อภ.เดินหน้าแผน 3 ระยะ วิจัย พัฒนา ผลิตวัคซีนและชีววัตถุ

อภ.22 มี.ค..-อภ.เดินหน้าแผน 3 ระยะ วิจัย พัฒนา การผลิตวัคซีนและชีววัตถุ  ตั้งเป้าเป็นองค์กรหลักสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ และเป็นหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน   คาดปีนี้จะสามารถผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด3สายพันธุ์โดยใช้เทคโนโลยีไข่ไก่ฟัก


 นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม(อภ.) เปิดเผยถึงแผนการวิจัย พัฒนาการผลิตวัคซีนและชีววัตถุขององค์การเภสัชกรรม ว่า องค์การฯ มีภารกิจ วิจัยพัฒนา ผลิต จัดหา และกระจาย วัคซีนและชีววัตถุ ตอบสนองความต้องการให้กับหน่วยงานของรัฐ และเป็นองค์กรหลักทำหน้าที่สร้างความมั่นคงด้านวัคซีนและชีววัตถุให้กับประเทศ รวมถึงสนองนโยบายแห่งชาติด้านวัคซีน และสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในการพัฒนางานทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) และส่งเสริมสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการสร้างระบบเครือข่ายการพัฒนางานทางด้านวัคซีนของประเทศไทย ให้มีเอกภาพตามพระราชบัญญัติความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ.2561 และขับเคลื่อนให้องค์การฯ เป็นหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน ที่มีโรงงานผลิตชีวเภสัชภัณฑ์(Biopharmaceutical) จึงได้แผนงาน 3 ระยะ  ดังนี้ 


แผนระยะสั้น แผนการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด3สายพันธุ์โดยใช้เทคโนโลยีไข่ไก่ฟัก ที่โรงงานผลิตวัคซีน ชีววัตถุ ตำบลทับกวาง จังหวัดสระบุรี องค์การฯ จะเร่งดำเนินการผลิตวัคซีนชนิดแรกให้แล้วเสร็จ ภายในปี 2562 เพื่อนำไปใช้ในการศึกษาทางคลินิกในระยะที่ 3 (Clinical Trial Phase 3 ) เมื่อผลการศึกษาผ่าน จะดำเนินการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เพื่อดำเนินการผลิตในระดับอุตสาหกรรมต่อไป

พร้อมกันนั้นได้มีการดำเนินการเตรียมการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ คู่ขนานไปด้วยกัน    ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการวิจัยพัฒนาที่สถาบันวิจัยขององค์การฯ โดยเห็นว่าแนวโน้มการใช้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ในอนาคตจะเปลี่ยนเป็นชนิด 4 สายพันธุ์ ดังนั้นจึงต้องมีการวิจัยพัฒนาเพื่อรองรับอนาคต ส่วนการเตรียมการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพื่อรองรับการระบาดองค์การฯ จะร่วมมือกับเครือข่าย หรือ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ              เพื่อประสานความร่วมมือในเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นความมั่นคงของประเทศโดยรวม และพร้อมได้มีแผนเฝ้าระวังเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด H9N2 อย่างใกล้ชิด

แผนระยะกลาง แผนการพัฒนาการผลิตวัคซีนปลายน้ำ (Downstream process) ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ไม่ได้เริ่มจากการพัฒนาเชื้อตั้งต้นโดยองค์การฯ แต่เป็นการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการเก็บเกี่ยวเชื้อ และทำให้บริสุทธิ์เรียบร้อยแล้วรอการผสมและบรรจุ (Bulk) มาทำการบรรจุที่องค์การฯ ซึ่งจะทำให้ร่นระยะเวลาในการผลิตได้เร็วขึ้น ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ปี ก็จะสามารถออกผลิตภัณฑ์วัคซีนได้ โดยในเบื้องต้นองค์การฯ มีแผนที่จะทำการบรรจุที่ โรงงานผลิตวัคซีน ชีววัตถุ ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี  


