หอการค้าไทยคาดสงกรานต์คึกคักเงินสะพัดกว่า 1.3 แสนล้านบาท

กรุงเทพฯ 9 เม.ย. –  มหาลัยหอการค้าไทยเผยผลสำรวจสงกรานต์ปีนี้คึกคัก เงินสะพัดกว่า 1.3 แสนล้านบาท เน้นท่องเที่ยวจังหวัดใกล้บ้าน เหตุกังวลอากาศร้อนจัดแถมเจอฝุ่น PM2.5   


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2562 ว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ทั่วประเทศเตรียมท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ มากขึ้น เพราะสงกรานต์ปีนี้มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ซึ่งมีกิจกรรมที่จะทำในช่วงเทศกาลสงกรานต์มากสุด คือ ซื้อของ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และเยี่ยมญาติ สังสรรค์ จัดเลี้ยง เล่นน้ำสงกรานต์ ทำอาหารทานที่บ้าน ซึ่งมีแผนการใช้จ่ายทั้งบริโภคและท่องเที่ยว ทำบุญเป็นส่วนมาก

อย่างไรก็ตาม สงกรานต์ปีนี้แม้จะเน้นท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ แต่เสียงส่วนมากยังอยากจะอยู่บ้านเพราะช่วงนี้อากาศร้อนมาก และหากจะไปท่องเที่ยวก็กลัวปัญหาการจราจร จึงจะเน้นท่องเที่ยวใกล้บ้านเป็นหลัก และมองว่าจากปัญหาค่าครองชีพแพงจึงไม่ค่อยกล้าจับจ่ายใช้สอยมากนักส่งผลให้เงินสะพัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ 135,837.56 ล้านบาท เติบโตเพียงร้อยละ 2.76 เมื่อเทียบกับช่วงสงกรานต์ปี 2561 ที่มีอัตราเติบโตถึงร้อยละ 3.50 หรือมีเม็ดเงิน 132,126.87 ล้านบาท ดังนั้น ในช่วงสงกรานต์ปีนี้คนยังไม่มั่นใจเกิดจากปัญหาความไม่แน่นอนการเมืองว่าจะมีรัฐบาลใหม่เกิดขึ้นและชัดเจนเมื่อไหร่ อีกทั้งจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในบางพื้นที่เป็นตัวกระตุ้นที่ไม่อยากไปท่องเที่ยวในจังหวัดที่มีปัญหาอยู่ ส่งผลให้ประชาชนไม่กล้าจะจับจ่ายใช้สอยมากนัก โดยเป็นการใช้แบบระมัดระวัง


นอกจากนี้ บุคคลสำคัญ นักการเมืองที่อยากรดน้ำดำหัว อันดับ 1 คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รองลงมานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายทักษิณ ชินวัตร ส่วนดาราชาย ได้แก่ นายณเดชน์ คูกิมิยะ นายมาริโอ้ เมาเร่อ และบอย ปกรณ์ ดาราหญิง ญาญ่า อุรัสยา เบลล่า ราณี แคมเบล และอั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ โดยพรที่ต้องการ คือ ขอให้เศรษฐกิจก้าวหน้า เจริญรุ่งเรืองมากขึ้น คนไทยรักและสามัคคีกันและความหวังต่อรัฐบาลชุดใหม่ คือ ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ ปัญหาค่าครองชีพ ดูแลสินค้าราคาแพงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

ทั้งนี้ ทางศูนย์ยังคิดว่าแม้รัฐบาลใหม่เพื่อรวมคะแนนเสียงออกมาจะเกินครึ่ง ไม่มีเหตุการณ์ประท้วงตามมาโดยปล่อยให้รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาวางแนวทางของประเทศและมีความสงบ รวมทั้งสงครามการค้าสหรัฐและจีนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือเหตุการณ์ทางยุโรปไม่รุนแรง เชื่อว่าน่าจะส่งผลให้อัตราการเติบโตเศรษฐกิจไทยอยู่ที่ร้อยละ 3.5-4  


ด้านบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2562 ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2562 น่าจะสร้างรายได้สู่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องเป็นมูลค่าประมาณ 28,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2  แบ่งเป็นไทยเที่ยวไทย 12,200 ล้านบาท และต่างชาติเที่ยวไทย 15,800 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองหลายจังหวัดทางภาคเหนือที่อาจทำให้มีการหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และอาจส่งผลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่หากสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้เร็วก็จะเป็นผลดีไม่เพียงต่อประเด็นสุขภาพ แต่รวมถึงตลาดการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

อัญเชิญเรือพระที่นั่งกลับพิพิธภัณฑ์

หลังสร้างความตราตรึงให้กับชาวไทยและคนทั้งโลก กับความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กองทัพเรือ และกรมศิลปากร เริ่มอัญเชิญเรือพระที่นั่ง และเรือพระราชพิธี กลับเข้าสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเรือทุกลำถือเป็นสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน

ย้อนรอยเส้นทางชีวิต “บิ๊กโจ๊ก”

เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่เส้นทางตำรวจของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ต้องยุติลง หลังถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ จากนี้ชะตาชีวิต “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. ว่าจะได้กลับมาสวมชุดตำรวจอีกหรือไม่

“ปานเทพ” เปิดหลักฐานสัญญาชัด 71 ล้านเป็นชื่อ “มาดามอ้อย”

“อ.ปานเทพ” เปิดหลักฐานหนังสือสัญญาบอกชัด 71 ล้านบาท เป็นชื่อ “มาดามอ้อย” เปิด 3 รายชื่อให้เร่งตรวจสอบ หวั่นโยกย้ายทรัพย์สิน