ทำเนียบฯ 9 เม.ย.- นายกรัฐมนตรี ระบุให้ทุกฝ่ายรอผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจาก กกต. ปัดข้อเสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ไม่ทราบเจตนาผู้เสนอแนวคิด ย้ำให้ไปทำความเข้าใจกฎหมายให้ดี แจงคดี “ธนาธร” ต้องขึ้นศาลทหาร เพราะเกิดในข่วงปี 58 แม้ปัจจุบันจะปลดล็อคคำสั่งแล้ว แต่กฎหมายไม่มีผลย้อนหลัง วอนอย่าขยายประเด็น ให้ต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องกับปัญหาภายในประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้อยากให้ทุกคนมีความสุข เพราะที่ผ่านมาได้พูดคุยกันในหลายเรื่องโดยเฉพาะปัญหาการเมือง วันนี้อยากให้รอการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาและดำเนินกระบวนการในแต่ละประเด็น
ส่วนข้อเสนอของฝ่ายการเมืองในการตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องดูข้อกฎหมาย และข้อบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่สามารถกำหนดกฎกติกาเองได้ แต่ในขณะนี้ ขั้นตอนการประกาศผล และการจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งยังไม่แล้วเสร็จ ดังนั้น จึงไม่ทราบเจตนาของผู้เสนอแนวคิด
“คนออกมาพูดรัฐบาลแห่งชาติ จะเป็นไปได้ยังไง ยังไม่รู้เลย รัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้งเขียนว่าอย่างไร ใช่หรือไม่ รัฐบาลจะมาจากไหน อะไรต่าง ๆ ขั้นตอนยังไม่จบเลย เพราะฉะนั้นก็ไปดูว่าพูดมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการอะไร ก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ใช่ใครนึกอยากจะกำหนดกติกาขึ้นมาใหม่อะไรก็ได้ มันไม่ได้ทั้งหมดหรอก ต้องดูกฎหมาย ทำความเข้าใจกฎหมายให้ดี” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เชิญตัวแทนทูต 12 ประเทศ ร่วมสังเกตการณ์ในการรับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา116 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ ติดตามข้อเท็จจริง ว่าเป็นการเชิญตัวแทนทูตจริงหรือไม่ และการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปตามข้อกฎหมาย และเหตุที่ต้องให้ศาลทหารพิจารณา เนื่องจากคดีเกิดขึ้นในข่วงปี 2558 ซึ่งอยู่ระหว่างการบังคับโดยใช้คำสั่ง คสช. เพราะสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่สงบเรียบร้อย ซึ่งคดีลักษณะดังกล่าว จึงต้องพิจารณาโดยศาลทหาร แม้จะมีการปลดล็อคคำสั่งแล้ว แต่กฎหมายไม่สามารถมีผลย้อนหลังไปเปลี่ยนแปลงกรณีที่เกิดขึ้นได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่าย รอความชัดเจนหลังการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง วันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอน ดำเนินการตามกฎหมาย ขอให้ทุกฝ่ายอย่าขยายประเด็น หรือให้ต่างประเทศต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับปัญหาภายในประเทศ ทุกปัญหาจะต้องใช้กฎหมายไทยในการแก้ปัญหา.-สำนักข่าวไทย