รร.ดัง เผยมีผู้ปกครองเสนอเงินบริจาค สูงถึง1 ล้าน แลกที่นั่งเรียนบุตรหลาน

กทม.18 มี.ค.-ผอ.รร.เตรียมอุดมศึกษา เผยมีผู้ปกครองกว่า 200 ราย ยื่นความจำนงบริจาคเงินตั้งแต่ 5 แสนบาทถึง 1 ล้านบาท เพื่อแลกที่นั่งให้บุตรหลานเข้าเรียน ขณะที่ตรวจสอบย้อนหลัง พบรถตู้ 2 คันไม่มีทะเบียน คาดเป็นรถตู้สินบนแป๊ะเจี๊ยะแลกบุตรในช่วง 2 ปีก่อน ฝากย้ำ ผอ.และผู้ปกครอง รับไม่ได้ มีความผิดอาญา


นายธนารัชต์ สมคเณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.)เขต 1 กรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการรับนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เขตปทุมวัน หลังเปิดสอบคัดเลือกรับนักเรียนชั้น ม.4 ปีการศึกษา 2562 ซึ่งจัดสอบเร็วกว่าโรงเรียนอื่น 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเเละมีการมอบตัวนักเรียนที่สอบผ่านไปเสร็จสิ้นเเล้วเมื่อวานนี้ (17มี.ค.)ว่า จากการติดตามเเละพูดคุยกับผู้บริหารโรงเรียน พบมีผู้ปกครองราว 300 คนมาฝากบุตรหลานที่สอบเข้าเรียนต่อไม่ได้ โดยเดินทางมาเเจ้งความจำนงขอบริจาคเงินตั้งแต่ 500,000-1,000,000 บาท มากสุด 5 ล้านบาทหรือบริจาคเป็นสิ่งของ 


ขณะเดียวกัน เมื่อตรวจสอบย้อนหลังไปเมื่อ 2ปีที่แล้ว มีผู้ปกครองนำรถตู้ 2 คันมาจอดไว้ที่โรงเรียน ซึ่งคาดว่าเป็นสินบนแป๊ะเจี๊ยะเพื่อฝากบุตรเข้าเรียนต่อในยุคผู้อำนวยการโรงเรียนคนก่อนหน้านี้ ตนจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน เพื่อคืนรถตู้ เนื่องจากรถไม่มีทะเบียนเเละกระบวนการได้รถมาไม่ถูกต้อง และสพฐ.เตรียมหารือนิติกรเพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับกรณีเป็นการย้อนหลังได้อย่างไรบ้าง


นายธนารัชต์ กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดสพม.1 ที่มีกว่า 67 โรงเรียน  ขณะนี้ยังไม่พบการรับแป๊ะเจี๊ยะ เนื่องจากจะเริ่มรับนักเรียนในช่วงปลายเดือนนี้ไปจนถึงเดือนหน้า ซึ่งตนได้กำชับทุกโรงเรียนเเล้ว ห้ามรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษที่ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ 4 ข้อ ได้แก่ 1.นักเรียนที่อยู่ในความอนุเคราะห์ของผู้บริจาคที่ดินเพื่อจัดตั้งโรงเรียน เนื่องจากเป็นข้อผูกพันเดิมของโรงเรียน 2.นักเรียนที่เป็นผู้ยากไร้และด้อยโอกาส 3.นักเรียนที่เป็นบุตรผู้เสียสละเพื่อชาติหรือผู้ประสบภัยพิบัติ ที่ต้องการได้รับการสงเคราะห์ดูแลเป็นพิเศษ และ4.นักเรียนที่เป็นบุตรราชการครูและบุคลากรของโรงเรียน ภายหลังกระทรวงศึกษาธิการมีการปรับลดเงื่อนไขพิเศษจากเดิม 7 ข้อ จะไม่มีการรับเด็กฝาก ทุกขั้นตอนต้องโปร่งใสเเละใครก็ช่วยไม่ได้ ซึ่งหากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมายอาญาของ ป.ป.ช. คำสั่งของกระทรวงศึกษาธิการเเละกฎหมายบ้านเมือง

