สนช.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ

รัฐสภา 7 มี.ค.-สนช.เห็นชอบให้ร่าง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. … ประกาศใช้เป็นกฎหมาย ยืนยันไม่มีวาระซ่อนเร้น ให้คนอยู่ร่วมกับป่าและร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติได้ พร้อมให้นักวิชาการกำหนดแนวเขตหาของป่าในเวลา 240 วัน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้  (7 มี.ค.) มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. … ในวาระ 2 วาระ 3 ต่อจากเมื่อวานนี้ ( 6 มี.ค.)

โดยนายสนิท อักษรแก้ว ประธานกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ในมาตรา 63 ถึงความจำเป็นที่ต้องบัญญัติกรอบมติคณะรัฐมนตรี ปี 2541 และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 66/2557 ไว้ในกฎหมาย เพราะเป็นการวางกรอบเวลาของกฎหมาย เพื่อไม่ให้ผู้ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติ ได้รับความเดือดร้อน และไม่มีความจำเป็นต้องใส่มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีปี 2541 ถือว่าครอบคลุมแล้ว ขอยืนยันว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่มีวาระซ่อนเร้นแต่อย่างใด


“ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติมากกว่า 60 ปี ไม่มีความสุขสบาย ไม่ได้รับความสะดวก กฎหมายนี้จะช่วยให้ทุกอย่างถูกต้อง ทำให้ชาวบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างความสมดุลระหว่างการอยู่ของชุมชนในอุทยานแห่งชาติและทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญอย่างยิ่ง” นายสนิท กล่าว

ด้านนายวีระยุทธ วรรณเลิศสกุล ผู้อำนวยการส่วนจัดการที่ดินและชุมชนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ในฐานะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องบัญญัติมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 เพราะมติดังกล่าวเป็นมติรองรับความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ที่เห็นชอบให้ราษฎรอยู่อาศัยและใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ รวมทั้งกรอบเวลาที่ใช้เป็นไปตามบทบัญญัติในมาตรา 63 ซึ่งมีความชัดเจนและครอบคลุมแล้ว และมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นมติคณะรัฐมนตรีรวมที่เกี่ยวกับป่าไม้ทั้ง 5 พื้นที่

ขณะที่นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. อภิปรายว่า มติคณะรัฐมนตรีปี 2541 จะเป็นประโยชน์ต่อชุมชนที่อยู่ในเขตอนุรักษ์ และหากนำมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 ใส่ไว้ในกฎหมาย อาจทำให้เกิดความขัดข้องและกระทบต่อชาวบ้าน แต่สามารถนำไปบัญญัติไว้ในข้อสังเกต เพื่อให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้ ร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติได้ รวมทั้งการบัญญัติให้ชุมชนมีส่วนร่วมในกฎหมายฉบับนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะผลประโยชน์จะถึงชาวบ้านอย่างแท้จริง


อย่างไรก็ตาม ในที่สุดแล้ว ที่ประชุมได้มีมติเห็นควรให้แก้ไขตามกรรมาธิการเสียงข้างมากในวรรคสาม ของมาตรา 63 นอกจากนี้ สนช.ได้แสดงความเป็นห่วงว่าร่างกฎหมายนี้ จะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่หาของป่า เก็บเห็ดแล้วถูกจับกุมดำเนินคดีจำนวนมาก รวมทั้งยังมีสัตว์ที่ชาวบ้าน ชนเผ่า หรือชนพื้นเมืองที่เลี้ยงเป็นสัตว์ปล่อย เพราะไม่มีทุ่งหญ้าอยู่บริเวณบ้าน จึงปล่อยเข้าป่า แล้วไปตามจับ จะเป็นปัญหาหรือไม่

พล.ร.อ.ธราธร ขจิตสุวรรณ สมาชิก สนช. อภิปรายแสดงความสงสัยในมาตรา 64 ถึงคำว่าประเภทและชนิดของทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถเกิดใหม่ทดแทนได้ในอุทยานแห่งชาติ ที่ได้ประกาศกำหนดโดยพระราชกฤษฎีกาก่อนวันที่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ใช้บังคับ คืออะไรบ้าง อยากให้มีบัญชีแนบท้ายสัตว์และพืชให้ชัดเจน 

ด้านนายชลธร ชำนาญคิด ผู้อำนวยการส่วนวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอุทยานแห่งชาติ ในฐานะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ. มาตรา 64 นี้ ประเด็นสำคัญ คือ การแก้ไขปัญหากรณีที่ประชาชนเข้ามาเก็บหา พึ่งพิงทรัพยากรบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประมงพื้นบ้าน การเก็บหาของป่าบางอย่าง เช่น หน่อไม้ เห็ด หรือ สวนไผ่นั้น จะมีการทำการศึกษาแบ่งโซนสำรวจ โดยใช้เงื่อนไขเวลา 240 วันตามวรรคหนึ่งที่กำหนดไว้ เพื่อดูว่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติแห่งใดที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีไว้ก่อนแล้ว พื้นที่นั้นตรงไหนบ้างที่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรา 64 โดยจะศึกษาความเหมาะสมว่ามีทรัพยากรใดบ้างที่จำเป็นให้ใช้ประโยชน์ และถ้าใช้ไปแล้ว ก็ต้องส่งเสริมฟื้นฟู สำหรับในส่วนทรัพยากรที่ทดแทนได้ เป็นเรื่องที่ต้องศึกษาต่อในการที่จะอนุญาตให้มีการเก็บหาของป่า หรือพึ่งพิง ซึ่งทั้งหมดจะต้องจัดทำแนวเขต โดยเป็นหน้าที่ของนักวิชาการที่จะต้องศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนในกรอบเวลาดังกล่าว

ภายหลังการชี้แจง สนช.ก็ไม่ติดใจ และมีมติเห็นชอบกับร่างแก้ไขของกรรมาธิการฯ และมีมติ 140 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง เห็นสมควรประกาศใช้ร่าง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. …. เป็นกฎหมาย และเห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ จากนั้นจะจัดส่งให้คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรางานว่า ตามร่าง พ.รบ.ฉบับนี้ ได้มีการกำหนดบทลงโทษผู้กระทำผิด โดยกรรมาธิการฯ และ สนช.เห็นชอบตามมาตรา 42 ที่ระบุว่าผู้ใดเก็บหา นำออกไป ทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพ ซึ่งไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ปิโตรเลียม หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น หรือกระทำการอื่นใดอันส่งผลต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ หรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤษศาตร์ หรือสวนรุกขชาติ อันเป็นการฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนความผิดหากเป็นการกระทำแก่ธรรมชาติที่สามารถเกิดใหม่ทดแทนได้ตามฤดูกาล และมีมูลค่ารวมกันไม่เกิน 2,000 บาท ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5 พันบาท ส่วนการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหาแก่ไม้ที่เป็นต้น หรือเป็นท่อนอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างรวมกันเกิน 20 ต้น หรือท่อน หรือรวมปริมาณไม้เกิน 4 ลูกบาศก์เมตร ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 4 แสนบาทถึง 2 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่