สนช.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ

รัฐสภา 7 มี.ค.-สนช.เห็นชอบให้ร่าง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. … ประกาศใช้เป็นกฎหมาย ยืนยันไม่มีวาระซ่อนเร้น ให้คนอยู่ร่วมกับป่าและร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติได้ พร้อมให้นักวิชาการกำหนดแนวเขตหาของป่าในเวลา 240 วัน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้  (7 มี.ค.) มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. … ในวาระ 2 วาระ 3 ต่อจากเมื่อวานนี้ ( 6 มี.ค.)

โดยนายสนิท อักษรแก้ว ประธานกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ในมาตรา 63 ถึงความจำเป็นที่ต้องบัญญัติกรอบมติคณะรัฐมนตรี ปี 2541 และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 66/2557 ไว้ในกฎหมาย เพราะเป็นการวางกรอบเวลาของกฎหมาย เพื่อไม่ให้ผู้ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติ ได้รับความเดือดร้อน และไม่มีความจำเป็นต้องใส่มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีปี 2541 ถือว่าครอบคลุมแล้ว ขอยืนยันว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่มีวาระซ่อนเร้นแต่อย่างใด


“ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติมากกว่า 60 ปี ไม่มีความสุขสบาย ไม่ได้รับความสะดวก กฎหมายนี้จะช่วยให้ทุกอย่างถูกต้อง ทำให้ชาวบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างความสมดุลระหว่างการอยู่ของชุมชนในอุทยานแห่งชาติและทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญอย่างยิ่ง” นายสนิท กล่าว

ด้านนายวีระยุทธ วรรณเลิศสกุล ผู้อำนวยการส่วนจัดการที่ดินและชุมชนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ในฐานะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องบัญญัติมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 เพราะมติดังกล่าวเป็นมติรองรับความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ที่เห็นชอบให้ราษฎรอยู่อาศัยและใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ รวมทั้งกรอบเวลาที่ใช้เป็นไปตามบทบัญญัติในมาตรา 63 ซึ่งมีความชัดเจนและครอบคลุมแล้ว และมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นมติคณะรัฐมนตรีรวมที่เกี่ยวกับป่าไม้ทั้ง 5 พื้นที่

ขณะที่นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. อภิปรายว่า มติคณะรัฐมนตรีปี 2541 จะเป็นประโยชน์ต่อชุมชนที่อยู่ในเขตอนุรักษ์ และหากนำมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 ใส่ไว้ในกฎหมาย อาจทำให้เกิดความขัดข้องและกระทบต่อชาวบ้าน แต่สามารถนำไปบัญญัติไว้ในข้อสังเกต เพื่อให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้ ร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติได้ รวมทั้งการบัญญัติให้ชุมชนมีส่วนร่วมในกฎหมายฉบับนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะผลประโยชน์จะถึงชาวบ้านอย่างแท้จริง


อย่างไรก็ตาม ในที่สุดแล้ว ที่ประชุมได้มีมติเห็นควรให้แก้ไขตามกรรมาธิการเสียงข้างมากในวรรคสาม ของมาตรา 63 นอกจากนี้ สนช.ได้แสดงความเป็นห่วงว่าร่างกฎหมายนี้ จะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่หาของป่า เก็บเห็ดแล้วถูกจับกุมดำเนินคดีจำนวนมาก รวมทั้งยังมีสัตว์ที่ชาวบ้าน ชนเผ่า หรือชนพื้นเมืองที่เลี้ยงเป็นสัตว์ปล่อย เพราะไม่มีทุ่งหญ้าอยู่บริเวณบ้าน จึงปล่อยเข้าป่า แล้วไปตามจับ จะเป็นปัญหาหรือไม่

พล.ร.อ.ธราธร ขจิตสุวรรณ สมาชิก สนช. อภิปรายแสดงความสงสัยในมาตรา 64 ถึงคำว่าประเภทและชนิดของทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถเกิดใหม่ทดแทนได้ในอุทยานแห่งชาติ ที่ได้ประกาศกำหนดโดยพระราชกฤษฎีกาก่อนวันที่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ใช้บังคับ คืออะไรบ้าง อยากให้มีบัญชีแนบท้ายสัตว์และพืชให้ชัดเจน 

ด้านนายชลธร ชำนาญคิด ผู้อำนวยการส่วนวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอุทยานแห่งชาติ ในฐานะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ. มาตรา 64 นี้ ประเด็นสำคัญ คือ การแก้ไขปัญหากรณีที่ประชาชนเข้ามาเก็บหา พึ่งพิงทรัพยากรบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประมงพื้นบ้าน การเก็บหาของป่าบางอย่าง เช่น หน่อไม้ เห็ด หรือ สวนไผ่นั้น จะมีการทำการศึกษาแบ่งโซนสำรวจ โดยใช้เงื่อนไขเวลา 240 วันตามวรรคหนึ่งที่กำหนดไว้ เพื่อดูว่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติแห่งใดที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีไว้ก่อนแล้ว พื้นที่นั้นตรงไหนบ้างที่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรา 64 โดยจะศึกษาความเหมาะสมว่ามีทรัพยากรใดบ้างที่จำเป็นให้ใช้ประโยชน์ และถ้าใช้ไปแล้ว ก็ต้องส่งเสริมฟื้นฟู สำหรับในส่วนทรัพยากรที่ทดแทนได้ เป็นเรื่องที่ต้องศึกษาต่อในการที่จะอนุญาตให้มีการเก็บหาของป่า หรือพึ่งพิง ซึ่งทั้งหมดจะต้องจัดทำแนวเขต โดยเป็นหน้าที่ของนักวิชาการที่จะต้องศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนในกรอบเวลาดังกล่าว

ภายหลังการชี้แจง สนช.ก็ไม่ติดใจ และมีมติเห็นชอบกับร่างแก้ไขของกรรมาธิการฯ และมีมติ 140 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง เห็นสมควรประกาศใช้ร่าง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. …. เป็นกฎหมาย และเห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ จากนั้นจะจัดส่งให้คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรางานว่า ตามร่าง พ.รบ.ฉบับนี้ ได้มีการกำหนดบทลงโทษผู้กระทำผิด โดยกรรมาธิการฯ และ สนช.เห็นชอบตามมาตรา 42 ที่ระบุว่าผู้ใดเก็บหา นำออกไป ทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพ ซึ่งไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ปิโตรเลียม หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น หรือกระทำการอื่นใดอันส่งผลต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ หรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤษศาตร์ หรือสวนรุกขชาติ อันเป็นการฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนความผิดหากเป็นการกระทำแก่ธรรมชาติที่สามารถเกิดใหม่ทดแทนได้ตามฤดูกาล และมีมูลค่ารวมกันไม่เกิน 2,000 บาท ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5 พันบาท ส่วนการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหาแก่ไม้ที่เป็นต้น หรือเป็นท่อนอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างรวมกันเกิน 20 ต้น หรือท่อน หรือรวมปริมาณไม้เกิน 4 ลูกบาศก์เมตร ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 4 แสนบาทถึง 2 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอด “ภูมะเขือ” กองทัพยึดคืนพื้นที่เบ็ดเสร็จ

26 ก.ค.- ธงชาติไทยโบกสะบัด! ปักยอด “ภูมะเขือ” หลังทหารไทยเปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่คืนจากฝ่ายกัมพูชาสำเร็จช่วงเย็นวานนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า เมื่อเวลา 09.20 น. ได้มีการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดภูมะเขือ หลังจากที่ทหารไทยได้เปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งเป็นบริเวณที่ฝ่ายทหารกัมพูชาได้วางกำลังไว้อย่างหนาแน่น และสามารถยึดพื้นที่ได้สำเร็จเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความพยายามจากฝ่ายกัมพูชาในการเข้าตีเพื่อแย่งยึดพื้นที่คืนอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการระดมยิงปืนใหญ่และเตรียมการจัดกำลังเข้าตีตอบโต้ฝ่ายไทย -สำนักข่าวไทย

นาวิกโยธินคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง

26 ก.ค.- เหตุปะทะชายแดนตราด ทหารนาวิกโยธิน ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง ถอยร่นออกจากพื้นที่อธิปไตยไทย ส่วนประชาชนอพยพไปที่ปลอดภัย เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 26 ก.ค.69 รายงานข่าวจากหน่วยความมั่นคงจังหวัดตราด เปิดเผยว่าถึงสถานการณ์ บริเวณบ้านชำราก จ.ตราด ทหารกัมพูชา ได้วางกำลังรุกล้ำเขตแดนไทย 3 จุดเปิดฉากยิงทหารไทย เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยกำลังทหารนาวิกโยธิน ได้เปิดยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี1” จนสามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ผลักดันกำลังทหารกัมพูชา ออกนอกพื้นที่ ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนประชาชนพื้นที่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ได้อพยพไปพื้นที่ปลอดภัย ในอำเภอเมืองตราด ประมาณ 75 เปอร์เซนต์เมื่อวันที่ 24-25 ก.ค.68 -สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 26 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง เตือน 7 จังหวัดรับมือ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “ก๋อมัย” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย.- สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]