ด้านนายโสภณ กมล ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กล่าวว่า ปีนี้โรงเรียนเปิดรับสมัครเด็ก 1,520 คน เเต่มีมอบตัว 1,306 คน ในจำนวนนี้รวมถึงนักเรียนที่อยู่ในเงื่อนไขพิเศษที่สมัครตั้งแต่วันที่ 26-27 ก.พ.2562  ที่ผ่านมา ซึ่งทุกคนต้องสอบคัดเลือกด้วยและจะประกาศผลวันนี้(18มี.ค.)และจะเหลือที่นั่งว่าง 214 ที่ ทำให้เป็นช่องที่ทำให้ผู้ปกครองเข้าใจว่า สามารถฝากบุตรหลานได้ ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้ โดยคืนนี้จะประกาศรายชื่อนักเรียนที่ติดสำรอง ซึ่งจะเรียงตามลำดับคะเเนน เเต่ไม่ประกาศคะแนน 214 คน เเละให้มอบตัววันที่ 20 มี.ค.นี้ หากมามอบตัวไม่ครบก็จะเรียกลำดับต่อไปเรื่อยๆ เเต่คาดว่าจะเสร็จกระบวนการการรับนักเรียนภายในเดือนนี้

นายโสภณ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องรถตู้นั้น ตนไม่ทราบเรื่อง จนกระทั่งสพม.เขต 1 กทม.ประสานขอใช้รถ จึงได้แจ้งว่ารถตู้ 2 คันไม่ใช่รถโรงเรียนและรถก็ไม่มีเอกสาร ไม่มีทะเบียน คงให้เขตพื้นที่ฯยืมไม่ได้ไม่มีใบเสียภาษีใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อสอบถามรอง ผอ.สถานศึกษา ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปของรถ 2 คันนี้ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทราบว่ารถ 1ใน 2 คันได้รับมาในวันที่ 6 มิ.ย.2560 ซึ่งเป็นช่วงหลังรับนักเรียนแล้ว ส่วนอีกคันยังไม่รู้ซึ่งตนมารับตำแหน่งได้เพียง 5 เดือน พอมาเห็นแบบนี้ก็ตกใจจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวันว่าควรทำอย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกจะช่วยตรวจสอบที่มาที่ไปให้ พร้อมให้คำแนะนำว่าให้นำรถตู้ 2 คันไปไว้ที่สน.ปทุมวัน ดีกว่าและเพื่อให้เกิดความชัดเจน  ตนได้ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงว่ารถตู้ทั้ง 2 คันมีที่มาที่ไปอย่างไร โดยมีรอง ผอ.โรงเรียนเป็นประธาน คาดว่าใช้เวลาไม่นาน และจะรายงาน สพฐ. 

ขณะที่การบริจาคเงินของผู้ปกครองเพื่อแลกให้บุตรหลานได้เข้าเรียนมีมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นโรงเรียนที่มีการเเข่งขันสูง โดยเฉพาะหลังจากประกาศผล บางคนเดินทางเข้ามาพบเเละนำเงินมาวางให้ทันที ขณะที่ทราบว่าเเต่ละปีก็มีผู้ปกครองเดินทางมาฝากบุตรหลานเฉลี่ย200 รายต่อปี 

ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายมีการประชุมคณะกรรมการรับนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เพื่อติดตามความคืบหน้าการรับนักเรียน โดยมีผู้บริหารโรงเรียนเเละเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงป.ป.ช.มาร่วมประชุมด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

สิ้นตำนานเจ้าแม่รถทัวร์แห่งเมืองย่าโม

กรุงเทพฯ 28 ก.ย.- อาลัย “เจ๊เกียว” สิ้นตำนานเจ้าแม่รถทัวร์แห่งเมืองย่าโม เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี ครอบครัวเชิดชัย แจ้งว่า นางสุจินดา เชิดชัย หรือ “เจ๊เกียว” เจ้าแม่รถทัวร์เมืองไทย เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี เจ๊เกียว เกิดเมื่อ 20 มีนาคม 2480 ณ จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันที่ 27 ก.ย.68 ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ กทม. ด้วยอาการชรา ประกอบกับอายุมาก มีโรคประจำตัวหลายโรค เจ๊เกียว เป็นลูกคนที่ 6 ของครอบครัว เป็นเด็กเรียนดี สอบได้ที่ 1 มาตลอด ครอบครัวมีกำลังให้เรียน ป.4 เจ๊เกียว ตั้งปณิธานกับตัวเอง “จะต้องรวยกว่าแม่ให้ได้” จึงกลายเป็นแรงผลักดัน ตลอดเส้นทางดำเนินชีวิต นับว่า เจ๊เกียว มีประวัติสู้ชีวิตตั้งแต่เด็กๆ หลังออกจากโรงเรียน […]

ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี เลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ คนทยอยใช้สิทธิ

ศรีสะเกษ 28 ก.ย.- ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี ประชาชนทยอยใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 คึกคัก เผยแม้กังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แต่อยากออกมาใช้สิทธิในฐานะคนไทย ด้านเลขาฯ กกต. ระบุตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเวลาเปิดหีบ ยังไม่พบสิ่งบ่งชี้เหตุฉุกเฉิน -สำนักข่าวไทย