  ส่วนแผนระยะยาว นั้น ได้มีการจัดทำแผนการวิจัย พัฒนา การผลิตวัคซีนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ    โดยกระบวนการผลิตที่เริ่มตั้งแต่การเพาะเลี้ยงเชื้อตั้งต้นในการผลิตจนสามารถทำการเก็บเกี่ยวมาทำให้บริสุทธิ์ ผสม กรอง และบรรจุขวดออกมาเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 8 – 15 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้ เมื่อมีการระบาดหรือขาดแคลนวัคซีน เพราะองค์การฯ สามารถผลิตวัคซีนได้เอง ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ   สำหรับผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในขั้นตอนการวิจัยพัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ แบ่งออกเป็นกลุ่มได้ดังนี้  กลุ่มที่ 1   การวิจัยพัฒนาการผลิตวัคซีนจากเชื้อไวรัสโดยใช้เทคโนโลยีการผลิตวัคซีนจากเซลล์เพาะเลี้ยง (Cell based)  และการผลิตวัคซีนจากพืช (Plant based)  กลุ่มที่  2 การวิจัยพัฒนาการผลิตวัคซีนจากเชื้อแบคทีเรีย กลุ่มที่ 3 การวิจัยพัฒนาวัคซีนเพื่อรองรับกรณีมีการระบาดภายในประเทศ กลุ่มที่ 4 การพัฒนาการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่โดยใช้เทคโนโลยีไข่ไก่ฟักชนิด 4 สายพันธุ์

 

โดยองค์การฯ มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศของภูมิภาคอาเซียนที่มีโรงงานผลิตชีวเภสัชภัณฑ์ (Biopharma) ในอนาคต   พร้อมกันนั้นจะมีการนำเทคโนโลยีด้านวัคซีนใหม่ๆ มาใช้  มีการศึกษาติดตาม ทิศทางการใช้วัคซีนในอนาคตอย่างใกล้ชิด                   เช่น แนวโน้มการใช้วัคซีนชนิด 1 โด๊สต่อขวด (Single dose vaccine) เป็นต้น รวมถึงให้ความสำคัญกับงานด้านสัตว์ทดลองในการพัฒนาให้ได้รับมาตรฐานสากล  และหาแนวทางลดต้นทุนการผลิตและการแข่งขันด้านราคา   ด้วยการผลิตในปริมาณมากๆ ด้วยขยายความต้องการใช้ในตลาดต่างประเทศให้ตลาดมีขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากตลาดภายในประเทศค่อนข้างเล็ก การดำเนินงานตามแผนงานและแนวทางต่างๆ นี้องค์การฯ                 ไม่สามารถสามารถดำเนินการแต่ผู้เดียว จึงได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทุกภาคส่วน  อาทิ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กรมควบคุมโรค ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์กรมหาชน) หรือ TCELS  สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)  สภากาชาดไทย  รวมถึงมหาวิทยาลัยและสถาบันต่างๆ ร่วมให้ข้อคิดเห็นและสนับสนุน เพื่อให้การขับเคลื่อนไปสู่ความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

คุมตัวโจรมาเลย์ชิงทอง 138 บาท ทำแผนฯ

ตำรวจคุมตัวโจรมาเลย์ชิงทอง 138 บาท ในพื้นที่หาดใหญ่ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พบประวัติสุดแสบ ปล้นฆ่าที่มาเลเซียตั้งแต่อายุ 17 ยังหนีมาก่อเหตุซ้ำที่ไทยอีกหลายครั้ง

นายกฯ ขึ้น ฮ. ดูสภาพจราจรเดินทางสงกรานต์

นายกฯ ขึ้น ฮ. บินดูสภาพจราจร ถ.มิตรภาพ-เส้นทางขึ้นเหนือ-ลงใต้ เตรียมพร้อมประชาชนเดินทางกลับบ้านสงกรานต์ พร้อมตรวจคืบหน้าก่อสร้างทางด่วนพระราม 2 มั่นใจเปิดใช้เต็มรูปแบบ ปลายปี 68 ขณะ “สุริยะ” ยันปลอดภัย ไม่มีของตกหล่น สั่งหยุดก่อสร้างตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้แทน สตง.แจงยิบสร้างตึก สตง. ยันเหล็ก-ปูนมีมาตรฐาน

กมธ.ติดตามงบฯ ถกโครงการสร้างตึก สตง.แห่งใหม่ ด้าน ‘ผู้แทน สตง.’ แจงยิบปรับสัญญาถึง 14 มิ.ย.นี้ ทั้งที่การสร้างต้องเสร็จ 31 ธ.ค.66 ยัน เหล็ก-ปูนมีมาตรฐาน ลั่นเดินหน้าสร้างต่อ แต่ปรับรูปแบบไม่สูง-ทับที่ตึกเก่า ใช้งบที่เหลือสร้าง