fbpx

ตร.เร่งรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับมือฆ่าหนุ่มพัทลุงยัดถังโบกปูนฝังดิน

กทม. 28 มี.ค.-ตำรวจเร่งรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับมือฆ่าหนุ่มพัทลุงยัดถังโปกปูนฝังดิน ล่าสุดทราบเบาะแสแล้ว ร่องรอยสุดท้ายไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่ จ.พัทลุง  


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีพบศพชายถูกฆาตกรรมยัดถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร และโบกปูนปิดทับไว้บริเวณฝาถังฝังอยู่ใต้ดิน ใกล้บึงน้ำหลังร้านอาหารย่านถนนเทพรักษ์ แขวงท่าแร้ง พื้นที่ สน.บางเขน ว่าทราบชื่อคือ นายอัชฌา หนูปทุม อายุ 38 ปี จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายทำงานอยู่ที่ร้านวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งในเขตบางเขน ออกจากบ้านมาทำงานตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาทางญาติเข้าร้องทุกข์กับ กก.1.บก.ป. ให้ช่วยติดตามตัว กระทั่งเมื่อวันที่ 26 มี.ค. มีผู้พบเห็นคนนำสิ่งของใส่ถังน้ำมันมาทิ้งบริเวณใกล้ร้านวัสดุก่อสร้างที่ผู้ตายทำงานอยู่

ภายหลังหายตัวไปตำรวจจึงเข้าตรวจสอบ กระทั่งพบว่าถูกฆาตกรรม ล่าสุดทราบเบาะแสของผู้ต้องสงสัยแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับ คือนายประยูน แก้วพยศ ที่หายตัวไป โดยมีร่องรอยสุดท้ายคือไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่ จ.พัทลุง นอกจากนี้ยังมีคนงานในร้านอีก 1 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย


ด้าน พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า เตรียมออกหมายจับ 2 คน คือ นายประยู หรือจุ๊บ แก้วพยศ อายุ 48 ปี ผู้ดูแลร้านวัสดุก่อสร้าง ที่หายตัวไป และลูกจ้างผู้ร่วมก่อเหตุ ในข้อหาร่วมกันฆ่าโดยเจตนา และซ่อนเร้นอำพรางศพ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติออกหมายจับ

จากการสืบสวนพบว่ายังหลบหนีอยู่ภายในประเทศ ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวทั้งคู่ โดยได้ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ ส่วนสาเหตุมาจากเรื่องความหึงหวงอดีตเพื่อนร่วมงานในร้านค้าวัสดุ ส่วนสถานที่ก่อเหตุฆาตกรรมคาดว่าภายร้านวัสดุก่อสร้างที่ผู้ตายทำงานอยู่ ก่อนนำศพไปฝังบริเวณป่ากกหลังร้านอาหาร ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 1 เมตร มั่นใจพยานหลักฐานสามารถเอาผิดได้

ส่วนการทำสำนวนคดี ตอนนี้สอบปากคำพยานไปแล้ว 6 ปาก เป็นเพื่อนผู้เสียชีวิต 2 คน และเป็นคนงานร้านอาหารที่ช่วยยกถังไปฝังอีก 4 คน ซึ่งต่างให้ข้อมูลว่าเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา มีคนมาขอให้ช่วยยกถังน้ำมัน แต่ไม่รู้ว่าข้างในมีศพซ่อนอยู่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

ดีเดย์ 29 เม.ย. ส่งกากแคดเมียมกลับคืนบ่อฝังกลบ

ดีเดย์ 29 เม.ย. ส่งกากแคดเมียมกลับคืนบ่อฝังกลบเที่ยวแรก 270 ตัน “พิมพ์ภัทรา” ลงพื้นที่สมุทรสาคร คุมหน้างานด้วยตัวเอง ย้ำต้องปลอดภัยได้มาตรฐานตลอดเส้นทาง

“ภูมิธรรม” ปลื้ม “กล้วยหอมทอง” โคราชส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม

รมว.พาณิชย์ ปลื้ม “กล้วยหอมทอง” โคราช ส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม สั่งทีมพาณิชย์เร่งส่งออกสินค้าเกษตร ช่วยชาวสวนไทยมีรายได้ยั่งยืน

ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 44 องศาฯ

กรมอุตุฯ รายงานทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด ภาคอีสาน สูงสุด 44 องศาฯ แนะเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่