fbpx

สทนช.เผยจีนยอมแลกเปลี่ยนข้อมูลน้ำครั้งแรกในรอบ 10 ปี

กรุงเทพฯ 16 เม.ย. – สทนช.เผยจีนเห็นพ้องแลกเปลี่ยนข้อมูลน้ำครั้งแรกในรอบ 10 ปี เพื่อสร้างกลไกป้องกันและบรรเทาผลกระทบข้ามพรมแดน จากสถานการณ์น้ำท่วม-น้ำแล้งฉับพลัน 


นายสมเกียรติ  ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า จากผลการประชุมคณะกรรมการประสานการดำเนินการตามความตกลงว่าด้วยการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำล้านช้าง – แม่น้ำโขง (JCCCN) ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 26 – 28  มีนาคมที่ผ่านมา ฝ่ายจีนเห็นพ้องแลกเปลี่ยนข้อมูลน้ำ โดยจะประสานกับหน่วยงานภายใน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามมาตรา  21 ของความตกลง JCCCN เพื่อให้การเดินเรือมีความปลอดภัยและสะดวกโดยเฉพาะในฤดูแล้ง และกำหนดให้ขยายความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลการไหลของน้ำตามที่ฝ่ายไทยร้องขอ ซึ่ง สทนช.พิจารณาแล้วว่าประเด็นดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาการบริหารจัดการแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น จึงพร้อมที่จะเป็นหน่วยงานกลางในการผลักดันการดำเนินงานผ่านกลไกกรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (MLC) สาขาทรัพยากรน้ำร่วมกับ JCCCN เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลน้ำกับจีนอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นายสมเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแลกเปลี่ยนข้อมูลน้ำฯ ระหว่างรัฐบาลไทยกับจีนและประเทศสมาชิก JCCCN ได้มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจนภายใต้พันธกรณีของ JCCCN ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลไกเดียวที่มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ และสามารถผลักดันการดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งที่ผ่านมาสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทยได้นำเสนอและพยายามผลักดันประเด็นด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลน้ำกับจีนร่วมกับกรมเจ้าท่าอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันปัจจุบันยังมีโครงการกลไกความร่วมมือข้ามพรมแดน เพื่อสนับสนุนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและนำเสนอกลไกความร่วมมือที่เหมาะสมในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทรัพยากรน้ำระหว่างประเทศสมาชิกของกรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (MLC) และอยู่ระหว่างดำเนินการ โดย สทนช.มีบทบาทในฐานะหน่วยงานกลางในการดำเนินโครงการฯ เช่นเดียวกัน


“การเปลี่ยนท่าทีเรื่องการแลกเปลี่ยนข้อมูลน้ำในแม่น้ำโขง – ล้านช้างโดยเฉพาะฤดูแล้ง จากผลการประชุมครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งแรกของจีนในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีความพยายามผ่านกลไกคณะกรรมการลุ่มน้ำโขง (MRC) มาโดยตลอดแต่ยังไม่ครอบคลุมและเกิดประสิทธิผลมากนัก แต่การหารือร่วมกันครั้งนี้เป็นจะเป็นการเปลี่ยนกลไกการให้ข้อมูลด้านน้ำอย่างมีนัยสำคัญ จึงนับเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญที่ฝ่ายไทยจะต้องดำเนินการและติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในแม่น้ำโขง – ล้านช้าง รวมถึงการป้องกันบรรเทาผลกระทบข้ามพรมแดน จากสถานการณ์น้ำท่วม น้ำแล้ง การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมและระดับน้ำอย่างฉับพลันอีกด้วย” นายสมเกียรติ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ปลื้ม “กล้วยหอมทอง” โคราชส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม

รมว.พาณิชย์ ปลื้ม “กล้วยหอมทอง” โคราช ส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม สั่งทีมพาณิชย์เร่งส่งออกสินค้าเกษตร ช่วยชาวสวนไทยมีรายได้ยั่งยืน

ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 44 องศาฯ

กรมอุตุฯ รายงานทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด ภาคอีสาน สูงสุด 44 องศาฯ แนะเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“