัวแทนทีมกฎหมายของพรรคไปยื่นเอกสารที่ กกต.และขอโอกาสเข้าไปชี้แจงแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้รับการประสานจาก กกต. ทำให้พรรคต้องเปิดแถลงข่าวในวันนี้” นายปิยบุตร กล่าว


นายปิยบุตร ยังได้ชี้แจงช่วงเวลาและหลักฐานการโอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของนายธนาธร และ นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยา ให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร ว่า เสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2562 ซึ่งมีเอกสาร เช็คขีดคร่อมการชำระค่าหุ้น ใบหุ้น และตราสารโอนหุ้น ที่แสดงว่ามีการโอนหุ้นจริง ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 วรรค 2 ระบุว่าการโอนหุ้นจะมีผลสมบูรณ์ด้วยการลงรายมือชื่อของผู้โอน ผู้รับโอน และพยาน ซึ่งแสดงว่ามีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว และในมาตรา 1129 วรรค 3 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ระบุว่า หากจะให้การโอนหุ้นจะมีต่อบุคคลภายนอก จะต้องมีการจดแจ้งในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ซึ่งการดเนินการโอนหุ้นของนายธนาธร และภรรยา ไปยังนางสมพร ได้มีผลสมบูรณ์ทางกฎหมายเรียบร้อยแล้วนับตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2562 นายธนาธรจึงไม่ได้ถือหุ้นนี้อีกต่อไป

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า กรณีสื่อบางสำนักยังพยายามขุดคุ้ยและระบุว่า ในวันที่ 8 มกราคม นายธนาธร ไม่ได้ร่วมประชุมผู้ถือหุ้นนั้น ข้อเท็จจริง คือ ในช่วงเช้า นายธนาธร ยังคงลงพื้นที่ในจังหวัดบุรีรัมย์ และเดินทางกลับมากรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบินในช่วงบ่าย และมีหลักฐานในเสร็จ easy pass ในการเดินทางในช่วงเวลา 15.00 น. เพื่อเดินทางมาร่วมประชุม จากนั้นในวันที่ 14 มกราคม 2562 นางสมพรได้โอนหุ้นให้กับนายทวีและนายปิติ (นายเอและนายบี) ซึ่งเป็นหลานชายของนางสมพร เพื่อต้องการให้เข้ามาดูแลกิจการและติดตามหนี้สินจากลูกหนี้ค้างชำระ ตามที่ฝ่ายบัญชีของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด แนะนำว่าหนี้ที่ค้างชำระ น่าจะมีการติดตามทวงคืนได้ และยังไม่ให้ปิดบริษัทฯ ทำให้ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2562 บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด กลับมามีผู้ถือหุ้น 10 คน

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า ต่อมาในวันที่ 18 มกราคม 2562 น.ส.รวิพรรณ ได้ลงนามลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท และให้มีผลในวันที่ 19 มกราคม 2562 เพื่อป้องกันข้อครหาหลังจากลาออกจากการเป็นผู้ถือหุ้น ซึ่งวันที่ 19 มกราคม ก็มีการประชุมผู้ถือหุ้น โดยมีวาระ 3 เรื่อง คือ แจ้งการลาออกของนายทวีและนายปิติ แจ้งการถือครองหุ้น และมีมติเลิกกิจการบริษัทฯ เนื่องจากฝ่ายบัญชีพบว่า หนี้ที่มีอยู่เป็นหนี้ NPL หรือหนี้เสีย กว่า 11 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นจึงตัดสินใจและมีมติปิด บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด จากนั้นในวันที่ 21 มกราคม 2562 นายทวีและนายปิติ รวมถึงผู้ถือหุ้นอีก 3 คน ได้โอนหุ้นคืนให้กับนางสมพร ทำให้เหลือหุ้นเพียง 5 คน ต่อมาในวันที่ 21 มีนาคม 2562 บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ได้นำเอกสารไปยื่นต่อกรมธุรกิจการค้า ตามมาตรา 139 วรรค 2 ที่กำหนดให้ยื่นสำเนาบัญชีผู้ถือหุ้นปีละ 1 ครั้ง ภายหลังจากการประชุมสามัญในวันที่ 19 มีนาคม 2562.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

