ทำเนียบฯ 12 มี.ค.- นายกรัฐมนตรี สวมกอดให้กำลังใจประชาชนคดีถูกรถยกทับขา และขอให้ยกเลิกวาทกรรม คนจนติดคุก ก่อนชิมกาแฟ “รักลุงตู่” พร้อมถามความคืบหน้าคดีเสือดำ ระบุทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำคณะผู้บริหาร เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เพื่อนำเสนอผลงานเด่นของกระทรวงยุติธรรม “ยุติธรรมใส่ใจ…. เพื่อสังคมแห่งความปลอดภัยของทุกคน”
โดยนายกรัฐมนตรี ได้ทดลองมองตัวเลขสถิติคดี ด้วยแว่นดูภาพ 3 มิติ เพื่อดูการช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงกองทุนยุติธรรม โดยพบว่าประชาชนเข้าถึงกองทุนเพิ่มขึ้น 115% ใน 4 ปี และสามารถเยียวยาเหยื่อและแพะในคดีอาญาได้เพิ่มขึ้น 237% พร้อมขอให้กระทรวงยุติธรรมดูแลเรื่องผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถต่อสู้คดีได้ โดยเฉพาะคดียายเก็บเห็ด ที่ต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ เพราะอาจจะกลายเป็นรัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเลย และกลายเป็นวาทกรรม คนจนติดคุก คนรวยอยู่บ้าน
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้สวมกอดและพูดคุยให้กำลังใจ น.ส.ศรีนวล กวางทอง อายุ 52 ปี ชาวอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ที่ได้รับความช่วยเหลือจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดลพบุรี กรณีถูกรถยกของ ทับขาจนไม่สามารถทำงานได้และถูกเจ้าของบริษัทรถยก ยัดเงินให้จบคดี โดยนายกรัฐมนตรีขอให้สู้และอดทน ซึ่งรัฐบาลพยายามทำทุกอย่าง ขอให้เลิกวาทกรรมคนจนติดคุก
นายกรัฐมนตรี ยังได้ฟังเพลงแร๊พ “ยุติธรรมใส่ใจ justice care” จาก บ๊อบบี้-นิติกร สิมาลี สมาชิกวง 3.50 โดยนายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้กระทรวงยุติธรรม ส่งคลิปเพลงไปทั่วประเทศ เนื่องจากเพลงทำให้ประชาชนเข้าถึงและมีความสนใจเพิ่มมากขึ้น ใครที่เดือดร้อนเจ้าหน้าที่ต้องเข้าถึงทันทีใน 24 ชั่วโมง
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้เยี่ยมชมร้านกาแฟวังจันทร์ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่เปิดขาย ในโซนเปิดภายในเรือนจำจังหวัดอยุธยา เป็นตัวอย่างของการเปิดพื้นที่ฝึกอาชีพให้ผู้ต้องขังที่สามารถใช้งานได้จริง และมีผู้ต้องขังสร้างรายได้จากการขายกาแฟเดือนละ 5 คน มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ12,000-15,000 บาท พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ประจำบูธนำกาแฟร้อน ที่มีฟองนมแต่งหน้ากาแฟเป็นภาพนายกรัฐมนตรี พร้อมเขียนข้อความว่า “รักลุงตู่” ให้นายกรัฐมนตรีดื่ม ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการเพิ่มมูลค่าให้สินค้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี และกาแฟอร่อย พร้อมย้ำว่าขอให้เลิกวาทกรรมคนจนติดคุก อีกครั้ง
นอกจากนี้นายกนัฐมนตรียังถามถึงความคืบหน้าคดีเสือดำ กับ พล.อ.อ.ประจิน ซึ่งได้รับคำตอบว่า คดีจะเข้าสู่การพิจารณาของศาลชั้นต้น ในวันที่19 มีนาคมนี้ พร้อมระบุว่าทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อต่อสู้คดี
นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมบูธโครงการส่งเสริมสัมมาชีพและผลิตภัณฑ์เพื่อการพัฒนาพฤตินิสัย (สมภพ.) ซึ่งเป็นโครงการของกระทรวงยุติธรรมที่จัดทำขึ้น เพื่อติดตามและส่งเสริมการกลับเข้าสู่สังคมของคนที่เคยเป็นผู้ต้องขัง นายกรัฐมนตรี รับฟังทีมงานของโครงการที่ทำหน้าที่ช่วยดูแลกลุ่มอดีตผู้ต้องขัง ร้องเพลงยุติธรรมใส่ใจฯ ก่อนที่จะพบกับ อดีตผู้ต้องขังที่ปัจจุบันทำกีต้าร์ขาย พร้อมให้เซ็นชื่อที่ไม้ทำกีตาร์ให้เป็นกำลังใจในการกลับเข้าสู่สังคม.-สำนักข่าวไทย