fbpx

ผอ.โรงเรียนชื่อดัง ติดป้ายไม่รับฝากเด็ก

เชียงใหม่ 29 มี.ค.-ผอ.โรงเรียนชื่อดังเมืองเชียงใหม่ ติดป้าย “ไม่รับฝากนักเรียน” หวังเตือนสติผู้ปกครอง เปิดสอบแข่งขันเข้าเรียน 30-31 มีนาคมนี้ 



นายบุญเสริญ สุริยา ผู้อำนวยการโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ติดป้ายขนาดใหญ่บริเวณทางเข้าประตูโรงเรียน มีข้อความว่าทางโรงเรียนไม่มีนโยบายรับฝากเรียน เพื่อเตือนสติผู้ปกครอง ซึ่งช่วงการสอบแข่งขันเข้าเรียน จะมีบุคคลที่รู้จักหรือผู้ปกครองมาขอฝากบุตรหลานเข้าเรียนต่อ ทำให้ลำบากใจ โดยได้ชี้แจงกับผู้ปกครองว่า ไม่มีสิ่งพิเศษอื่นๆ ที่จะให้บุตรหลานของท่านเข้าเรียนได้ นอกเหนือจากอ่านหนังสือค้นคว้า และผ่านการสอบวัดประเมินผลของโรงเรียน จึงจะเข้าเรียนต่อได้ และปีนี้จะมีการติดรายชื่อนักเรียนทุกคนที่สมัครสอบ แต่จะไม่บอกคะแนน เพื่อความเสมอภาคของทุกคน 


แต่ก็มีเงื่อนไขพิเศษ ที่จะสามารถรับนักเรียนฝากได้ ตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา2562 การรับนักเรียน ที่มีเงื่อนไขพิเศษ เพื่อประโยชน์ของการศึกษา และผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ มีหลักเกณฑ์ 4 ข้อ ได้แก่ 

ข้อ 1 นักเรียนที่อยู่ในอุปการะของผู้บริจาคที่ดินและสิ่งก่อสร้างเพื่อจัดตั้งโรงเรียน


ข้อ 2 นักเรียนที่เป็นผู้ยากไร้และด้อยโอกาส

ข้อ 3 นักเรียนที่เป็นบุตรผู้เสียสละเพื่อชาติหรือผู้ประสบภัยพิบัติที่ต้องได้รับการสงเคราะห์ดูแลพิเศษ 

ข้อ 4 นักเรียนที่เป็นบุตรข้าราชการครูและบุคลากรของโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย        

สำหรับโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย เป็นโรงเรียนรัฐบาลที่ผู้ปกครองอยากให้บุตรหลานได้เข้าเรียนต่อ ทำให้มีนักเรียนมาสมัครสอบเข้าเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวนมาก จนต้องมีการสอบแข่งขันและประเมินผลการเรียน ปีนี้เปิดรับสอน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 510 คน และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 อีก 740 คน แต่มีผู้สมัครเกินจำนวนที่รับ ขณะที่มีการสอบแข่งขันเข้าเรียน 30-31 มีนาคมนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้