“สมคิด” ฝากรัฐวิสาหกิจเดินหน้าลงทุน

รร.อินเตอร์คอนฯ 13 มี.ค. – รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจห่วงปัญหาการเมืองกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ ยืนยันเศรษฐกิจไทยไม่มีปัญหา องค์กรต่างชาติยังชมความคืบหน้าแก้ปัญหา แต่การเมืองกับบอกเศรษฐกิจทรุด  ขุนคลังฝากรัฐวิสาหกิจรวมพลังแข่งกับภาคเอกชน  ขณะที่ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจเสนอเชื่อมโยงการเดินทาง-ข้อมูล Big Data รองรับนักท่องเที่ยว การใช้เครื่อข่ายร่วมกันรองรับการแข่งขันยุคดิจิทัล 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ มอบนโยบายกับผู้บริหารรัฐวิสาหกิจระหว่างการสัมมนาผู้บริหารสูงสุดรัฐวิสาหกิจ (SOE CEO Form) ครั้งที่ 3 ว่า ขณะนี้มีความกังวลหลายพรรคการเมืองระบุว่าเศรษฐกิจไทยมีปัญหาจนต้องฟื้นฟูนั้น เป็นการพูดขาดหลักฐานชัดเจน เพราะเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง หน่วยงานเศรษฐกิจในประเทศและองค์กรต่างชาติ ทั้งธนาคารโลก  กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และอีกหลายองค์กรยังชื่นชมการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจไทย แต่พรรคการเมืองกลับมองว่ามีปัญหา เพราะเป็นการซ้ำเติมให้เป็นวิกฤติ และขอให้พรรคการเมืองอย่าซ้ำเติมปัญหาจนทำให้ต่างชาติเกิดความกังวลว่าการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งอาจลำบาก เพราะตามรัฐธรรมนูญรัฐบาลจะมาฝากพรรคร่วม จึงไม่มีพรรคใดจองสิทธิ์เป็นรัฐบาลได้ และคงไม่มีใครจองเป็นรัฐบาลตลอดชาติ จึงไม่อยากให้การเมืองทำให้ประเทศถึงทางตัน 

ทั้งนี้ ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้หวังสืบทอดอำนาจ เพราะเตรียมพร้อมไปสู่การเลือกตั้งทุกด้าน การเลือกตั้งเป็นทางไปสู่บ้านเมืองที่ดีขึ้น เพราะที่ผ่านมาหลายพรรคการเมืองเป็นรัฐบาลแล้วเป็นอีกหลายรอบ เพื่อหวังสืบทอดอำนาจ แต่ยังไม่เห็นผลงานชัดเจน คำว่าสืบทอดอำนาจจึงไม่ควรนำมากล่าวโจมตีทางการเมือง จึงไม่อยากให้รัฐวิสาหกิจหยุดชะงัก เพราะอีก 2-3 เดือนกว่าจะตั้งรัฐบาลอาจกระทบต่อการลงทุนออกสู่ระบบ เพราะหากการเมืองตีกันกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจอย่างแน่นอน 


อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ารัฐวิสาหกิจพัฒนาไปมากในปัจจุบัน จากเดิมเศรษฐกิจมีปัญหาซบเซาในช่วงที่ผ่านมาท่ามกลางข้อจำกัดหลายด้าน แต่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น จึงขอให้ร่วมกันมุ่งช่วยเหลือชาวบ้านผ่านบัตรสวัสดิการ บ้านล้านหลัง ส่งเสริมเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟฟ้า ท่าเรือ ถนน มอเตอร์เวย์ สนามบิน อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อให้ไทยมีความโดดเด่นในสายตาต่างประเทศ  เพราะ Big Data ยังไม่คืบหน้า รัฐวิสาหกิจเร่งเดินหน้าผลักดัน เพราะกระแสโลกทะยานไปไม่หยุดนิ่ง 

