สธ.ย้ำไทยเฝ้าระวัง ควบคุม ‘ไวรัสซิกา’ เข้มข้นระดับสูงสุดต่อเนื่อง

สธ.29 ส.ค.-กรมควบคุมโรค ประสานศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหภาพยุโรป (ECDC) สอบถามกรณีระบุถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสซิกาของประเทศไทยในระดับสีแดง ชี้สาเหตุที่ไทยมีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสซิกาเพิ่ม สะท้อนมาตรการเฝ้าระวัง การวินิจฉัยโรค และการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งระบบของไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติ


 

นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหภาพยุโรป(ECDC) ระบุว่าประเทศไทยมีสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสซิกาในระดับสีแดง และนับเป็นประเทศที่รายงานพบผู้ป่วยมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น   จากการตรวจสอบแล้วพบว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหภาพยุโรป มีการจัดแบ่งประเภทของประเทศที่มีรายงานการพบผู้ติดเชื้อ   แตกต่างจากการจัดประเภทตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนด ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยอมรับทั่วโลก อีกทั้งข้อมูลในเว็ปไซด์ดังกล่าวไม่ได้สะท้อนถึงมาตรการป้องกันควบคุมโรคของแต่ละประเทศ


 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้ประสานไปยังศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหภาพยุโรป (ECDC) และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว  โดยขอให้มีการตรวจสอบข้อมูลและทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ประเทศไทยมีจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสซิกาเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความตระหนัก มาตรการเฝ้าระวัง การวินิจฉัยโรค และการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งระบบของประเทศไทยนั้นได้รับการยอมรับจากนานาชาติ

 


นพ.อำนวย กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทย ยังคงใช้มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสซิกาอย่างเข้มข้นในระดับสูงสุดต่อเนื่อง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสซิกา เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 หากพบผู้ป่วยต้องแจ้งให้กระทรวงสาธารณสุขทราบทันที

 

สำหรับมาตรการระหว่างประเทศ นั้น เน้นการดำเนินการตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ และตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก โดยประเทศไทยมีมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคนี้ 4 ด้านได้แก่ 1.การเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา 2.การเฝ้าระวังทางกีฏวิทยา 3.การเฝ้าระวังทารกแรกเกิดที่มีความพิการแต่กำเนิด และ 4.การเฝ้าระวังกลุ่มอาการทางระบบประสาท

 

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ขอความร่วมมือหน่วยงานในพื้นที่ทุกภาคส่วน ร่วมดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคดังกล่าว ขณะนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ที่มีหนังสือสั่งการถึงจังหวัดที่พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสซิกาให้สนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ร่วมกัน โดยให้จังหวัดดำเนินการให้ความรู้กับประชาชน  เน้นย้ำการใช้มาตรการควบคุมและกำจัดลูกน้ำยุงลาย และควบคุมยุงตัวแก่ ซึ่งเป็นพาหะของโรคนี้  และหากพบผู้ป่วยในพื้นที่ให้จัดตั้งศูนย์ปฎิบัติการภาวะฉุกเฉิน(EOC) ทั้งระดับจังหวัดและระดับอำเภอ โดยเน้นดำเนินมาตรการเข้มข้นทั้งจังหวัด ถึงแม้จะมีรายงานผู้ป่วยจำนวนหนึ่งในบางอำเภอก็ตาม และมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุนบุคลากรและอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ รวมถึงให้มีการบูรณาการความร่วมมือในพื้นที่กับทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน

 

“ขอประชาชนร่วมควบคุมยุงลายในบ้าน ส่วนอาการของโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ส่วนใหญ่อาการของโรคไม่รุนแรง ส่วนใหญ่ป่วยแล้วหายได้เอง อาการที่พบบ่อย ได้แก่ มีไข้ ออกผื่น ตาแดง ปวดข้อ อาการเหล่านี้ทุเลาลงได้เองภายในเวลา 2-7 วัน จะมีปัญหาเฉพาะกับหญิงตั้งครรภ์ซึ่งมีหลักฐานทางระบาดวิทยาที่บ่งชี้ว่าอาจสัมพันธ์กับอาการศีรษะเล็กในทารกแรกเกิด โดยทั่วไปหญิงตั้งครรภ์หากติดเชื้อต่างๆ เช่น หัดเยอรมัน และไข้ขี้แมว เป็นต้น ก็อาจส่งผลถึงลูกในครรภ์ได้เช่นกัน เช่น มารดาหากติดเชื้อหัดเยอรมัน ทารกที่เกิดมาอาจมีความพิการ ตาบอด หัวใจพิการ และมารดาที่ติดเชื้อไข้ขี้แมวทารกที่เกิดมาอาจมีความพิการทางสมองได้  ดังนั้น หญิงตั้งครรภ์ต้องระมัดระวังมากกว่าคนปกติ ในด้านสุขอนามัย ไม่คลุกคลีคนป่วย ไม่คลุกคลีสุนัขและแมวจรจัด ป้องกันไม่ให้ยุงกัด และฝากครรภ์ตามกำหนด ประชาชนสามารถสอบถามเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422″ นพ.อำนวย กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน