อุดรธานี 14 มี.ค.- อุทาหรณ์! สาวใส่หูฟัง เล่นมือถือ ถูกเครนล้มทับเสียชีวิต เพราะไม่ได้ยินเสียงที่คนตะโกนให้วิ่งหนี
ที่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 7 บ้านกิ่ว ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ชาวบ้านช่วยกันเตรียมอาหาร ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ น.ส.อัญชลี หรือมิ้นต์ แก้วชิน อายุ 23 ปี ลูกจ้างบริษัทรับเหมาปลูกต้นไม้ ซึ่งถูกเครนรถหกล้อยกต้นไม้ล้มทับเสียชีวิต ที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่งใน อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เนื่องจากน๊อตยึดเครนกับตัวถังรถขาดหลุดออก และล้มลงมาทับนางสาวอัญชลี ที่ยืนรอปลูกต้นไม้ จนกะโหลกแตก คอหัก แขนและขาหัก เสียชีวิตคาที่ ท่ามกลางความตกใจของเพื่อนร่วมงาน
นายสุริยา แก้วชิน พ่อผู้ตาย ที่เพิ่งกลับมาจากวัด และเตรียมสถานที่สำหรับพระสงฆ์สวดมนต์เย็น เล่าว่าได้ฌาปนกิจบุตรสาวตั้งแต่เย็นวานนี้แล้ว โดย น.ส.อัญชลี เป็นลูกคนแรก เคยแต่งงานแต่หย่าร้างและไม่มีลูก ทั้งเป็นเสาหลักของบ้าน ออกไปทำงานเก็บเงินสร้างบ้านให้ครอบครัว ล่าสุดไปทำงานที่บริษัทเพชรพันธุ์ไม้ รับจัดสวนให้สนามกอล์ฟที่เกิดเหตุ โดยพักอยู่ที่บริษัท และจะกลับมาบ้านในวันหยุด ก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวได้โทรศัพท์มาบอกว่าจะกลับมาบ้านเย็นวันที่ 16 มีนาคม เพื่อเอาเงินมาให้พ่อ แต่ช่วงเที่ยงวานนี้ นายจ้างโทรศัพท์มาบอกว่าลูกสาวเกิดอุบัติเหตุถูกเครนทับเสียชีวิต จึงรีบเดินทางไปดูศพ ทั้งสอบถามเพื่อนลูกสาวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ทราบว่า ขณะกำลังใช้เครนยกต้นไม้ เพื่อนำไปลงหลุมปลูก บุตรสาวยืนรออยู่ที่หลุมปลูกต้นไม้ห่างจากเครนประมาณ 5 เมตร แต่ปรากฏว่าน๊อตยึดเครนกับตัวถังรถขาดหลุดออก ทำให้เครนล้มลงด้านขวา คนขับได้ร้องตะโกนบอกคนงานที่ยืนอยู่ใกล้บริเวณนั้นให้หลบ แต่บุตรสาวใส่หูฟัง ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือ ทำให้ไม่ได้ยิน จึงถูกเครนล้มฟาดศีรษะจนล้มลงกับพื้นเสียชีวิตคาที่ หลังเกิดเหตุได้รับศพบุตรสาวกลับบ้าน และจัดพิธีฌาปนกิจทันทีภายในวันเดียว เพราะเป็นจารีตประเพณีของหมู่บ้าน ที่ไม่ให้นำศพที่ตายผิดธรรมชาติ หรือเรียกว่าตายโหงเข้าบ้าน ให้นำไปฝังที่ป่าช้าหรือเผาที่วัดทันที เพราะเชื่อว่าจะมีการตายต่อเนื่อง เมื่อก่อนนำไปฝังที่ป่าช้า แต่หลังมีการลักกะโหลกผีตายโหง จึงได้หันมาฌาปนกิจแทน
นายสุริยา เผยตอนนี้ครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะกระทันหัน ได้แต่ร้องไห้เสียใจ แต่ไม่โทษใคร เพราะเชื่อเป็นอุบัติเหตุสุดวิสัย ซึ่งบริษัทที่ลูกทำงานก็จะรับผิดชอบจ่ายค่าสินไหมและค่าเสียหายทุกอย่าง แต่ถ้าเลือกได้ตนอยากได้ชีวิตลูกคืนมามากกว่า.-สำนักข่าวไทย