กกต.กทม.พร้อม ! เลือกตั้งล่วงหน้าวันอาทิตย์นี้

สำนักข่าวไทย 12 มี.ค.-กกต.กทม.ย้ำเตรียมพร้อมทุกส่วนสำหรับเลือกตั้งล่วงหน้าอาทิตย์นี้ ฝากเตือนผู้ลงทะเบียนล่วงหน้าหากไม่มา หมดสิทธิเลือกซ้ำวันจริง 24 มี.ค.ทันที


น.ส.วิชชุดา เมฆานุวงศ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการล่วงตั้งล่วงหน้าในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว  โดยเฉพาะบุคลากรที่ผ่านมาอบรมในข้อกฎหมาย ระเบียบ ข้อห้ามต่างจนเกิดความเข้าใจ ในวันที่ 17 มีนาคมนี้เชื่อจะไม่เกิดข้อผิดพลาด 


น.ส.วิชชุดา กล่าวว่า สำหรับข้อห่วงใยในการเลือกตั้งล่วงหน้า ยังเป็นเรื่องเดียวกับที่ ปลัด กทม.เป็นห่วง คือเรื่องเจตที่มีจำนวนผู้มาลงทะเบียนจำนวนมาก ได้แก่ เขตบางกะปิ 61,401 คน  รองมาคือ เขตบางขุนเทียน 42,000 คน และห้วยขวาง 40,810 คน นอกจากสถานที่แล้ว จะได้ให้เขตที่มีคนจำนวนมากเตรียมรถสุขา และรถพยาบาลไว้เพิ่มเติม และขอให้รีบมาใช้สิทธิตั้งแต่เช้าเพราะแม้จะขยายเวลาให้ถึง 17.00 น. แต่หากมาช่วงใกล้ปิดหีบก็อาจหมดสิทธิได้ สำหรับผู้พิการ หรือคนชรา ก็ได้ย้ำให้ทาง กทม.จัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยให้ความสะดวกเพิ่มเติมด้วย


นอกจากนี้ในส่วนสถานที่สำหรับการจัดการเลือกตั้ง ก็ให้แต่ละเขตไปออกแบบเลือกสถานที่ตามจำนวนประชาชนที่จะมาใช้สิทธิอย่างเหมาะสม  โดยในส่วนของอุปกรณ์เลือกตั้งและหีบบัตรต่างๆทางกกต.จะเริ่มดำเนินการจัดส่ง และรับมอบตั้งแต่ระหว่างวันที่ 14-16 มีนาคมนี้

นอกจากนี้ยังได้กล่าวขอย้ำสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต หากไม่มาใช้สิทธิ จะถือว่าหมดสิทธิเลือกตั้งทันทีในทุกกรณี ไม่สามารถไปใช้สิทธิในวันที่ 24 มีนาคมได้ แต่หากมีเหตจำเป็นจริงก็สามารถแจ้งล่วงหน้าก่อนวันเลือกตั้ง หรือหลังเลือกตั้ง 7 วันได้ที่นายทะเบียนอำเภอทั่วประเทศ หรือสำนักงานเขตที่ตนเองมีชื่อ เพื่อจะได้มีข้อมูลไม่เป็นการเสียสิทธิหากในอนาคตอยากจะลงสมัครเลือก หรือทำงานการเมืองทุกระดับ

สำหรับภาพรวมการเลือกตั้งในพื้นที่ กทม.ขณะนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการซื้อเสียงหรือทุจริตใดๆเกิดขึ้น จะมีก็เพียงการร้องเรียนเรื่องการติดป้ายหาเสียงที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน ซึ่งมีประมาณกว่า 100 ราย ก็ได้แจ้งให้เขต และพรรคต้นสังกัดไปแก้ไขแล้ว นอกากนี้ยังมีเรื่องการร้องเรียนทำลายป้ายอีกกว่า 100 กรณี ส่วนใหญ่เกิดจากคนเมาคึกคะนองใช้มีดกรีดหรือทำลายป้ายหาเสียงโดยทางผู้สมัครที่เสียหายได้ไปแจ้งความดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อไปยังเขตที่จะมีผู้มาใช้สิทธิจำนวนมาก เช่นเขตบางกะปิ เพื่อไปดูความพร้อมของสถานที่ใช้สำหรับเลือกตั้งล่วงหน้า ได้รับแจ้งว่าอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม เนื่องจากต้องรอให้โรงเรียนปิดทำการเรียนการสอน ในวันพรุ่งนี้ (13 มี.ค.) จึงจะสามารถเข้าไปจัดเตรียมสถานที่ได้ จึงยังไม่สะดวกให้เข้าไปถ่ายทำ 

