เอ็กซิมแบงก์เปิดสาขากัมพูชาเชื่อมการค้า CLMV

พนมเปญ 7 มี.ค. – เอ็กซิมแบงก์เปิดสำนักงานผู้แทนแห่งที่ 3 ในพนมเปญ พร้อมเปิดตัวบริการสินเชื่อผู้ซื้อในกัมพูชา ช่วยผลักดันการส่งออกไทยไปกลุ่มประเทศ CLMV 


นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนางเนียว จันทานา รองผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติกัมพูชา ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดสำนักงานผู้แทนธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ในกรุงพนมเปญ กัมพูชา 

นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า การเปิดสำนักงานผู้แทนเอ็กซิมแบงก์ในกรุงพนมเปญจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอีมีโอกาสทางธุรกิจมากในกัมพูชา โดยมีเอ็กซิมแบงก์ให้ข้อมูลและคำปรึกษาด้านการค้าการลงทุนและการเงินแก่ผู้ประกอบการไทย เป็นกลไกสำคัญภาคการเงินการธนาคารสร้างโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการไทยควบคู่กับการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมใน CLMV เอ็กซิมแบงก์มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของไทยใน CLMV ได้แก่ ประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม มูลค่ากว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 64,000 ล้านบาท ตั้งแต่เปิดดำเนินการและกำลังก้าวสู่ปีที่ 26 และด้วยความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นระหว่างกัน การค้าไทย-กัมพูชาเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยร้อยละ 15 ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยปี 2561 มีมูลค่าสูงถึง 8,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตขึ้นร้อยละ 36.6 จากปีก่อน และคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มเกือบเท่าตัวถึง 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 ขณะที่การลงทุนในกัมพูชาช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีมูลค่าสูงถึง 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับ 4 ในกัมพูชา 


สำหรับการเปิดสำนักงานผู้แทนของ EXIM BANK ในกรุงพนมเปญเป็นผลจากการสนับสนุนของรัฐบาลกัมพูชาผ่านธนาคารแห่งชาติกัมพูชา และกระทรวงการคลังของกัมพูชา เพื่อให้เอ็กซิมแบงก์มีบทบาทเพิ่มขึ้นในระดับภูมิภาค ในฐานะหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศไทยที่จะทำงานร่วมกันกับภาครัฐและเอกชนในกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านและพันธมิตรที่สำคัญของไทยมายาวนาน และจากการที่ประเทศไทย ประกาศแนวคิดหลักสำหรับการเป็นประธานอาเซียนของไทยปีนี้ ได้แก่ ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน เล็งเห็นถึงความสำคัญของการยกระดับความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน มุ่งสร้างสังคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางและก้าวสู่อนาคตไปด้วยกัน โดยไทยจะเสริมสร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกันมากขึ้นกับสมาชิกอาเซียน รวมทั้งกัมพูชานำไปสู่ความเชื่อมโยงกันมากขึ้นด้านโครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบที่เป็นหนึ่งเดียวกัน และความเชื่อมโยงระดับประชาชน เพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนกันของอาเซียนโดยแท้จริง 

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า การเปิดสำนักงานผู้แทนเอ็กซิมแบงก์ในกรุงพนมเปญอย่างเป็นทางการนับเป็นแห่งที่ 3 ต่อเนื่องจากการเปิดสำนักงานผู้แทนในเมืองย่างกุ้ง เมียนมา และเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อปี 2560 และ 2561 ตามลำดับ ที่ผ่านมาสนับสนุนการลงทุนไทยในกัมพูชามากกว่า 4,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม และการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่าง ๆ ทั้งนี้ ธุรกิจแฟรนไชส์ของไทยเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีโอกาสขยายตัวในกัมพูชา อาทิ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เบเกอรี่ และสปา เป็นต้น เพื่อรองรับความต้องการของคนรุ่นใหม่ในกัมพูชา กลุ่มประชากรในกรุงพนมเปญที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น ชาวต่างชาติที่ทำงานในกัมพูชา และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการบริการในแบบที่คุ้นเคยและได้มาตรฐาน  

สำหรับการเปิดสำนักงานผู้แทนนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์เชื่อมไทย เชื่อมโลก ด้วยการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดยเอ็กซิมแบงก์จะทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนภายใต้ทีมประเทศไทย สร้างโอกาสเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นต่อการวางแผนและดำเนินธุรกิจในประเทศเป้าหมายที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในตลาดใหม่ รวมถึง CLMV ตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการแต่ละกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมโยงเอสเอ็มอีลักษณะห่วงโซ่มูลค่ากับธุรกิจขนาดใหญ่  


นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า กัมพูชามีจุดเด่นด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยร้อยละ 6.5 ต่อปีในช่วง 5 ปีข้างหน้า รัฐบาลกัมพูชามีนโยบายเร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวและการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ปี 2566 ความเป็นเมืองที่ขยายตัวต่อเนื่อง และการเปิดกว้างรับการลงทุนต่างชาติ ทั้งด้านกฎระเบียบและระบบการเงินที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ นอกจากนี้ จังหวัดที่มีชายแดนติดกับไทยเงินบาทยังได้รับการยอมรับในการทำธุรกรรมต่าง ๆ  นอกจากนี้ ทางธนาคารยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “บริการสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ซื้อในประเทศ CLMV” วงเงินสินเชื่อให้ผู้ประกอบการใน CLMV ซื้อสินค้าและบริการจากไทย วงเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี สูงสุด 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อราย และไม่เกินร้อยละ 85 ของมูลค่าซื้อขายสินค้าหรือบริการจากไทย อัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ LIBOR บวกร้อยละ 4 ต่อปี บริการดังกล่าวมีเป้าหมายผลักดันการส่งออกของไทยไป CLMV ในปี 2562 ต่อเนื่องจากปี 2561 ที่การส่งออกไป CLMV ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 17 ส่งผลให้สัดส่วนการส่งออกของไทยไป CLMV แซงหน้าตลาดส่งออกสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ รวมทั้งสหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่น โดยเอ็กซิมแบงก์จะชำระค่าสินค้าโดยตรงให้แก่ผู้ส่งออกไทยช่วยให้ผู้ส่งออกมีความมั่นใจที่ขยายการค้ากับคู่ค้าใน CLMV 

“CLMV เป็นประเทศเป้าหมายทางการค้าและการลงทุนของผู้ประกอบการไทย มีกัมพูชาเป็นตลาดการค้ายุคใหม่ที่มีศักยภาพตามทิศทางการขยายตัวทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภครุ่นใหม่ในเมืองหลวงและเมืองสำคัญด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งมีความพร้อมรองรับการเริ่มต้นและขยายตัวของธุรกิจ เอสเอ็มอีไทย เอ็กซิมแบงก์พร้อมทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนเชิงรุกผลักดันการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน” นายพิศิษฐ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

รวบเจ้าของหอพักโหดย่านรังสิต ข้อหากรรโชกทรัพย์

ปทุมธานี 28 พ.ค. – ตำรวจปทุมธานี บุกรวบเจ้าของหอพักย่านรังสิต พร้อมครอบครัว ข้อหากรรโชกทรัพย์ หลังมีนักศึกษาแจ้งความร้องทุกข์ว่า เจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกาย ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจปทุมธานี นำหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 27 พ.ค. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ เข้าจับกุม พ.ต.อ.พูลศักดิ์ อายุ 64 ปี นางพัชรียา อายุ 56 ปี และนางสาวพูลชนก อายุ 28 ปี ที่หอพักใน 7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จากกรณีมีนักศึกษากว่า 20 ราย เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต และเจ้าหน้าที่ สคบ. ว่าเจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกายนักศึกษา ยึดเอกสารหลักฐานทางราชการ ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน บางจังหวะการจับกุมจะเห็นได้ว่ามีการโต้เถียงกันและมีการขัดขืน แต่สุดท้ายต้องยอมจำนนต่อหมายจับ พล.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า ตำรวจขอหมายจับจากศาลไป 3 […]

คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสี อบต.เกาะสะท้อน อส.-ครู เจ็บ 4

นราธิวาส 28 พ.ค. – คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสีต้านยาเสพติด อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้อาสาสมัครรักษาดินแดนบาดเจ็บ 3 คน ครูบาดเจ็บ 1 คน ส่วนเหตุคนร้ายยิงใส่ป้อมหน้า สภ.จะแนะ ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย เจ็บ 1 นาย เจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าคนร้าย คนร้ายชุดสีดำเดินถือปืนเข้ามาในลานกีฬาเซปักตะกร้อ งานแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด อบต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากนั้นรัวยิงชุดแรก 4 นัด คนที่ร่วมแข่งขันพากันวิ่งหลบหนี จากนั้นคนร้ายรัวยิงอีก 3 นัด ซึ่งภาพหลุดจากวิถีกล้องไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายสุกรี ครูโรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน 2.อาสารักษาดินแดนฮัมดานุดดีน 3.อาสารักษาดินแดนมุสลิม และนายไซนุดดิน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลตากใบ สอบสวนทราบว่าคนร้าย 6 คน ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ 3 คัน ขี่เข้ามาโดยปะปนกับประชาชน และก่อเหตุยิงผู้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดจนมีผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุนายอำเภอตากใบลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บ […]

นายกฯ ยกหูคุย “ฮุน มาเนต” คลี่คลายเหตุปะทะชายแดน

รัฐสภา 28 พ.ค.- นายกฯ รับทราบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เผยยกหูคุยตรง “นายกฯ ฮุน มาเนต” ให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด ปัดตอบกรณี “ทักษิณ” ประกาศสงครามกับว้าแดง-สถานการณ์ใต้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ในเวลา 17.40 น. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยไทย-กัมพูชา บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ได้รับรายงานแล้ว และจะมีการพูดคุยกันของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่วนตนเองได้พูดคุยกับกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีข้อตกลงกันออกมา ขณะเดียวกัน ตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย ไม่มีอะไร ซึ่งมีความเข้าใจตรงกันว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก ส่วนจะมีการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสองประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนเองกับนายกฯ กัมพูชา ก็เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับว้าแดง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รัฐบาลมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในวันนี้ […]

ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคาม หลังพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดน

กองทัพอากาศ 28 พ.ค.- ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคามต่อประเทศ หลังตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.03 น. กองทัพอากาศได้สั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง จากหน่วยบิน กองบิน 4 ปฏิบัติภารกิจการบินป้องกันทางอากาศ วิ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี หลังหน่วยควบคุมอากาศยานและแจ้งเตือน ตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เครื่องบินต้องสงสัยลำดังกล่าว เป็นอากาศยานสมรรถนะสูงแบบ YAK-130 มีทิศทางบินมุ่งเข้าสู่เขตแดนไทยในระยะใกล้ กองทัพอากาศ จึงสั่งการบินพิสูจน์ทราบและแสดงท่าทีป้องปราม ตามมาตรการปกติ เพื่อเฝ้าระวังและยืนยันสถานการณ์ จากการติดตามพบว่า เครื่องบินดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางและออกจากเขตใกล้ชายแดนไทย ในเวลา 13.16 น. โดยไม่แสดงพฤติกรรมรุกราน หรือมีเจตนาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด “กองทัพอากาศ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปกติในการเฝ้าระวังป้องกันน่านฟ้า ซึ่งกองทัพอากาศดำเนินการอย่างเข้มแข็งและสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ประชาชน” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว ทั้งนี้ […]