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวมอบนโยบายว่า ขนาดของรัฐวิสาหกิจไทยสูงถึง 15 ล้านล้านบาทมากกว่าจีดีพีของประเทศ นับเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ จึงมีพลังต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ที่ผ่านมาปี 2561 มีกำไรสูงถึง  4 ล้านล้านบาท แม้หลายฝ่ายจะมองว่ารัฐวิสาหกิจแข่งกับเอกชนไม่ได้  จึงอยากให้รัฐวิสาหกิจเปลี่ยนแนวคิดเหมือนกับรัฐวิสาหกิจของจีน  ปรับเปลี่ยนองค์กรขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นของเวทีโลกหลายราย ดังนั้น รัฐวิสาหกิจไทยต้องแข่งขันกับเอกชนได้แน่นอน เพราะจีนเป็นตัวอย่างทำให้เห็นแล้ว การปรับปรุงประสิทธิภาพ จึงมีความสำคัญในการตอบสนองภารกิจองค์กร หากรัฐวิสาหกิจที่มีขนาด 15 ล้านล้านบาท เกื้อหนุนกันจะมีพลังสูงมากในการแข่งขันกับภาคเอกชน   นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจถูกมองว่าเป็นกลุ่มมีการทุจริตคอร์รัปชั่น จึงต้องแก้ไขให้สังคมรับรู้มองเห็นชัดเจน ด้วยการสร้างระบบบริหารความเสี่ยงจากสิ่งไม่ถูกต้อง 


นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ความร่วมมือของรัฐวิสาหกิจต้องเร่งเดินหน้าผนึกกำลังร่วมกัน เช่น เร่งจ่ายเงิน ชำระเงินแบบ E-Payment ทั้งหมด เพื่อเปลี่ยนระบบชำระเงินให้เป็นอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดต้นทุนของประเทศ ในการโอนเงิน ชำระเงิน เพราะขณะนี้ระบบชำระเงินของไทยทันสมัยที่สุดในอาเซียน  จึงต้องการให้ช่วยขับเคลื่อนเป็นหนึ่งเดียวเป็นองค์รวม ไม่ใช่ต่างคนต่างไป 

ในเวทีสัมมนาเปิดให้ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจเสนอมาตรการช่วยเหลือหรือร่วมมือกันของรัฐวิสาหกิจ  โดยตัวแทนกลุ่มผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ เสนอที่ประชุมในส่วนกลุ่มพลังงานเสนอแนวทางส่งเสริมการเกิดขึ้นของผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ เพื่อตั้งได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องใช้เวลา 1-2 ปี รองรับทันกับความต้องการของตลาด ส่วนภาคขนส่ง เสนอการเชื่อมโยงการเดินทางทั้งทางบก น้ำ อากาศ ให้เชื่อมโยงการเดินทางระหว่างเส้นรถไฟฟ้า สนามบิน เรือ บขส. โดยมีเส้นทางเชื่อมโยงสะดวกและการเชื่อม Big Data ให้รวมอยู่ที่เดียวกันในเว็บไซต์เดียว บอกให้นักท่องเที่ยว ผู้เดินทางเข้าเว็บไซต์เดี่ยว รับรู้การเดินทางใดบ้างสะดวกทั้งเครื่องบิน รถไฟ และเส้นทางอื่น โดยไม่ต้องเข้าเว็บไซต์ของทุกหน่วยงาน กลุ่มสื่อสารเสนอหลังจากเศรษฐกิจดิจิทัลกระแสยุคใหม่เข้าก้าวมากระทบต่อรัฐวิสาหกิจให้เกิดปัญหา สูญเสียรายได้ ทั้งทีวีดิจิทัล กระแสสังคมออนไลน์   บมจ.อสมท,  ไปรษณีย์,  กสท โทรคมนาคม, ทีโอที จึงเสนอการอำนวยความสะดวกดิจิทัลเซอร์วิส เสนอให้ สคร.พึ่งพาร่วมกันระหว่างรัฐวิสาหกิจในการพึ่งพาเครือข่ายร่วมกัน เช่น EECi , EECd  และยังมี พ.ร.บ.ไซเบอร์ผ่านความเห็นชอบแล้ว ทุกหน่วยงานต้องศึกษาผลกระทบ  ยอมรับว่า กสท โทรคมนาคม และทีโอที องค์กรอายุนับร้อยปีอยู่ท่ามกลางการแข่งขันยุคดิจิทัลย่อมลำบากในการแข่งขันกับภาคเอกชน ต้องได้รับการส่งเสริมจากรัฐ และทำงานร่วมกับภาคเอกชน การทำงานร่วมกับของทุกหน่วยงานจะแข่งขันกับต่างชาติและภาคเอกชนได้  เช่น การใช้ไฟเบอร์ออฟติก ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพราะการร่วมมือจะทำให้เกิดศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อเกิดธุรกิจใหม่ หากร่วมมือกัน เพราะธุรกิจดิจิทัลอาศัยวิธีคิดแบบใหม่ 

กลุ่มสาธารณูปโภค การจัดซื้อจัดจ้างเสนอให้ชำระเงิน ชำระหนี้ผ่าน E-Payment ของหน่วยงานรัฐ ในการจ่ายค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม เช่น  โรงงานยาสูบ  เมื่อมีเครื่องพิมพ์ทันสมัย แต่แนวโน้มผลิตบุหรี่น้อยลง แต่สามารถรองรับการจัดพิมพ์ที่ปลอดภัยให้กับหลายองค์กร ด้วยการสร้างเครือข่ายและต่อยอดซึ่งกันและกัน เมื่อร่วมกันพัฒนาดิจิทัล ทุกรัฐวิสาหกิจจะใช้ เครื่องมือ เครื่องจักร ร่วมกันได้  ขณะนี้ก้าวเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม องค์กรสุรา ไม่ได้ผลิตสุราขายเพียงอย่างเดียว  แต่ผลิตแอลกอฮอล์รองรับอุตสาหกรรมสุขภาพ สินค้าทางการแพทย์ ซึ่งได้จัดทำแแผนปฏิรูปธุรกิจ เพราะผลิตสุราขาวแบบเดิมไม่ได้แล้ว  จึงต้องร่วมมือกับทุกองค์กร จึงเสนอระบบชำระเงินด้วยกันระหว่างรัฐต่อรัฐนับหลายแสนล้านบาทต่อปี เพื่อเกิดความสะดวกในส่วนของกลุ่มแบงก์รัฐเห็นด้วยกับการเชื่อมโยงข้อมูลในการชำระเงิน ร่วมกับกลุ่มสาธารณูปโภค ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูล Big Data ระหว่างลูกค้าแบงก์รัฐ 20 ล้านคนกับสาธารณูปโภค เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ร่วมกัน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ กล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าพระสงฆ์ หลังถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองปราบตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา โดยการสอบปากคำ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมง อดีตพระอลงกต ให้ความร่วมมือให้ปากคำแต่ไม่ยอมลาสิกขา กระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง พร้อมเกลี้ยกล่อมให้อดีตพระอลงกต คิดถึงคุณงามความดี และการทำนุบำรุงพระศานาในอดีต ทำให้เจ้าตัวยอมสึกแต่โดยดี ทั้งนี้ ก่อนทำพิธีลาสิกขา อดีตพระอลงกต ยังได้เทศนาทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายนานกว่า 20 นาที โดยระบุว่า รู้สึกมีความสุข ที่ได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราว ที่จะเป็นการรักษาซึ่งศรัทธาของญาติโยม พุทธศาสนิกชนด้วยเหตุที่ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์มากว่า 30 ปี ซึ่งบางครั้ง บางเรื่องมีข้อผิดพลาด อยากให้เข้าใจว่า มันมี 2 ด้าน ทั้งเรื่องทางโลก และทางธรรม ซึ่งทั้ง 2 […]

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]