“ลูกหมี” นำ สส.ชุมพร-อบจ.ชุมพร-ทีมพลังชุมพร ซบพรรคภูมิใจไทย

พรรคภูมิใจไทย 17 ก.ย.-“ลูกหมี” นำ สส.ชุมพร-อบจ.ชุมพร-ทีมพลังชุมพร ซบพรรคภูมิใจไทย มั่นใจพรรคนำพาประเทศเดินไปข้างหน้า ไม่หวังประโยชน์ส่วนตัว แจงไม่ขัดแย้งกับ รทสช. ชี้เป็นเรื่องภายในพรรค ด้าน “พิพัฒน์” ตั้งเป้ากวาดที่นั่งภาคใต้มากขึ้น พร้อมเดินหน้าแลนด์บริดจ์ นายชุมพล จุลใส นำ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ และนายสุพล จุลใส 2 สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัวเตรียมร่วมงานที่พรรคภูมิใจไทย รวมถึง นายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร ที่นำทีมพลังชุมพร 27 คน สมัครเป็นสมาชิกพรรค โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้การต้อนรับและสวมเสื้อพรรคภูมิใจไทยให้กับ นายก อบจ. นายศุภชัย กล่าวว่า วันนี้เป็นเกียรติอย่างยิ่งได้ต้อนรับ คณะจากจังหวัดชุมพร ที่มาให้กำลังใจนายอนุทินโดย ได้รับการยืนยันว่า จะร่วมกันพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ให้แข็งแกร่งเติบโต และมีความเจริญขึ้น โดยการนำของนายอนุทินและพรรคภูมิใจไทย ขอบคุณที่ให้โอกาสภาคภูมิใจไทยได้ไปร่วมทำงานกับพี่น้องจังหวัดชุมพร ทุกคนมีเจตจำนงที่จะสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งในสมัยต่อไป นายชุมพล กล่าวว่า ตนขอพูดในนามส่วนตัวว่ามีความมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยสามารถนำพาประเทศไปได้และทำทุกอย่างให้ประเทศมีความมั่นคงให้ประเทศเดินไปข้างหน้า […]

วางระเบิด-ยิงซ้ำ ทหารพรานบาดเจ็บ 4 นาย

นราธิวาส 17 ก.ย.-คนร้ายลอบวางระเบิด-ยิงซ้ำ เจ้าหน้าที่ทหารพรานบาดเจ็บ 4 นาย ขณะลาดตระเวนเส้นทางในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 07.53 น. วันที่ 17 กันยายน 2568 เกิดเหตุลอบวางระเบิดและมีการยิงซ้ำ บริเวณบ้านบือราแง ม.3 ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพรานหน่วย ฉก.ทพ.48 กำลังออกลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยเส้นทาง เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ได้แก่ 1.จ่าสิบเอก ปิยะ อินทะโกษี ได้รับบาดเจ็บแน่นหน้าอกจากแรงระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณป้อมปืน2.อส.ทพ.สุริยาวุธ ช่างเกวียนดี ได้รับบาดเจ็บภายในรถ ไม่สามารถขยับออกมาได้ ต้องใช้รถกู้ภัยเข้าช่วยเหลือ แต่ยังมีสติ3.อส.ทพ.ตะวัน สว่างเมฆารัตน์ พลขับ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีสติ4.อส.ทพ.ธีระพงษ์ พรมพัด ซึ่งนั่งอยู่ภายในรถ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีสติ ทั้ง 4 นายถูกนำส่งโรงพยาบาลสุไหงปาดี เพื่อทำการรักษาและตรวจอาการเพิ่มเติม ภายหลังเหตุการณ์ ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและความเข้มงวดในการปฏิบัติการวิทยุสื่อสาร (ว.4) โดยเฉพาะฐานที่ตั้ง […]

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]