กกต.มั่นใจรับมือเลือกตั้งล่วงหน้า 17 มี.ค.

สำนักงาน กกต. 11 มี.ค.- รองเลขาธิการ กกต. ยืนยันสถานทูตมาเลเซียแก้ปัญหาดีที่สุดแล้ว ยังรักษาสิทธิการลงคะแนนโดยลับตามกฎหมาย  มั่นใจรับมือเลือกตั้งล่วงหน้า 17 มี.ค. คนเยอะแต่แผนพร้อม ขอทุกคนโหลตแอปพลิเคชั่นสมาทโหวตเช็คลำดับใช้สิทธิเพื่อความรวดเร็ว 


นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล  รองเลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  ชี้แจงถึงปัญหาการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจากปัญหาคนไปรอใช้สิทธิจำนวนมากที่มาเลเซียว่า ได้ประสานพูดคุยกับสถานทูตไทยในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ว่า ทำอย่างไรถึงจะให้คนไทย ที่มารอใช้สิทธิได้ใช้สิทธิโดยเร็ว ซึ่งก็มีการเพิ่มช่องทางการแสดงตน  เพิ่มคูหา  แต่เนื่องจากทางสถานทูตจัดให้มีหน่วยลงคะแนนเคลื่อนที่  ทำให้คูหากระจายไปตามหน่วยลงคะแนนเคลื่อนที่ต่าง ๆ ทำให้เจ้าหน้าที่แก้ปัญหาโดยนำกล่องกระดาษมาทำเป็นคูหาเพื่อรองรับกับจำนวนผู้มาขอใช้สิทธิ ซึ่งก็ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย และก็ต้องชื่นชมว่าการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทำได้ค่อนข้างดี แม้จะมีภาพที่ปรากฏออกมา ทำให้ไม่สบายใจ แต่ยังสามารถคงหลักการเรื่องของการเลือกตั้งโดยตรงและลับไว้ได้  ซึ่งประโยชน์ตรงนี้พี่น้องประชาชน เป็นผู้ได้รับเพราะสามารถมาใช้สิทธิ และเราสามารถรักษาสิทธิการเลือกตั้งโดยตรงและลับของเขาไว้ได้   

ส่วนกรณีของประเทศจีน ที่มีกระแสข่าวว่าบัตรหายนั้น นายณัฏฐ์ กล่าวว่า เป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากว่าในขั้นตอนของการลงทะเบียนออนไลน์ เราจะให้ผู้ขอลงทะเบียนกรอกในรายละเอียด ถึงที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์  ที่ติดต่อได้ เพื่อเราจะได้จัดส่ง บัตรเลือกตั้ง เอกสารเกี่ยวกับผู้สมัคร ไปให้กับผู้ที่ลงทะเบียนตามที่อยู่ที่ได้กรอกไว้  แต่ในบางรายพบว่ากรอกไม่ชัดเจน ไปรษณีย์ส่งบัตรไปแล้วก็ถูกตีกลับมา ซึ่งทางสถานกงสุลก็พยายามที่จะหาที่อยู่ของผู้ที่ลงทะเบียน โดยมีการประสานกลับมายังกรมการกงสุลในประเทศไทย  เพราะจะมีการเก็บที่อยู่ของผู้ที่ลงทะเบียนดังกล่าวเอาไว้  ซึ่งได้จัดส่งไปให้สถานกงสุลที่ประเทศจีน และสามารถส่งบัตรให้กับผู้ที่ลงทะเบียนได้เรียบร้อย


“รูปแบบการใช้สิทธิของคนไทยในต่างประเทศ ในแต่ละประเทศก็จะเป็นหน้าที่ เป็นอำนาจสิทธิขาดของเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ของประเทศนั้น ๆ จะเป็นผู้กำหนด รวมถึงห้วงเวลาในการลงคะแนน วิธีการในการลงคะแนน  การจัดสถานที่เลือกตั้ง  จัดหน่วยเลือกตั้งเคลื่อนที่ หรือแม้การจัดลงคะแนนทางไปรษณีย์ก็ตาม ดังนั้นความคล่องตัวจึงขึ้นอยู่แต่ละประเทศเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตามการตื่นตัวครั้งนี้สะท้อนว่าประชาชนมีความต้องการที่จะใช้สิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าจะในทางใดก็ตาม”นายณัฏฐ์ กล่าว   

เมื่อถามถึงระยะเวลาในการลงคะแนนนอกราชอาณาจักรที่เหลือจะมีปัญหาในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีกหรือไม่ รองเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า  เท่าที่ได้รับกาประสานในขณะนี้พบว่ามีผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลายรายโทรศัพท์มาที่ประเทศไทย เช่น ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย  แจ้งว่าได้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิแล้ว แต่ทำไมไม่มีชื่อ ซึ่งผู้ลงทะเบียนได้แคป หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่รับรองการลงทะเบียนส่งมาเป็นหลักฐานยืนยัน ก็ให้ทางกงสุลเพิ่มชื่อ  และใช้สิทธิเลือกตั้งเรียบร้อย

ส่วนการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดในประเทศ ที่จะมีการเปิดให้ลงคะแนนในวันที่ 17 มีนาคมนี้ นายณัฏฐ์ กล่าวว่า เลขาธิการ กกต.ได้ประชุมกับรองเลขาฯ กกต.ทุกคน และจะส่งรองเลขาฯ ออกไปตรวจการเตรียมความพร้อมในจังหวัดที่มีผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมาก โดยจะเริ่มออกไปตรวจตั้งแต่วันพฤหัสบดี  ซึ่งในส่วนของกรุงเทพฯ ที่เขตบางกะปิ ที่มียอดผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 61,401 คน ทางเลขาธิการ กกต.ก็จะเดินทางไปตรวจความพร้อมด้วยตนเอง และจากการดูแผนการเตรียมการค่อนข้างดี โดยจัดสถานที่ใช้สิทธิสองจุด คือโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ และโรงเรียนบ้านบางกะปิ ทั้งสองแห่งจะแบ่งจังหวัดเพื่อกระจายไม่ให้การใช้สิทธิกระจุกอยู่ที่เดียว  มีเครื่องคอมพิวเตอร์รองรับ 50 เครื่อง  


นายณัฏฐ์ กล่าวว่า ผู้ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ เพื่อความสะดวดรวดเร็ว เมื่อจะไปใช้สิทธิสามารถที่จะตรวจสอบลำดับที่ในบัญชีการใช้สิทธิ สามารถดาวโหลดแอพพลิเคชั่นสมาทโหวต เพื่อตรวจสอบ ก่อนเดินทางไปใช้สิทธิได้ รวมทั้งสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้สมัครในเขตเลือกตั้งที่ตัวเองมีสิทธิได้ด้วย  เมื่อไปถึงยังหน่วยออกเสียงล่วงหน้า และแจ้งลำดับที่การใช้สิทธิต่อกรรมการประจำหน่วยแล้วก็จะได้รับบัตรและซอง เมื่อใช้สิทธิแล้วก็ให้นำบัตรเลือกตั้งใส่ซอง  ปิดผนึกและหย่อนลงในหีบบัตรเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อปิดการลงคะแนนแล้วเจ้าหน้าที่จะทำการคัดแยก ก่อนส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเพื่อรอนับในวันที่  24 มีนาคม เชื่อว่าในการใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 17 มีนาคม จะไม่เกิดปัญหาความแออัดเหมือนในอดีต ที่แต่ละจังหวัดจะกำหนดหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าเพียงแห่งเดียว แต่ในครั้งนี้มีการกำหนดสถานที่ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้ากระจากไปถึง 380 กว่าแห่ง จึงคิดว่าการกระจายคนไปใช้สิทธิในหน่วยเลือกตั้งเหล่านี้จะไม่เกิดปัญหา

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์โวยเรื่องเอกสารแนะนำตัวผู้สมัคร ที่แจกให้กับคนไทยในอังกฤษ มีภาพกับชื่อพรรคอยู่คนละแผ่น นายณัฏฐ์  กล่าวว่า การรับรู้ข้อมูลของผู้สมัคร ไม่ได้รับรู้เพียงจากเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายช่องทาง เช่น  แอปพลิเคชั่นสมาทโหวตที่แนะนำให้ดาวโหลด ซึ่งกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในต่างประเทศ สำหรับเมืองไทยเอกสารแนะนำตัวของผู้สมัครได้จัดส่งไปแล้ว ไม่มีปัญหาดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย             

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]