ส่วนที่เขตห้วยขวางผู้อำนวยการเขตอยู่ในระหว่างการประชุมซักซ้อมเตรียมความพร้อมกับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งจึงยังไม่สามารถให้เข้าไปถ่ายทำสถานที่สำหรับจัดการเลือกตั้งได้เช่นเดียวกัน

สำหรับจำนวนผู้มาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร สำนักปกครองและทะเบียนรายงาน กรมการปกครอง กทม.สรุปยอดจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) นอกเขตเลือกตั้งล่วงหน้าของกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม-19 กุมภาพันธ์ ใน 30 เขต เลือกตั้งของกรุงเทพมหานคร 

มีผู้ ลงทะเบียนทั้งสิ้น 928,789 คน เป็นการลงทะเบียนทางอินเทอร์เน็ต จำนวน 797,196 คน และลงทะเบียนที่สำนักงาน เขต จำนวน 131,593 คน

สำหรับสถานที่ที่ประชาชนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ามากที่สุด คือ สำนักงานเขตบางกะปิ เป็นส่วนหนึ่งของเขตการเลือกตั้งที่ 13 (เขตเลือกตั้งที่ 13 ประกอบด้วย เขตบางกะปิ และเขตวังทองหลางเฉพาะแขวงพลับพลา) โดยเขตบางกะปิกำหนดจัดหน่วยเลือกตั้งกลาง ที่โรงเรียนบ้านบางกะปิและโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิซึ่งตั้งอยู่ติดกัน มีประชาชนลงทะเบียน ขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 61,401 คน

ส่วนสถานที่ที่ประชาชนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าน้อยที่สุดคือ สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ เป็นส่วนหนึ่งของเขตการเลือกตั้งที่ 1 (เขตการเลือกตั้งที่ 1 ประกอบด้วย เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ และเขตดุสิต ยกเว้นแขวงถนนนครไชยศรี) โดยกำหนดจัดหน่วยเลือกตั้งกลาง ที่จอดรถของสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ มีประชาชนลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 3,193 คน

ส่วนสถานที่เลือกตั้งกลางสำหรับคนพิการ หรือผู้สูงอายุ ในกทม.มี 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค เขตภาษีเจริญ มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 97 คน , บ้านผู้สูงอายุบางแค 2เขตบางแค มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 124 คน และโรงพยาบาลทหารผ่านศึก เขตพญาไท มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 36 คน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร​” ไม่แปลกใจ กัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “แพทองธาร​” ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษของ “กัมพูชา” หลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้ต้องฟ้อง ปท. ที่เข้ามาเป็นพยานด้วย บอก​ จะถาม “ภูมิธรรม” ให้ ต้องออกแถลงการณ์โต้หรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม​ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง​หยุดยิง ว่า​ เมื่อสักครู่​ ได้อัปเดตกับทางทีมงาน​ มีการพูดคุยกันว่า​ ถ้าเป็นแบบนี้​ ก็ต้องมีการแจ้งให้ประเทศที่เข้ามาเป็นพยานได้ทราบด้วย​ ว่า​ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น​ แต่ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว​ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องมีการออกแถลงการณ์อีกครั้งหรือไม่​ หลังจากกัมพูชาไม่หยุดยิง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวอันนั้นจะสอบถามนายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​.-315 -สำนักข่าวไทย

กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล

29 ก.ค.- กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน หลังกัมพูชาจงใจละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำลายความเชื่อมั่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดทางสู่สันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุกองทัพไทย ได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด…โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก” การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ […]

ทบ. ประณาม “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

29 ก.ค.- ทบ. ประณาม “กัมพูชา”ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ไทยยึดมั่นพันธกรณีฯ อย่างเคร่งครัด แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเองตอบโต้อย่างเหมาะสม ขยับเวลาถกผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่เป็น 10 โมงเช้า วันที่ 29 กค.68 เวลา 7.30 น. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาว่าตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ ลดความตึงเครียด และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น กองทัพบกขอเรียนว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้ทำการหยุดยิง บริเวณพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา ด้วยความตั้งใจจริง และยึดมั่นต่อพันธกรณีที่ได้ตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมื่อถึง กำหนดเวลาดังกล่าว ฝ่ายไทยยังคงตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอยู่หลายจุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน กองทัพบกจึงขอประณามต่อการกระทำดังกล่าว ฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องใช้มาตราการโต้กลับอย่างเหมาะสม ภายใต้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง ยืนยันฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังทหารเพื่อรุกราน แต่เพื่อป้องกันการรุกล้ำและรักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้กฎกติกาสากล พลตรีวินธัย ยังระบุว่า เบื้องต้น การพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ มีการขยับเวลา […]