เปิดวงจรปิดสามีโหดอุ้มภรรยาส่ง รพ. ก่อนดับ

อุดรธานี 11 เม.ย.-เปิดวงจรปิด สามีอุ้มภรรยาส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี ก่อนเสียชีวิต ผลชันสูตรศพ พบมีบาดแผลฟกช้ำตามลำตัว เลือดไหลออกในโพรงสมอง ตับฉีกขาด พ่อแม่เหยื่อเผย ลูกเขยมีนิสัยนักเลง 


ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานีว่าวันที่ 10 เมษายน ที่ศาลาตั้งศพภายในวัดป่าโนนนิเวศน์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี นายชูชาติ ดีน้อย อายุ 64 ปี และนางอินทวา ดีน้อย อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 273 หมู่ 1 9.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้นำศพลูกสาวคือ น.ส.กรวิภา ดีน้อย อายุ 31 ปี มาตั้งบำเพ็ญกุศลหลังไปรับศพออกมาจากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ซึ่งทั้งคู่อยู่ในอาการโศกเศร้าทำใจไม่ได้จากการเสียชีวิตลูกสาวที่ถูกซ้อมปางตาย โดยในวงจรปิดพบมีชายสองคนขับรถเก๋งนำตัวส่งโรงพยาบาล ในคืนวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา แล้วมาเสียชีวิตในตอนเช้าวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยญาติได้อ่านใบรายงานชันสูตรพลิกศพของ น.ส.กรวิภา มีบาดแผลฟกช้ำ ตามลำตัว เลือดไหลที่เยื้อหุ้มสมอง มีเลือดไหลออกในโพรงสมอง เลือดออกในช่องท้อง และตับฉีกขาด


พ่อกับแม่ของ น.ส.กรวิภา ได้จุดธูปบอกดวงวิญญาณลูกสาว ให้ไปสู่คติ ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อกับแม่ จากนั้นได้รดน้ำศพลูกสาวก่อนนำศพใส่โรงเย็น โดยจะบำเพ็ญกุศล สวดอภิธรรมศพ เพียงแค่ 1 คืน และจะฌาปนกิจเผาศพในวันที่ 11 เม.ย.

นายชูชาติ ดีน้อย ให้การว่า มีอาชีพขับสามล้อเครื่องรับจ้าง มีลูกสาวสองคน ผู้ตายเป็นลูกสาวคนเล็ก ซึ่งได้ไปอยู่กินกับนายเปิ้ล ไม่ทราบชื่อ นามสกุล เป็นสามีภรรยากันมาได้เกือบ 10 ปีที่บ้านปากดง ต.นิคมสงเคราะห์ โดยเมื่อวานนี้ตำรวจได้ติดต่อมาว่าลูกสาวถูกทำร้าย อาการสาหัสมีคนนำมาส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรฯ พอตนเองไปถึงทราบว่าลูกสาว ได้เสียชีวิตเมื่อเช้าวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งตนเองได้พาตำรวจไปตามตัวหาสามีของลูกสาว แต่ก็ไม่พบตัวเชื่อว่าเป็นคนทำร้ายร่างกายลูกสาว แล้วพาลูกสาวมาส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรฯ โดยในตอนนั้น มีชายสองคน ขับรถเก๋ง สีขาว ก่อนอุ้มร่างของลูกสาวลงมาจากรถ โดยได้อ้างว่าเป็นพลเมืองดี สำหรับลูกเขยคนนี้ มีนิสัยออกนักเลง มักซ้อมและทำร่างกายลูกสาวบ่อยครั้ง มาขู่ฆ่าตนเองกับภรรยา หลายครั้ง ซึ่งพกอาวุธปืนมาด้วย บางครั้งลูกสาวหนีมาหาเพราะถูกทำร้ายร่างกาย ไม่นานลูกเขยก็มาตามเอาตัวกลับไป ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ หรือวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ลูกสาวได้มาหาที่บ้าน ซึ่งได้นอนอยู่กับแม่เพียงแค่คืนเดียว สามีของลูกสาว ก็ตามมารับตัวกลับไป ทำให้มั่นใจว่าคนที่ทำร้ายลูกสาว คือลูกเขยรายนี้ อยากให้ตำรวจจับตัวให้ได้ วิญญาณลูกสาว จะได้สงบ  


นางอินทวา ดีน้อย กล่าวว่า มารู้ว่าลูกสาวเสียชีวิตทำให้แทบช็อก เสียใจเป็นอย่างมากไม่คิดว่าลูกสาวต้องมาเป็นแบบนี้ เพราะเคยเตือนลูกสาวอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากสามีของลูกสาวคนนี้ชอบทำร้ายร่างกายลูกสาวเป็นประจำ ตนเองบอกให้เลิกกับเขาแล้วกลับมาอยู่กับแม่ แต่ลูกสาวรักเขามากก็ยังกลับไปอยู่กับเขาเหมือนเดิม ก่อนหน้านี้ด้วยความสงสารลูกสาวเวลาถูกทำร้ายร่างกายเคยพาลูกสาวหลบหนีไปอยู่บ้านญาติ แต่สุดท้ายสามีของลูกสาวก็มาตามเจอ แล้วลูกสาวก็ใจอ่อนกลับไปอยู่กับเขาที่สำคัญสามีของลูกสาวจะไม่ยอมให้เมียใช้โทรศัพท์มือถือ เพื่อไม่ให้ติดต่อใครได้ ถ้าตนเองรู้ว่าเป็นแบบนี้ที่ลูกเขยทำร้ายร่างกายลูกสาวจนเสียชีวิต ตนเองยอมติดคุก ถ้ามีปืน จะเอาไปยิงสามีลูกสาว ดังกล่าว

จากนั้นนายชูชาติ ดีน้อย ได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ในภาพกล้องวงจรปิดมีชาย 2 คน ขับรถเก๋งเข้ามาจอดที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรฯ ในคืนวันที่ 8 เม.ย. เวลา 22.23 น. แล้วได้อุ้มร่าง น.ส.กรวิภา ที่ไม่มีสติลงจากรถ แล้วเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวให้นอนรถเข็น ก่อนไปยังห้องฉุกเฉิน โดยชายสองคนกลับไปขึ้นรถเก๋ง แล้วขับรถออกไป ซึ่งหนึ่งในนั้น มีนายเปิ้ล สามีผู้ตาย เป็นผู้อุ้มร่างภรรยาลงจากรถ ทางตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัว นายเปิ้ล ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัย ที่ทำร้ายร่างกายเมียตัวเอง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย