แนะลงทุนหุ้นปีนี้แบบระมัดระวัง

กรุงเทพฯ 7 มี.ค. – บลจ.ไทยพาณิชย์แนะควรลงทุนหุ้นปีนี้แบบระมัดระวัง ถือเงินสดสูงขึ้น มองดัชนีต่ำสุดได้ถึง 1,500 จุด 


นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวภายในงานสัมมนา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เพิ่มขีดความสามารถในการบริหารการลงทุนของคุณ สู่กระบวนทัศน์การลงทุนยุคใหม่…Empowering You to the New Investment Paradigm” ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจด้านกลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้น และเตรียมพร้อมรับมือตลาดผันผวนกับกองทุนเด่นปี 2019 ที่กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์จัดขึ้น ว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทย ยังเชื่อว่ามีโอกาส 2,000 จุดภายในปีนี้ ซึ่งภายหลังจากการเลือกตั้งชัดเจนสามารถจัดตั้งรัฐบาลขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้ต่อเนื่อง เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยระยะถัดไป 

ทั้งนี้ มองว่าหากดัชนีฯ ปรับฐานแถว 1,500-1,600 จุด ก็นับเป็นจังหวะสะสมหุ้นรอจังหวะขายทำกำไรเมื่อดัชนีฯ กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง โดยการลงทุนของ  บลจ.ไทยพาณิชย์ คือ หุ้นที่มีสภาพคล่องเงินสด เพราะหากมีความวุ่นวายต้องมีการปรับพอร์ตจะได้ลดความไม่แน่นอนได้ รวมถึงหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงก็ถือเป็นปัจจัยบวกที่น่าลงทุน 


นายพจน์ หะริณสุต กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปี 2562 ไม่น่าจะปรับลดลงมาก การปรับฐานน่าจะอยู่ที่  1,600 จุด  และสามารถไปต่อได้ คาดว่าสิ้นปีนี้ดัชนีน่าจะอยู่ที่ 1,720 – 1,750 จุดได้ ส่วน EPS ปรับลดลงมาที่ระดับ 111 บาท/หุ้น โดยตลาดหุ้นไทยต้องดู 3 ปัจจัยหลัก คือ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ราคาน้ำมัน และกระแสเงินทุนไหลเข้า แต่การลงทุนคงมุ่งลงในตลาดหุ้นไทยอย่างเดียวไม่ได้ต้องกระจายความเสี่ยงออกไปต่างประเทศด้วย ซึ่งตลาดหุ้นจีนก็น่าสนใจ ทั้งนี้ การไปลงทุนในต่างประเทศถือเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน แต่การลงทุนในตลาดหุ้นยังเป็นทางเลือกที่ดีเมื่อเทียบกับกองทุนตราสารหนี้ โดยปีนี้ต้องติดตามปัจจัยเรื่องการเก็บภาษีกองทุนตราสารหนี้ที่จะมาลดทอนผลตอบแทนให้ต่ำลงเข้ามาเป็นปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกองทุนด้วย พร้อมแนะกลยุทธ์การเข้าซื้อลงทุนต้องรอราคาหุ้นตก เพื่อซื้อ discount เพราะถ้าตกก็เป็นโอกาส โดยกองทุนที่น่าสนใจ คือ กองทุนที่ลงทุนต่างประเทศแบบ Active Fund 

นายยุทธพล ลาภมะมูล  กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ภัทร จำกัด กล่าวว่า ภาวะการลงทุนในช่วงนี้ยังต้องระมัดระวังกับความเสี่ยงให้มากขึ้น แม้ปัจจัยนอกประเทศจะเริ่มคลี่คลาย แต่มองว่ากรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย เป็นสิ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะไม่ได้เติบโตต่อเนื่อง หรือเข้าสู่ภาวะการชะลอตัวก็เป็นไปได้ ขณะที่สถานการณ์ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังไม่ได้ยุติลง ซึ่งผลกระทบต่าง ๆ ที่มีต่อเศรษฐกิจโลกน่าจะยืดเยื้อต่อไป

ส่วนประเด็นในประเทศเรื่องการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นปลายเดือนมีนาคมนี้ เป็นสิ่งที่ต้องจับตาว่าโครงสร้างรัฐบาลใหม่จะเป็นอย่างไร นโยบายด้านเศษฐกิจ ลงทุนเมกะโปรเจ็กต์จะยังเดินหน้าต่อเนื่องได้หรือไม่


ทั้งนี้ ปัจจุบันยังคงให้น้ำหนักลงทุนหุ้นทั้งในและต่างประเทศในระดับ “Underweight” เพราะยังระมัดระวังความเสี่ยงที่อาจกระทบให้อัตราผลตอบแทนลดลงในอนาคต ซึ่งในมุมมองแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้จะอยู่ที่ 1,640 จุด หรือเคลื่อนไหวได้ในกรอบ 1,500-1,750 จุด อิงกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปีนี้เติบโตร้อยละ  6 โดยในเชิงมูลค่ายังไม่ถูกและการเติบโตยังไม่ได้น่าสนใจมากนัก ปัจจุบันยังเน้นกระจายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และควรเน้นถือเงินสดมากกว่าปกติ เพื่อเป็นกระสุนรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น  . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช.สั่งหยุดจ่ายไฟ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช. สั่งหยุดจ่ายไฟ ชี้หากเพื่อนบ้านทำผิดกระทบความมั่นคง เตรียมหาแหล่งพลังงานใหม่ มอง กฟภ. ทำเกินหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ บอกเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]