กรุงเทพฯ 29 มี.ค. – ผลการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม พรรคประชาธิปัตย์ที่เคยเป็นพรรคลำดับต้นๆ ถูกลดมาเป็นลำดับ ไม่เพียงต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรคเท่านั้น แต่อนาคตทิศทางพรรคที่จะร่วมรัฐบาลหรือไม่ ก็น่าสนใจไม่ต่างกัน
การประกาศลาออกของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อแสดงความรับผิดชอบที่ไม่สามารถนำ ส.ส.เข้าสู่สภาได้ 100 ที่นั่ง ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็นการพ่ายแพ้ครั้งประวัติศาสตร์ของประชาธิปัตย์ เพราะพื้นที่ภาคใต้ถูกเจาะเกือบทุกจังหวัด กทม.ที่เคยเป็นฐานเสียงสำคัญไม่ได้แม้แต่ที่นั่งเดียว
ผลพวงที่ตามมา คือ ต้องสรรหากรรมการบริหารพรรคใหม่ โดยจะมีการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 24 เมษายน
ขณะนี้มีชื่อหัวหน้าพรรคคนใหม่อย่างน้อย 4 คน คือ นายกรณ์ จาติกวณิช นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการรองหัวหน้าพรรค นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ อดีตแกนนำพรรค และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตรองหัวหน้าพรรค แต่ละคนมีจุดดีจุดด้อยต่างกัน แต่ต้องยอมรับว่า ชื่อทั้ง 4 ไม่ใช่ชื่อที่โดดเด่น จนสามารถสร้างความนิยม สร้างคะแนนให้พรรคได้
ปัญหาเฉพาะหน้าขณะนี้ คือ จุดยืนทางการเมืองของพรรค โดยเฉพาะการตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ทั้งยังมีรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์เสียงแตก เกิดศึกภายใน บางส่วนยังคำนึงถึงจุดยืนที่อดีตหัวหน้าพรรคประกาศไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ส่วนหนึ่งมองว่า การตัดสินใจตอนนี้ควรคำนึงถึงประเทศชาติมากกว่า
จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าไปในทิศทางใด ล้วนมีความอ่อนไหว การตัดสินใจต้องรอบคอบ และคำนึงถึงศักดิ์ศรีของพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในการเมืองไทย. – สำนักข่าวไทย