สถานีรถไฟหัวลำโพง 29 ส.ค.-นายกฯเปิดเดินรถไฟขบวนพิเศษเที่ยวปฐมฤกษ์กรุงเทพฯ-นครปฐม ฝากคมนาคมเร่งพัฒนาการขนส่งระบบรางให้เชื่อมโยงทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศเป็นทางเลือกประชาชน อาคมคาดเพิ่มรายได้ให้รฟท.ปีละ 1,250 ล้านบาท
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานเปิดเดินรถไฟขบวนพิเศษเที่ยวปฐมฤกษ์ กรุงเทพฯ-นครปฐม โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพิชิต อัคราทิพย์ ประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย และนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิธี ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมรถจักรใหม่พิกัดสูงและโบกี้บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ บริเวศชานชาลาที่ 6 ระยะทาง 50 กิโลเมตร ก่อนจะลั่นระฆังเพื่อปล่อยขบวนรถ และร่วมโดยสารรถไฟจากสถานีรถไฟหัวลำโพงไปจนถึงสถานีรถไฟบางบำหรุ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่เห็นรถไฟไทยพัฒนาจนมีความทันสมัยและก้าวหน้าไปอีกขั้นสมกับความตั้งใจที่รัฐบาลพยายามมุ่งมั่นทำทุกอย่างให้ดีขึ้น รถไฟรุ่นใหม่ถือเป็นรถไฟสำหรับอนาคต รัฐบาลขณะนี้จะแก้ปัญหาระบบโครงสร้างพื้นฐานในภาพรวม จัดทำรถไฟรางคู่เชื่อมต่อการสัญจรของประชาชนและการขนส่งสินค้าทั้งในและต่างประเทศให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง แม้จะติดขัดเรื่องงบประมาณแต่ต้องดำเนินการ อยากให้กระทรวงคมนาคมพัฒนาการขนส่งทางรถไฟให้เป็นทางเลือกของประชาชน เพื่อไม่ให้รฟท.ประสบปัญหาขาดทุน เร่งเชื่อมโยงการเดินทางทั้งทางบก เรือ อากาศ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งเปิดเส้นทางเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษม และอยากให้มีเรือแท็กซี่เชื่อมต่อการเดินระยะสั้น จึงอยากให้จัดหาภาคเอกชนมาลงทุนดำเนินการโดยเร็ว
“ผมอยากให้ทำเรือแท็กซี่ ตอนนี้ก็ให้ไปหาคนมาลงทุน ผมทำงานทุกวัน ไม่เคยหยุดคิด และยอมรับไม่ว่าใครจะตำหนิแค่ไหนก็ไม่ท้อ ตอนนี้อยากให้คลองทุกคลองเชื่อมต่อกัน ลองดูให้นำรถไฟเก่ามาทำเรือไปได้มั้ย ดีกว่าเอาไปทำเป็นปาการัง ทั้งนี้ ไม่อยากให้มองว่าการดำเนินการของรัฐบาลทุกเรื่องจะเกิดการทุจริต เพราะหากมัวแต่จับผิดทุกเรื่อง ไม่สามารถเดินหน้าได้ทุกโครงการ โดยเฉพาะระบบราง เพราะสิ่งเหล่านี้ถือว่าสำคัญต่องการส่งออกของประเทศ ที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศในอนาคต รัฐบาลทำงานมา 2 ปีถูกตำหนิทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องทุจริต ยืนยันว่าถ้าพบจะดำเนินการตามกฎหมาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินชมภายในขบวนรถไฟและทักทายผู้ร่วมขบวนว่า รถไฟมีความทันสมัยดี ไม่เหมือนสมัยที่เคยขึ้นตอนเด็ก ๆ สมัยนั้นขึ้นแล้วชอบกินข้าวบนรถไฟทั้ง ไก่ย่าง หมูทอด เนื้อ เค็ม ไข่พะโล้ และแกงเขียวหวาน ซึ่งปัจจุบันยังให้ขายอยู่ ไม่ได้ห้าม
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่สำหรับบริการเชิงพาณิชย์จำนวน 115 คันของการรถไฟฯ สอดคล้องกับแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟฯ วงเงินกว่า 176 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาได้รับมอบรถโดยสารรุ่นใหม่รอบแรก 39 คัน จากบริษัท China Railway Rolling Stock Corporation หรือ CRC และทดสอบการเดินรถทั้งระยะใกล้และไกลมากกว่า 1 เดือน ก่อนจะเปิดให้บริการเป็นรถด่วนขบวนพิเศษเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่เป็นเส้นทางแรกในเดือนตุลาคม 2559
“เป็นการพลิกโฉมประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของรฟท.ตามนโยบายของรัฐบาลและเป็นเครื่องยืนยันว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันมุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนาระบบรางของประเทศให้สมบูรณ์ และส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ซึ่งคาดว่า รถไฟขบวนพิเศษนี้จะเพิ่มรายได้ให้กับรฟท.ปีละ 1,250 ล้านบาท” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าว
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการฯ รฟท.กล่าวว่า รถไฟขบวนพิเศษแต่ละเที่ยวจะประกอบด้วยรถ Power car ทำหน้าที่จ่ายไฟให้รถโดยสารทั้งขบวน 1 คัน รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 จำนวน 9 คัน รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 สำหรับผู้โดยสารที่ใช้วีลแชร์ จำนวน 1 คัน รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 ระดับเฟิร์สคลาสจำนวน 1 คัน และรถขายอาหารปรับอากาศจำนวน 1 คัน ภายในรถมีระบบการทำงานและสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย ติดตั้งกล้องวงจรปิด มีสัญญาณ Wifi ห้องอาบน้ำ และปุ่มเรียกพนักงานฉุกเฉิน เป็นต้น
“รฟท.จะนำขบวนรถโดยสารรุ่นใหม่มาวิ่งเป็นขบวนรถด่วนพิเศษใน 4 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ,กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ,กรุงเทพฯ-หนองคาย และกรุงเทพฯ-ชุมทางหาดใหญ่ ไป-กลับ วันละ 2 ขบวนต่อวัน รวม 8 ขบวน สามารถรองรับผู้โดยสาร ประมาณ 0.9 ล้านคนต่อปี” ผู้ว่าการฯ รฟท.กล่าว.-สำนักข่าวไทย