สุราษฎร์ธานี 19 เม.ย.- รมว.เกษตรฯ เดินหน้าจัด ส.ป.ก. แปลงใหญ่ ยึดคืนพื้นที่สวนปาล์ม จ.สุราษฏร์ฯ – กระบี่ 7,100 ไร่ แจกสิทธิให้ผู้ยากไร้ เกษตรกร เข้าทำกิน รายละ 6 ไร่ ทำแปลงรวมรูปแบบสหกรณ์ เช่าที่ ส.ป.ก. เล็งขยายผลทั่วประเทศ
นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบเกษตรกรในโครงการวิสาหกิจเกษตรแปลงใหญ่ที่แปลงต้นแบบที่ดิน ส.ป.ก. จ. ตำบลไทรทอง อำเภอไชยบุรี จังหวัดสุราษฏร์ธานีและกล่าวว่า พื้นที่นี้ยึดคืนโดยมาตรา 44 จากบริษัทอุตสาหกรรมน้ำปาล์ม เนื้อที่ 7,100 ไร่ อยู่ระหว่างจังหวัดสุราษฏร์ธานีและกระบี่ ขณะนี้ยังอยู่ขั้นตอนการฟ้องขับไล่ 1,000 กว่าไร่ ซึ่งเตรียมจัดพื้นที่ให้ผู้ยากไร้และเกษตรกรที่ไร้ดินทำกินตามรูปแบบของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งในเดือนพฤษภาคมนี้จะขยายผลแปลงต้นแบบโครงการวิสาหกิจเกษตรแปลงใหญ่รวม 12 แปลงทั้งในพื้นที่ ส.ป.ก. นิคมอุตสาหกรรม และพื้นที่ที่เหมาะสมอื่นๆ
ด้านนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่าบริษัทอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มฟ้องโต้แย้งสิทธิอยู่อาศัยมาก่อนในพื้นที่ 1,000 กว่าไร่ ขณะนี้รอศาลสั่งเท่านั้นเพราะเป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก. ขณะนี้รังวัดในบริเวณที่ไม่มีการโต้แย้งสิทธิให้เกษตรกรและผู้ยากไร้ครอบครัวละ 6 ไร่ โดยแปลงแรก 720 ไร่ แปลงที่สอง 1,160ไร่ และแปลงรอยต่อสองจังหวัด โดยทาง คทช. จังหวัดคัดเลือกบุคคลที่ได้สิทธิเข้าทำกินแล้ว 121ราย
“ การพัฒนานั้นจะให้เกษตรกรรวมแปลง จัดตั้งสหกรณ์เช่าที่ดิน ส.ป.ก. นำมาจัดสรรให้เกษตรกรทำกิน ไม่ได้เป็นเอกสารสิทธิ แล้วนำนโยบายรัฐมนตรีเกษตรฯ ให้ทำเกษตรพันธสัญญา (Contract Farming) กับสหกรณ์บ้านนาสารปลูกกล้วยหอมทอง 50,000 หน่อต่อปีเพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพส่งออกในพื้นที่ 125 ไร่จะมีรายได้ 40กว่าล้านบาทต่อปี รับซื้อประกันราคา 13.50 กก.ซี่งสหกรณ์บ้านนาสารจะเข้ามาดูแลเป็นพี่เลี้ยงให้ได้ผลผลิตที่ดีตรงตามตลาดต้องการ ตั้งแต่ปลูก แล้วให้ผลใน 8-10 เดือน โดยเฉลี่ยแล้วเกษตรกรจะขายผลผลิตได้ 41,000 บาทต่อไร่ต่อปี นอกจากนี้สหกรณ์จะปลูกพืชอื่นเสริมตามที่ตลาดต้องการ เบื้องต้นมีเกษตรกรลงนามร่วมผลิตมะละกอฮอลแลนด์แปลงใหญ่ส่งโรงแรม โรงพยาบาล และห้างร้าน ซึ่งจะขยายผลตามนโยบายนี้ไปในพื้นที่ ส.ป.ก. ทั่วประเทศ” นายวิณะโรจน์กล่าว
ทั้งนี้จากกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ทำหนังสือถึง นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดกระบี่เข้ารังวัดที่ดินสวนปาล์ม ซึ่งบริษัท อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) เข้าครอบครอง โดยผู้ว่าฯ กระบี่ขอให้ ส.ป.ก. ส่งเจ้าหน้าที่ไปรังวัดแนวเขตให้ชัดเจนเพื่อจะนำที่ดินมาจัดให้ประชาชนเข้าทำกิน รูปแบบคทช. โดยทางจังหวัดได้ทำหนังสือมาเมื่อเดือนมกราคมนื่องจากขณะนี้เกิดความขัดแย้งในพื้นที่ ระหว่างผู้ครอบครองเดิมกับผู้ที่ต้องการเข้าครอบครองแทน จึงเกิดความขัดแย้งอย่างมาก ควรจะเร่งนำมาจัดทำคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 36/2559 ที่นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า คสช.ได้ใช้มาตรา 44 เข้ายึดกว่า 7,100 ไร่ เป็นแปลงที่ No 601 โดย ส.ป.ก.ได้มีหนังสือตอบถึงผู้ว่าฯ กระบี่เพื่อให้ประสานฝ่ายความมั่นคงและเพื่อเข้าพื้นที่ เนื่องจากทางเอกชนมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อีกทั้งที่ผ่านมาเคยปะทะกันจนมีผู้เสียชีวิตมาแล้ว
สำหรับที่ดินที่บริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มฯ บุกรุกครอบครองทำประโยชน์นั้น กรมป่าไม้ระบุชัดว่า ครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย 7,186-3-38 ไร่ พื้นที่ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 1 แปลง และอีก 2 แปลง ตั้งแต่ปี 2524 และกรมป่าไม้มอบให้ ส.ป.ก. เพื่อนำมาจัดให้ประชาชน แต่ไม่สามารถทำได้ จนรัฐมนตรีเกษตรฯ สั่งเร่งดำเนินการกระทั่งเรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล . – สำนักข่าวไทย