“อุตตม” ประกาศ พปชร.เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลแน่

กรุงเทพฯ 22 มี.ค.-  “อุตตม” ประกาศ พปชร.เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลแน่ ประเมินเบื้องต้นได้ 150 เก้าอี้ มั่นใจรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งของสภา ระบุ กติการ่วมรัฐบาลมีแค่ ต้องมีอุดมการณ์ในการทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ


 นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  ประกาศบนเวทีปราศรัย ที่ จ.ชลบุรี วานนี้ (21 มี.ค.) ว่า จากการประเมินคะแนนหลายทาง ทั้งจากพื้นที่และคะแนนภาพรวม ในช่วง 3 วันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม พบว่า พรรคพลังประชารัฐกระแสตอบรับดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินคะแนนที่ได้รับเบื้องต้น  คาดว่าจะทำให้ได้ ส.ส.เข้าสภามากถึง 140 -150 ที่นั่ง  

“ทำให้พรรคมั่นใจว่า พรรคมีโอกาสมากต่อบทบาทผู้นำจัดตั้งรัฐบาล และในทางปฏิบัติ การฟอร์มตั้งรัฐบาลทุกสมัยที่ผ่านมา คือ พรรคที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้  พรรคมั่นใจว่าจะสามารถรวบรวบเสียงให้ได้มากกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ที่มี 500 เสียง คือ  250 เสียงได้แน่นอน” นายอุตตม กล่าว


อย่างไรก็ตาม นายอุตตม กล่าวว่า ขณะนี้พรรคยังไม่มองพรรคการเมืองใดเป็นพิเศษ หรืออยู่ในโควต้าที่จะร่วมรัฐบาล  ต้องรอดูผลการเลือกตั้ง วันที่ 24 มีนาคมก่อน และเมื่อรับทราบถึงผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ พรรคจึงจะหารือต่อการรวบเสียงจัดตั้งรัฐบาลต่อไป

“พรรคพลังประชารัฐจะแตะมือกับใคร ขึ้นอยู่กับเสียงที่ได้ แต่ตอนนี้ภาพเริ่มชัดเจน จากแนวทางการนำเสนอนโยบายของหลายพรรค  พรรคมีจุดยืนต่อการร่วมรัฐบาลเพียงสิ่งเดียว คือ มีอุดมการณ์เดียวกันต่อการทำงานเพื่อสร้างและทำประโยชน์เพื่อประชาชนได้อย่างแท้จริง ภายใต้กติกาของรัฐธรรมนูญ เพื่อปฏิรูปประเทศ ส่วนพรรคไหนที่มีพฤติกรรมที่ทำผิดกฎหมาย ผิดกติกา หรือ มีพฤติกรรมขัดกับธรรมเนียมของสังคม  พรรคจะไม่พิจารณาร่วมทำงานด้วย” นายอุตตม กล่าว    

นายอุตตม ยังกล่าวถึง กรณีที่คนตั้งข้อสังเกตว่า พรรคพลังประชารัฐจะร่วมทำงานกับพรรคเพื่อไทย หรือ พรรคอนาคตใหม่ ที่ประกาศไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของได้หรือไม่ ว่า ไม่ต้องการให้ทุกพรรคการเมืองสร้างเงื่อนไขใดๆ ในทางการเมือง และทุกพรรคควรเน้นเรื่องนำเสนอนโยบายให้ประชาชนตัดสินใจก่อนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง วันที่ 24 มีนาคม ว่าควรใช้สิทธิลงคะแนนเลือกพรรคไหน ที่นำเสนอนนโยบายซึ่งเป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด


 “ผมไม่อยากให้ทุกพรรคเน้นว่าจะร่วมมือ หรือร่วมงานกันใคร หรือพรรคไหนได้หรือไม่ เพราะยังไม่ถึงเวลา เพราะสิ่งที่ประชาชนคาดหวังที่สุดตอนนี้ คือ คนที่มีศักยภาพเข้าไปทำงานเพื่อประเทศ และแก้ปัญหาให้ประชาชนได้อย่างแท้จริง ซึ่ง พรรคพลังประชารัฐเชื่อมั่นในศักยภาพว่าเป็นพรรคการเมืองเดียวที่เหมาะกับความต้องการของประชาชน” นายอุตตม กล่าว    ..- สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข