กรุงเทพฯ 29 มี.ค. – สศอ.จับมือสถาบันสิ่งทอพัฒนาผู้ผลิตสิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์ หนุนจับคู่ธุรกิจกับสถานพยาบาลผลิตสินค้าป้อน ปี 61 ส่งออกเกือบ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โตร้อยละ 7
นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ทิศทางและทางรอดของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยต้องเน้นไปที่การผลิตสินค้าใหม่ ๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรม สิ่งทอเทคนิคที่ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ผลิตกลุ่มนี้ 553 ราย กระจายอยู่ในกลุ่มสิ่งทอเทคนิคสำคัญโดยเฉพาะสิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพสูงทางการตลาดและมีสัดส่วนกำไรสูง สามารถส่งเสริมและพัฒนาให้เกิดการลงทุนในประเทศไทย ซึ่ง สศอ.และสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ สนับสนุนให้ผู้ผลิตพบกับผู้ต้องการใช้สิ่งทอเทคนิคการแพทย์ เพื่อผลิตได้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ต่อไป
สำหรับสินค้ากลุ่มนี้มีความต้องการทั้งชุดเสื้อกาวน์ผ่าตัดปลอดเชื้อประเภทใช้แล้วทิ้ง (Disposable gown) ถุงมือ หมวกคลุมศีรษะ ที่คลุมรองเท้า หน้ากากอนามัย ถุงบรรจุวัสดุ Disposal ผ้าม่าน ผ้าบังเตียงแบบ Self-cleaning ในห้องผ่าตัด ผ้าปูเตียงผู้ป่วยที่สามารถลดการเกิดแผลกดทับ และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีกว่าสิ่งทอทั่วไป สอดคล้องกับกระแสการดูแลรักษาสุขภาพที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากรายงาน Global Healthcare Industry Outlook 2018 ระบุว่าปี 2561 Healthcare Industry มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 จากปีก่อนสอดคล้องกับการคาดการณ์ของ Global Health Care Outlook ที่ประมาณการมูลค่าตลาดอุตสาหกรรมดูแลรักษาสุขภาพของโลกว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 4.1 ต่อปี ในช่วงปี 2560-2564 โดยมีปัจจัยสำคัญ คือ จำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่น เยอรมนี และอิตาลี และปัจจุบันสิงคโปร์และไทยขยับเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว ขณะที่กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนเริ่มมีแนวโน้มดังกล่าว
ประกอบกับประเทศไทยถูกจัดเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ผู้ป่วยชาวต่างชาติให้การยอมรับอย่างกว้างขวางด้านการบริการรักษาสุขภาพที่มีคุณภาพสูง โดยปี 2560 มีชาวต่างชาติเข้ารับการรักษาพยาบาลในไทยมากถึง 4.4 ล้านคน สะท้อนถึงศักยภาพและโอกาสของผู้ประกอบการธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่จะเชื่อมโยงสู่ตลาดใหม่ในธุรกิจการแพทย์ที่ครบวงจรตามนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub) เป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต หรือ New S-curve ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยต่อยอดจากธุรกิจการรักษาพยาบาล และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ประเทศไทยมีฐานเดิมที่แข็งแรงไปสู่การยกระดับการให้บริการคุณภาพสูง และการผลิตวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์สมัยใหม่ ส่งผลให้สิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์ หรือ Medical textiles สามารถตอบโจทย์การพัฒนาอุตสาหกรรมอนาคตใหม่ได้
นายชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า สถาบันฯ ส่งเสริมการเชื่อมต่อความต้องการระหว่างผู้ผลิต ผู้พัฒนาเทคโนโลยี ผู้จัดจำหน่าย และผู้ต้องการใช้สิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์ ให้พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์ที่ตรงตามความต้องการใช้งาน ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยสู่ผลิตภัณฑ์สิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์แบบครบวงจรลักษณะสิ่งทอสมัยใหม่ที่มีความหลากหลาย แตกต่างจากคู่แข่ง และผลิตโดยคนไทย โดยคาดว่าในอนาคตการลงทุนอุตสาหกรรมสิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์จะมีมูลค่าเติบโตและเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ประเทศไทยส่งออกสิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์ปี 2561 มีมูลค่ารวม 59.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเพิ่มร้อยละ 7.0 สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกอันดับต้น คือ ผ้าพันแผลผ้าก๊อซ ของใช้เพื่อการอนามัยที่ทำด้วยแผ่นเยื่อของเส้นใยเซลลูโลส และเอ็นเย็บแผล ตามลำดับ นอกจากนี้ ตลาดในประเทศยังมีการเติบโตที่ดีมาก ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในการยกระดับสู่อุตสาหกรรมอนาคต.-สำนักข่าวไทย